แผ่นดินไหวพร้อมกัน “เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน” เกิดปรากฎการณ์ทรายระเบิดที่เชียงราย เป็นครั้งแรกในไทย
เมื่อเวลา 11.07 น.วันนี้ (25 พ.ค.) สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3 ริกเตอร์ ที่ละติจูดที่ 18.92 องศา ลองติจูดที่ 98.26 องศา จุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ โดยนายวรศักดิ์ พานทอง ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.กัลยาณิวัฒนา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ให้กำนัน ผู้ใหญ่ และฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหาย ปรากฏว่าไม่ได้รับความเสียหายใดๆ กับชีวิตและทรัพย์สิน โดยความแรงของแผ่นดินไหวดังกล่าวไม่สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว ได้ แต่ก็ให้ทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หากพบแผ่นดินไหวที่รุนแรงจะรีบดำเนินการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ทันที เพราะพื้นที่ภูมิประเทศของ อ.กัลยาณิวัฒนาอยู่บนเขาสูง
ด้าน นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.07 น.วันเดียวกัน ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 ริกเตอร์ ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในบริเวณแนวรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน แต่ยังไม่รายงานความเสียหายเกิดขึ้น โดยปกติแล้วรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอนถือเป็น 1 ใน 13 รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย ซึ่งโดยเฉลี่ยจะเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 2 ปีต่อครั้ง และมีขนาดไม่เกิน 4 ริกเตอร์ อย่างไรก็ตามการสั่นไหวในเขต อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ยังไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติ
นายเลิศสิน กล่าวว่า ทางกรมทรัพยากรธรณีจับตาการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนในเขตภาคเหนือ โดยเฉพาะรอยเลื่อนแม่จัน เนื่องจากหลังแผ่นดินไหวในฝั่งพม่าจากรอยเลื่อนน้ำมา เมื่อ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ขนาด 6.7 ริกเตอร์ พบว่ามีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นแล้วกว่า 200 ครั้งขนาด และยังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลง ถึงแม้ขนาดความแรงจะลดลงไปเรื่อยๆ และยังพบว่ามีการขยับระยะทางมาใกล้บริเวณรอยเลื่อนแม่จันมากขึ้น ที่สำคัญยังพบปรากฎการณ์ทรายระเบิดกลางทุ่งนาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันเดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวที่พม่า และเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะปรากฎการณ์นี้จะเป็นอันตรายต่อสิ่งก่อสร้างที่ทำให้พังทลายลงมาได้ง่าย เหมือนกับที่เคยเกิดเม็กซิโกซิตี้เมื่อหลายปีก่อน ที่แผ่นดินไหวแล้วมีทรายระเบิด
“โชคดีที่การเกิดทรายระเบิดครั้งนี้ อยู่ในทุ่งนาของชาวบ้าน ซึ่งเห็นว่ามีกองทรายผุดขึ้นมาเยอะมาก แต่ก็ส่งผลให้ถนนหลวงพังเป็นระยะทาง 100-200 เมตร โดยขณะนี้กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งเจ้าหน้าที่ศึกษา และสำรวจตะกอนบริเวณรอยเลื่อนแม่จัน ว่ามีตะกอนที่เอื้อต่อการแผ่ขยายคลื่นแผ่นดินไหวเหมือนชั้นดินในเขต กทม.หรือไม่ รวมทั้งยังเข้าสำรวจบริเวณหมู่บ้านที่เกิดปรากฎการณ์ทรายระเบิดด้วย ทั้งนี้เพื่อเก็บข้อมูลไว้ศึกษาวิจัยในอนาคตด้วย” นายเลิศสิน ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวติดต่อกัน 3 ครั้งในเขต 5 อำเภอของ จ.เชียงราย คือ เมื่อเวลา 04.16 น.ขนาด 3.9 ริกเตอร์ เวลา 04.24 น.ขนาด 3.2 ริกเตอร์ และเวลา 8.25 น.ขนาด 4.6 ริกเตอร์ ซึ่งแม้กรมทรัพยากรธรณีจะยืนยันว่าเป็นอาฟเตอร์ช็อกของเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่รอยเลื่อนน้ำมาของพม่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม แต่เริ่มพบว่าการเกิดแผ่นดินไหวระดับ 3-4 ริกเตอร์ติดต่อในช่วง 2 สัปดาห์นี้ แม้จะยังอยู่ในระดับที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ
เมื่อเวลา 11.07 น.วันนี้ (25 พ.ค.) สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3 ริกเตอร์ ที่ละติจูดที่ 18.92 องศา ลองติจูดที่ 98.26 องศา จุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ โดยนายวรศักดิ์ พานทอง ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.กัลยาณิวัฒนา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ให้กำนัน ผู้ใหญ่ และฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหาย ปรากฏว่าไม่ได้รับความเสียหายใดๆ กับชีวิตและทรัพย์สิน โดยความแรงของแผ่นดินไหวดังกล่าวไม่สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว ได้ แต่ก็ให้ทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หากพบแผ่นดินไหวที่รุนแรงจะรีบดำเนินการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ทันที เพราะพื้นที่ภูมิประเทศของ อ.กัลยาณิวัฒนาอยู่บนเขาสูง
ด้าน นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.07 น.วันเดียวกัน ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 ริกเตอร์ ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในบริเวณแนวรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน แต่ยังไม่รายงานความเสียหายเกิดขึ้น โดยปกติแล้วรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอนถือเป็น 1 ใน 13 รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย ซึ่งโดยเฉลี่ยจะเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 2 ปีต่อครั้ง และมีขนาดไม่เกิน 4 ริกเตอร์ อย่างไรก็ตามการสั่นไหวในเขต อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ยังไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติ
นายเลิศสิน กล่าวว่า ทางกรมทรัพยากรธรณีจับตาการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนในเขตภาคเหนือ โดยเฉพาะรอยเลื่อนแม่จัน เนื่องจากหลังแผ่นดินไหวในฝั่งพม่าจากรอยเลื่อนน้ำมา เมื่อ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ขนาด 6.7 ริกเตอร์ พบว่ามีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นแล้วกว่า 200 ครั้งขนาด และยังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลง ถึงแม้ขนาดความแรงจะลดลงไปเรื่อยๆ และยังพบว่ามีการขยับระยะทางมาใกล้บริเวณรอยเลื่อนแม่จันมากขึ้น ที่สำคัญยังพบปรากฎการณ์ทรายระเบิดกลางทุ่งนาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันเดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวที่พม่า และเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะปรากฎการณ์นี้จะเป็นอันตรายต่อสิ่งก่อสร้างที่ทำให้พังทลายลงมาได้ง่าย เหมือนกับที่เคยเกิดเม็กซิโกซิตี้เมื่อหลายปีก่อน ที่แผ่นดินไหวแล้วมีทรายระเบิด
“โชคดีที่การเกิดทรายระเบิดครั้งนี้ อยู่ในทุ่งนาของชาวบ้าน ซึ่งเห็นว่ามีกองทรายผุดขึ้นมาเยอะมาก แต่ก็ส่งผลให้ถนนหลวงพังเป็นระยะทาง 100-200 เมตร โดยขณะนี้กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งเจ้าหน้าที่ศึกษา และสำรวจตะกอนบริเวณรอยเลื่อนแม่จัน ว่ามีตะกอนที่เอื้อต่อการแผ่ขยายคลื่นแผ่นดินไหวเหมือนชั้นดินในเขต กทม.หรือไม่ รวมทั้งยังเข้าสำรวจบริเวณหมู่บ้านที่เกิดปรากฎการณ์ทรายระเบิดด้วย ทั้งนี้เพื่อเก็บข้อมูลไว้ศึกษาวิจัยในอนาคตด้วย” นายเลิศสิน ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวติดต่อกัน 3 ครั้งในเขต 5 อำเภอของ จ.เชียงราย คือ เมื่อเวลา 04.16 น.ขนาด 3.9 ริกเตอร์ เวลา 04.24 น.ขนาด 3.2 ริกเตอร์ และเวลา 8.25 น.ขนาด 4.6 ริกเตอร์ ซึ่งแม้กรมทรัพยากรธรณีจะยืนยันว่าเป็นอาฟเตอร์ช็อกของเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่รอยเลื่อนน้ำมาของพม่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม แต่เริ่มพบว่าการเกิดแผ่นดินไหวระดับ 3-4 ริกเตอร์ติดต่อในช่วง 2 สัปดาห์นี้ แม้จะยังอยู่ในระดับที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ



