วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เตือนภัย..สองพันห้า!.. ไม่จำเป็นต้องเชื่อ!.. แต่จำเป็นต้องรู้!..

เตือนภัย..สองพันห้า!.. ไม่จำเป็นต้องเชื่อ!.. แต่จำเป็นต้องรู้!..

     ... ไม่จำเป็นต้องเชื่อ!... แต่จำเป็นต้องรู้!...

ประโยคนี้จากเรา... ท่านทั้งหลายคงพอเข้าใจ...
      เรามิได้มีเจตตนามากล่าวเพื่อทำให้ใครแตกตื่น หรือหวาดกลัวเลยสักนิด แต่เรามากล่าวเตือนภัยตามหน้าที่ของความเป็นเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่ง เมื่อเราพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง ตามกรณีศึกษาค้นคว้าของเรามานานหลายปี เราพอจะรุปให้ท่านทั้งหลายได้รู้ได้พิจารณาดด้วยดังนี้!..
     โบราณท่านกล่าวไว้... สองพันห้า โลกาจะไหวหวั่น ... น้ำจะท่วมฟ้าปลาจะกินดาว ... เทวดา จะเอาเขิงคำมาร่อนคน ... คนจะตายเกลื่อนเหมือนขอนสุมไร่ ... คนจะเหลืออยู่ สามร่มโพธิ์ศรี ... ผู้มีวาสนาอยู่รอด จะได้พบผู้มีบุญ นามว่า พญาธัมมิกราช มาเกิดเพื่อบำรุงสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕๐๐๐ ปี ตามพุทธวจนะที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้แล้วนั้น ... ฯลฯ ...
     หลวงปู่เสถียร ฐิตะสีโล แห่งวัดภูนกหงส์หิน ตระกาลพืชผล อุบลราชธานี  เคยบอกเตือนไว้เมือ ๕ ปีก่อนว่า " เมื่อน้ำถ่วมโคราชแล้วเมื่อใด เมื่อนั้นภัยพิบัติจะเกิดข้นเหมือนดอกเห็ด "  ใครจะเชื่อว่าน้ำจะท่วมโคราชได้ แต่ก็เป็นไปแล้วตามที่ท่านเคยบอกเตือนเอาไว้.. เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ จึงจำเป็นที่จะต้องล้มและลุกให้ได้ก่อนใครเขา ดังนั้น! นับแต่นี้ไปเมืองไทยอาจจะเป็นเป้าหมายแรกที่หนักที่สุดของภัยพิบัติ ปี ๕๔ - ๕๕ - ๕๖ ช่วงนี้จับตาดูให้ดี ท่าจะยิ่งกว่าญี่ปุ่นที่ผ่านมา หลังจากที่เมืองไทยเรารับหนักและเริ่มสงบลง เข้มแข็งได้แล้ว เป้าหมายใหญ่ต่อไปก็คือทั่วโลก..  ตั้งแต่หน้าฝนนี้เป็นต้นไปไม่มีอะไรไว้ใจ ได้ทั้งนั้น ผู้ที่อยู่ใกล้ทะเล เขื่อนใหญ่ และเขตภูเขาสูง น่ากลัวและอันตรายมาก พึงสังวรไว้ว่านี่คือการล้างโลกครั้งใหญ่ที่สุด จึงสาหัสไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่มีครั้งใด ที่มนุษย์จะต้องทุกข์หนักเหมือนครั้งนี้ ... แต่ไม่ใช่โลกแตกจนสิ้น อย่างที่หลายๆคนเข้าใจดอก  
     ท่านว่าไว้ว่า ถ้านับในโลกแล้ว ประเทศที่เจอวิบัติภัยน้อยที่สุดในโลก คือ ประเทศลาว เพราะดำรงพระพุทธศาสนาไว้ได้ดีกว่าใครๆในโลก รองลงมา คือ ประเทศไทย แต่ถ้านับเฉพาะในประเทศไทย ท่านว่าจังหวัดที่เจอวิบัติภัยน้อยที่สุด คือ อุบลฯ กับ ศรีสะเกษ ... ท่านว่าหากภัยมาจริง ให้สังเกตุเส้นทางที่จะไปสู๋อี่สานใต้ อย่าปล่อยให้เส้นทางถูกตัดขาดไปหมดเสียก่อน ไม่เช่นนั้น! จะไปสู่ที่ปลอดภัยไม่ทัน ช่วงนี้หากใครย้ายถิ่นฐานได้ก็ควรย้าย เพราะเวลามันเกิดจริงแล้วจะหนีกันไม่ทัน ส่วนลูกหลานอี่สานใต้ ศรีสะเกษ อุบล ที่อยู่ทางภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอื่นๆ ตอนนี้อย่าได้นิ่งนอนใจ ควรทยอยกันกลับบ้านได้แล้ว อย่ารีรออยู่จนภัยมันมาเยือน เขตพระธาตุพนมและคำชะโนด ท่านก็ว่าปลอดภัย.. ส่วนหนองคาย เห็นว่าจะเป็นเมืองพญานาค ฯลฯ ..
     ท่านว่าคนทั้งโลกจะเหลืออย่างมากประมาณ ๓๐ เปอร์เซ็น อย่างน้อย ๑๐ เปอร์เซ็น ประเทศไทยเรา หากฝ่ายธรรมมะป้องกันไว้ได้มากที่สุด น้ำทะเลน่าจะมาอยู่ที่เขตโคราช  แต่ถ้าหากไม่ไหวจริงๆ น้ำทะเลก็จะอยู่ที่เขตศรีสะเกษ  ต่อไปแม่น้ำมูล แม่น้ำโขงจะเปลี่ยนทิศ คือจะไหลย้อนกลับ เงินทองกองท่วมหัวหรือทิ้งเกลื่อถนนก็จะไร้ค่าหาผู้ใดใช้ก็ไม่มี  .. ทุกอย่างน่าจะสิ้นสุดลงในปี ๒๕๖๐  ฉนั้น แต่นี้ไปอย่าได้ประมาทเลยท่านทั้งหลาย  เตรียมตัวเอาไว้ ข้าวเหนียวตากแห้ง มาม่า ข้าวปลาอาหารอะไรที่เก็บไว้ได้นานๆ ควรตุนไว้ได้แล้ว ยิ่งที่กินได้เลยยิ่งดี ประทีป เทียน คารามายและยารักษาโรคต่างๆจำเป็นต้องมี เสื้อผ้า เครื่องกันหนาว อะไรเหล่านี้ สมควรเตรียมพร้อม ..ฯลฯ ..
    ผู้เฒ่าท่านหนึ่งบอกว่า ท่านนั่งสมาธิอยู่ พระพิฆเนศ มาบอกท่านว่า .. นับแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นมาและสืบไป โลกถึงกาลแห่งความเปลี่ยนแปลงจนไม่อาจจะหวนคืนได้อีกแล้ว ไม่มีใครจะแก้ไขได้ .. มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะมาแก้ไขได้ คือ พระมหาธรรมิกราช ... ท่านผู้เฒ่าว่า ก็พึ่งจะเคยได้ยิน ไม่รู้เหมือนกันว่าพระมหาธรรมิกราชนั้นเป็นใครอย่างไร เพราะท่านพระพิฆเนศไม่ยอมบอกอีกเลย
     ในกรณีศึกษาของเรานั้น โบรพาจารย์ ท่านกล่าวไว้ว่า ..หลังภัยพิบัติ คนจะเหลือน้อย เพียง สามร่มโพธิ์ศรี นั่นคือยุคพญาธัมมิกราช ผู้มีบุญ มาสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาและบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร? เห็นว่าจะหวนคืนสู่ยุคโบราณ ไม่ใช่ความเจริญทางวัตถุอย่างทุกวันนี้ ท่านจะมาเป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิธรรมิกราช ที่ไม่มีใครเสมอเหมือนได้เลยในโลก
***** ..... ฯลฯ ..... *****
เราจะไม่ฟันธงเรื่อวันเวลาที่แน่นอน เป็นยุทธวิธีของทั้งสองฝ่าย ธรรมมะ แล อธรรม ที่ช่วงชิงกันอยู่  บอกได้แต่เพียงว่า
... เวลานั้นเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่เหตุการณ์ยังไงก็ไม่เปลี่ยน!...

... ~ ไม่จำเป็นต้องเชื่อ!~  แต่จำเป็นต้องรู้! ~ ...

     ***** ..... ฯลฯ ..... *****
     ย้อนไปเมื่อเกือบ ๒๐ กว่าปีก่อน เราได้เริ่มศึกษาเรื่องภัยพิบัติ ทำให้เราหวาดกลัวแต่นั้นมา แต่เราจะไม่กลัวอย่างไร้เหตุผล "มันเป็นไปได้หรือ?" คือคำถามที่เราเฝ้าถามและเฝ้าค้นหาตลอดมา สมัยเกือบ ๓๐ ปีก่อนนั้น โลกนี้ยังสบายดีอยู่ เราเกิดมาก็มิได้เห็นว่ามันจะมีอะไรน่ากลัวอย่างทุกวันนี้เลย มีแต่คำทำนายต่างๆจากโบร่ำโบราณ สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน นับเป็นพันๆปี ว่าโลกนี้จะถูกล้างในกลียุคกึ่งพุทธกาล จะไม่ให้วิตกได้อย่างไรเล่า ก็เราเกิดในช่วงกึ่งพุทธกาลนี้เข้าให้เสียแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไร?...
     แหละแล้ว เมื่ออายุเราเริ่มเข้าสู่หมายเลข ๔ โลกก็เริ่มแสดงอาการให้เราได้เห็นชัดเจน ว่าโลกกำลังเจ็บป่วยอย่างรุนแรง ธรรมชาติกำลังแปรปรวนจากหน้ามือเป็นหลังมือ... มนุษย์กำลังเข้าสู่กลียุค แบบยั้งไม่อยู่กู้ไม่ได้... คำพยากรณ์ของโบรพาจารย์เริ่มเป็นจริงมากขึ้นแหละมากขึ้นทุกวัน บัดนี้เราไม่อาจะปฏิเสธความเป็นจริงเหล่านี้ได้อีกแล้ว แม้จะมีคนหัวสูงกล่าวหาด่าว่าเรางี่เง่างมงายก็ตามที ... ยิ่งใกล้ ๒๕๕๕ วิบัติภัยนาๆประการก็ยิ่งแสดงอาการขั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขนาดยอดอัจฉริยะอย่างญี่ปุ่นก็ยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะให้เราหันกลับไปเชื่อพวกสี่ตาหัวสูงได้อย่างไร? เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ไม่รู้ใครกำลังโกหกกันแน่ เราผู้เฝ้าดูอยู่กำลังเห็นว่าคำพยากรณ์ของคนโบราณเริ่มศักดิ์สิทธิ์และมี อานุภาพมากขึ้นและมากขึ้น นี่หรือที่โบราณท่านว่าไว้ว่า.. " พวกสี่ตาจะเป็นบ้า "
    "!~ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่จำเป็นต้องรู้!~"... เอาเป็นว่าเรามีเวลาน้อย เราสรุปกรณีศึกษาของเราให้ทราบเอาไว้ไม่มาก
     นับแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นต้นมาและเป็นต้นไปอีกสักระยะ โลกนี้เข้าสู้การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงสาหัสสากันต์ แบบไม่มีใครยับยั้งได้โดยแท้จริง ก็แค่พอบรรเทาบ้างก็เท่านั้น แล้วในที่สุดโลกก็จะเป็นไปดั่งคำพยากรณ์ของโบรพาจารย์... วินาศภัยแห่งกลียุค ในกึ่งพุทธกาล..เกิด แน่นอน ผู้ใดจะปฏิเสธความเป็นจริงเหล่านี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะถึงอย่างไรความเป็นจริงก็คือความเป็นจริงอยู่วันยันค่ำ  ในเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เดินทางมาเยือนตามคำพยากรณ์ของคนโบราณแล้วจริงๆ เพียงแค่เรื่องวันเวลาที่พยากรณ์นั้นมันอาจจะผิดเพี้ยนไป ไม่ตรงตามที่กล่าวพยากรณ์ไว้ไปบ้างก็เท่านั้นเอง ... เวลานั้นเปลี่ยนแปลงได้ แต่เหตุการณ์ยังไงก็ไม่เปลี่ยน ..
     อีกอย่างแต่นี้ไปเราจะได้ข่าว เรื่องความเชื่อและคำพยากรณ์ที่มากมายหลายสายหลายความเชื่อ ควาขัดแย้งจะหลากหลาย จนทำให้เราสับสน ไม่รู้จะเชื่อทางไหนดี สุดท้ายไม่เกิดตามที่กล่าว บ่อยครั้งเข้าคนเราก็จะตายใจ เมื่อตายใจ เมื่อนั้นอาจจะเป็นหลุมพรางที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมาก็เป็นได้ เพราะมารมีกลยุทธที่แยบยลเหนือการคาดเดาเอาง่ายๆได้ 

                 สำหรับ ข่าวเตือนภัยมีเพิ่มเติมมานิดหน่อย คือ   ที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆนั้น ให้รู้ว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าใกล้เมืองไทย เข้ามาทุกทีแล้ว โดยเฉพาะที่พม่า มีบางคำกล่าวว่าจริงๆแล้วนั้น จะเป็นคิวของไทย แต่เทพเทวาครูบาอาจารย์เบื้องบน ท่านยังพยายามผลักผันออกไปก่อน แต่อย่างไรก็ต้องถึงจนได้ในสองสามปีนี้คงจะได้เห็นกันแน่แท้    

              สอง ฝ่าย ธรรมมะ กับ อธรรม ต้องทำหน้าที่อย่างหนัก    ต่างฝ่ายต่างยื้อแย่งคนทั้งโลกไปอยู่เป็นฝ่ายตน ทุกวันนี้ผู้มีฤทธิ์มากมาย ทั้งดีและร้ายนับไม่ถ้วนออกมาใช้พลังฤทธิ์พลังความรู้ความสามารถของตนอย่างเต็มกำลัง   เพื่อที่จะทำให้มนุษย์และเหล่าสัตว์ทั้งหลายไหลไปตามความเชื่อหรือแนวทางของตน อย่าลืมว่าผู้มีฤทธิ์มากกว่า หลอกผู้มีฤทธิ์น้อยกว่าเป็นเรื่องธรรมดา... ต่อไปนี้จะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ มากมายหลายข่าวสารเดี๋ยวทางโน้นว่าอย่างนี้ ทางนี้ว่าอย่างนั้น สารพัดจะได้เห็นกันจนวุ่นวาย พูดจาในเรื่องเดียวกันแต่หาข้อสรุปลงตัวที่เหมือนกันไม่ได้ ...    เพราะ อินทร์พรหม เทพเทวา นาคาฟ้าดิน มาร เจ้ากรรมนายเวร ภูตผีปีศาจต่างๆนาๆ... ใช่ว่าจะมีแต่ฝ่ายดีซะที่ไหน? ย่อมมีฝ่ายชั่วด้วย... ใช่ว่าจะมีจิตญาณที่รู้ได้เท่าเทียมกันซะที่ไหน? ต่างตนต่างรู้ไปตามภูมิประสาวิบากของตน... ใช่ว่าจะมีเจตนาหน้าที่เหมือนกันซะที่ไหน? ต่างตนต่างจิตต่างใจต่างหน้าที่ ต่างภูมิคิดภูมิธรรม ภูมิรู้ภูมิชั้นภูมิหมู่ภูมิคณะสารพัดมากมายทั้งดีและไม่ดี ทั้งเชื่อได้และเชื่อไม่ได้ ย่อมวุ่นวายไปร้อยเรื่องพันราวให้ปวดหัว... เหมือนๆกันกับคนเรานี่แหละ หนักเข้าๆก็ต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม ผู้มีวาสนาบารมีน้อยย่อมยากที่จะมีเหตุปัจจัยมาทำให้แยกแยะออกว่าอะไรถูกอะไรผิด ข่าวสารจะเกิดขึ้นและเกิดขึ้น ๆ ๆอีกมากมาย จากที่ต่างๆให้เกิดความเชื่อและทางเลือกแห่งความปลอดภัย ถึงตอนนั้นก็ต้องแล้วแต่เวรแต่กรรมหละนะ ว่าใครผู้ใดจะถูกหลอกหรือไม่ถูกหลอก ต้องวัดดวง

               บอกแล้วว่า เทวดาจะเอาเขิงคำมาร่อน เพื่อให้คนเหลืออยู่สามร่มโพธิ์ศรี การเกิดกรณีที่แตกต่างมากมายนั้น ก็เป็นการคัดคนนั่นแหละ สุดท้ายใครจะตกไปอยู่ที่ใด ดีหรือร้ายย่อมจะได้เห็นในไม่ช้า จะเห็นมีความขัดแย้งเพราะความเชื่อเกิดขึ้นมากมาย
                การที่เราจะเชื่อเทพเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีฤทธิ์ มีวาสนาบารมี มีภูมิรู้ ภูมิธรรมต่างๆต่อไปนี้ จะต้องรู้จักใช้ปัญญาพิจารณาเป็นอย่างหนักพอสมควร เพราะสิ่งที่รับมารู้มานั้นจะมีทั้งจริงและไม่จริง ทั้งใช่และไม่ใช่ ทั้งผิดและถูก แน่และไม่แน่ หลอกและไม่หลอก เป็นบททดสอบอย่างหนัก แม้ผู้สมาธิ มีฤทธิ์ มีจิตหยั่งรู้ สื่อสารได้ ตลอดจนนักปราชญ์ราชบัณฑิตก็ยังเพลี่ยงพล้ำได้ ต่อไปนี้คงต้องลำบากกันหน่อยแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็น
คำพูดของเทวดาแล้ว จะเชื่อได้ทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือแล้วจะถูกต้องไปทั้งหมด ต่อไปความไม่แน่นอนทั้งปวงจะบังเกิดโจทย์อันยากแสนยากให้เราต้องแก้ไขฉะนั้น คนเราต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้... ในยาม ทุกข์ยามยากภัยพิบัติมืดฟ้ามัวดินมา
จริงๆท่านปู่เท่ห์(เสถียร)ว่าไว้ว่าต่อไปถึง ขั้นจะเห็นมีคนมาเคาะประตูบ้านให้เห็นเป็นหน้าตาญาติพี่น้องหรือคนในครอบ ครัวเราจริงๆด้วยซ้ำ  แต่กลับไม่ใช่!. เพราะหนักเข้าจะมีพวกมาร พวกเจ้ากรรมนายเวร พวกภูมิผีปีศาจ พวกผู้มีฤทธิ์ที่ไม่ประสงค์ดีหวังทำลายหรือมาหลอกหลอนต่างๆนาๆ จำแลงแปลงกายแอบแฝงมาทำให้เราหลงเชื่อ แล้วทำลายเราในที่สุด ท่านว่ารอดูไปเถอะแล้วจะได้เห็นเอง...ฯลฯ...
จับตาดูรอยเลื่อนนครนายก ท่านว่าจะเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังอันน่ากลัวตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ย้ำเตือนกันอีกครั้งผู้ที่อยู่เขตเมืองโคราชลงไปหาภาคกลางภาคใต้ให้เฝ้าระวังแผ่นดินไหวอย่าได้ประมาท ที่ไปทำมาหากินอยู่ทางภาคกลางภาคใต้ เป็น ไปได้ให้หาทางกลับบ้านได้ แล้ว อย่าอยู่รอจนมันเกิดเหตุแล้วหนีไม่ได้    ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ จะหนีออกมาอย่างไรได้เมื่อเกิดเหตุจริงรถก็ติดขวางทางกันวุ่นวายไปทั่ว ที่สำคัญหากส้นทางถูกตัดขาดหมดก็แย่ เฝ้าสังเกตที่เขตโคราชหรือเส้นทางสู่อีสานใต้หากที่หนึ่งขาดก็รีบเดินทาง เสียอย่ารอให้ที่เหลือถูกตัดขาดไปเสียหมด ไม่เช่นนั้นอาจ จะหมดโอกาสในการเอาตัวรอด เมื่อฟ้าถล่ม ดินทะลาย น้ำจะกวาดล้างมาเป็นตัวชำระอย่างบ้าคลั่ง ท่านจึงว่า น้ำจะท่วมฟ้าปลาจะกินดาว..ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่จำเป็นต้องรู้
แม้ตัวเราเอง ก็ไม่ต่างอะไรกับท่านทั้งหลาย ที่ต้องฟังหูไว้หูดูให้ดี..เฉกเช่นกัน.....

 

     แผ่นดินไหว .. น้ำท่วม .. พายุ .. ไฟไหม้ .. สงคราม .. โรคภัยไข้เจ็บ .. ข้าวยากหมากแพง .. ความหิวโหยอดอยาก .. ฯลฯ .. สารพัด .. เที่ยวนี้จะเป็นสงครามระหว่างธรรมมะ กับ อธรรม ทั้งสามภพ ... สองพันห้า มหาสงครามไตรภพ .. ล้างโลก!..พญานาคทั้งหลายผู้มีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาและผู้คนต้องการ กำลังบุญบารมีจากพวกเราอุทิศให้ เพื่อจะได้สู้กับเหล่ามารอธรรมทั้งหลายได้ เหล่านาคราชผู้รับอาสาจากพระพุทธเจ้าเอาไว้จะต้องทำงานหนักกว่าเทพเทวาทั้ง ปวง ฉะนั้นพวกเราและนาคจะต้องพึ่งกันและกัน อุทิศบุญให้ พญาศรีสุทโธนาคราชและบริวารนาคราชมากๆ เราจะได้มีผู้ปกป้องที่แข็งแกร่ง
ขอภาวนาให้ทุท่านปลอดภัย และมีความสุข ตั้งสติให้ดี ทำทุกอย่างให้รอบครอบ ใจเย็นแต่อย่าประมาท
...ไม่จำเป็นต้องเชื่อ!... แต่จำเป็นต้องรู้!...
เตือนร้อยครั้งพันหนให้ตกใจ! ยังดีกว่าครั้งเดียวหนเดียว ที่มันเกิด และกลืนกินชีวิตคนไปนับไม่ถ้วน!
ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

 comming daboods

comming daboods's picture
Posted by comming daboods on Mon, 2011-05-30 20:53