เขย่า-เขื่อนแตก!กทม.น้ำท่วม2ม. 'พิจิตต'อ้างผลศึกษาแผ่นดินไหว
วันที่ 15 ม.ค. 2553
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
เตือนประเทศไทยเสี่ยงแผ่นดินไหว โดยเฉพาะจากรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ที่อาจทำให้เขื่อนใหญ่ 2 แห่งแตก "พิจิตต" ชี้เมืองกาญจน์ที่ตั้งเขื่อนจะจมน้ำใน 5 ชั่วโมงสูงถึง 25 เมตร ส่วน กทม.น้ำท่วมสูง 2 เมตรใน 35 ชั่วโมง หรืออาจสูงเท่าตึก 2 ชั้น
นายพิจิตต รัตตกุล ผู้อำนวยการองค์กรศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (เอดีพีซี) อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติร้ายแรงแผ่นดินไหวที่ประเทศไฮติ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากว่า เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับประเทศไทยในเรื่องการเตรียมความพร้อมรับ มือปัญหาแผ่นดินไหว
อดีตผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า จากการหารือกับหน่วยงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดมีการแสดงความเป็นห่วงเรื่องปัญหาแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้น ที่จังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เพราะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่งคือ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งตั้งอยู่บนแนวแขนงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และเจดีย์สามองค์ ที่แยกจากแนวรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า หากเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงแล้วจะทำให้เขื่อนศรีนครินทร์แตก สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง
"ผลที่ตามมาจะมีปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลไหลลงสู่ด้านล่าง ภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมงน้ำจะไปถึงตัวอำเภอเมืองฯ จังหวัดกาญจนบุรี ในระดับความสูง 25 เมตร ภายใน 11 ชั่วโมงน้ำจะไปถึงอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในระดับ 7.5 เมตร ภายใน 23 ชั่วโมงน้ำจะไปถึงอำเภอเมืองราชบุรี และจังหวัดนครปฐม ในระดับ 2 เมตร และภายใน 35 ชั่วโมงน้ำจะมาถึงกรุงเทพมหานครในระดับความสูง 2 เมตร" นายพิจิตตกล่าว
เขากล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้คำนวณและสร้างแบบจำลองขึ้นมา เพราะฉะนั้นจังหวัดต่างๆ ตามเส้นทางน้ำหลากที่กล่าวมา จะต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านการให้ความรู้กับประชาชน การวางแผนป้องกัน ทั้งแผนอพยพประชาชน แผนดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่มีประชาชนอยู่อาศัยหลายล้านคน มีปัญหารถติด จะต้องหาเส้นทางอพยพที่ไม่สวนกระแสน้ำ เพราะน้ำจะไหลมาตามถนนสายหลักอย่างถนนเพชรเกษมแน่นอน และหากช่วงดังกล่าวมีน้ำทะเลหนุนสูง ระดับน้ำอาจสูงเกิน 2 เมตร หรือตึก 2 ชั้นก็ได้
นายพิจิตตกล่าวว่า เอดีพีซีได้ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จัดทำแผนระดับชาติและคณะรัฐมนตรัอนุมัติแล้ว ให้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมถึงแผ่นดินไหวด้วย
ประเทศไทยมีรอยเลื่อนสำคัญที่เสี่ยงต่อเกิดแผนดินไหว 9 รอยเลื่อนคือ 1.รอยเลื่อนเชียงแสน ยาว 130 กม. เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3 ริกเตอร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง 2.รอยเลื่อนแพร่ ยาว 115 กม. เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3-4 ริกเตอร์ ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง 3.รอยเลื่อนแม่ทา ยาว 55 กม. มีแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นบ่อยครั้ง 4.รอยเลื่อนเถิน ยาว 90 กม. เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.7 ริกเตอร์ เมื่อปี 2524 5.รอยเลื่อนเมย-อุทัยธานี ยาว 250 กม.เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ เมื่อปี 2518
6.รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ยาว 500 กม. มีแผ่นดินไหวขนาดเล็กไม่น้อยกว่า 100 ครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2526 มีขนาด 5.6 ริกเตอร์ 7.รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ยาว 250 กม. เกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อยหลายพันครั้ง 8.รอยเลื่อนระนอง ยาว 270 กม. เกิดแผ่นดินไหว 1 ครั้ง ปี 2521 ขนาด 5.6 ริกเตอร์ และ 9.รอยเลื่อนคลองมะรุย เคยเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อย ที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงในปี 2476, 2519 และ 2542
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวที่เกิดจากรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขื่อนทั้ง 2 แห่ง เคยเกิดแผ่นดินไหวในเดือนเมษายน 2526 ถึง 3 ครั้ง สูงสุดขนาด 5.99 ริกเตอร์
ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asia Disaster Preparedness Center-ADPC) ขณะนี้มีสมาชิกทั้งสิ้น 23 ประเทศ ลักษณะการทำงานจะไม่แข่งขันกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติในแต่ละประเทศที่ เป็นสมาชิก แต่จะทำงานในลักษณะเสริมกัน เพื่อให้ศูนย์เตือนภัยของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น.
|
|