17/06 นักธรณีวิทยา เตือน ชาวบ้านระวังแช่น้ำชีร้อน เสี่ยงติดเชื้อโรคอันตรายต่อสุขภาพได้
จากที่เกิดปรากฏการณ์ น้ำในลำน้ำความลึกประมาณ 50-70 ซม. และดินใต้น้ำ ร้อนระอุเดือดผุดขึ้นเป็นจุดๆ เป็นบริเวณกว้าง ที่บริเวณบ้านพลวง คุ้มโคกช้าง ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์นั้น ได้มีชาวบ้านทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชรา พากันเดินทางมาพิสูจน์ด้วยตัวเองกันเป็นจำนวนมาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำในลำน้ำชีบริเวณดังกล่าว มีความร้อนสูงจริง บางคนได้นำไข่ไก่ไปฝังไว้ในโคลนใต้น้ำและทรายที่ร้อนระอุเพื่อพิสูจน์ว่าจะ ร้อนถึงขั้นทำให้ไข่ไก่ สุกได้ระดับไหน บางคนที่มีอาการเจ็บป่วย ปวดเข่า ปวดขา ปวดหลัง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ได้พากัน เดินทางมาลงแช่น้ำร้อนในลำน้ำชี เพราะเชื่อว่าจะรักษาอาการเจ็บป่วยได้ และมีปลาธรรมชาติที่ทนกับสภาพน้ำร้อนไม่ไหวได้ลอยขึ้นมาตายเหนือผิวน้ำจำนวน หนึ่ง ผู้สูงอายุที่อยู่ในหมู่บ้านบริเวณดังกล่าวต่างบอกว่า เพิ่งจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ถือเป็นเรื่องแปลกมาก
นายทินกร ทาทอง นักธรณีวิทยา กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ลำน้ำชีผุดร้อนที่บ้านพลวง จากการตรวจค่าทางเคมี โดยนำน้ำและดิน ตรวจในเบื้องต้นและได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่าเกิดจากการทับถมของซากอินทรีย์ วัตถุ การทับถมของเกลือโซเดียมฟอรายด์หรือโซดาไฟ ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารละลายน้ำ และซากอินทรียวัตถุมลภาวะทางน้ำที่ไหลผ่านไม่ย่อยสลาย เป็นเหตุให้เกิดความร้อนขึ้น นักเคมีตรวจพบปริมาณสารละลายในน้ำสูงถึง 14.960 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งปกติธรรมดาน้ำที่คนใช้ดื่มต้องอยู่ระหว่าง 750-1,500 มิลลิกรัมต่อลิตร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้แจ้งเตือนชาวบ้านที่แห่มาลงแช่น้ำเพื่อ รักษาโรคต่างๆตามความเชื่อให้ระวังการติดเชื้อและไม่ควรน้ำไปบริโภคโดยเด็ด ขาด เพราะอาจก่ออันตรายต่อสุขภาพได้ แต่ชาวบ้านจำนวนมากยังแห่เดินทางมาตักน้ำใส่ขวดและ แช่น้ำเพราะยังเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาโรคได้
ด้านนายอุกฤช กมลาสิงห์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับปฏิบัติการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า น้ำบริเวณนี้มีความเค็มสูงประมาณ 17 PPT. เกินครึ่งของความเค็มของน้ำทะเล ประกอบกับชาวบ้านแถวนี้สูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เยอะมาก น้ำบาดาลจะมีความเค็มอยู่แล้ว ประกอบกับพบรอยเลื่อนในชั้นดิน น้ำใต้ดินดันขึ้นมามาก และบริเวณนี้น้ำลึกประมาณ 50 ซม. ทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้น แต่ระดับความร้อนที่วัดได้ที่ผิวน้ำ ประมาณ 35-38 องศาเซลเซียส แต่จุดที่น้ำลึกความร้อนของน้ำก็ปกติ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาค 11 นครราชสีมา ได้นำดินและน้ำไปตรวจสอบแล้ว ประมาณ 1 สัปดาห์จะรู้ผล
ที่มา : มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ __________________
จากที่เกิดปรากฏการณ์ น้ำในลำน้ำความลึกประมาณ 50-70 ซม. และดินใต้น้ำ ร้อนระอุเดือดผุดขึ้นเป็นจุดๆ เป็นบริเวณกว้าง ที่บริเวณบ้านพลวง คุ้มโคกช้าง ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์นั้น ได้มีชาวบ้านทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชรา พากันเดินทางมาพิสูจน์ด้วยตัวเองกันเป็นจำนวนมาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำในลำน้ำชีบริเวณดังกล่าว มีความร้อนสูงจริง บางคนได้นำไข่ไก่ไปฝังไว้ในโคลนใต้น้ำและทรายที่ร้อนระอุเพื่อพิสูจน์ว่าจะ ร้อนถึงขั้นทำให้ไข่ไก่ สุกได้ระดับไหน บางคนที่มีอาการเจ็บป่วย ปวดเข่า ปวดขา ปวดหลัง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ได้พากัน เดินทางมาลงแช่น้ำร้อนในลำน้ำชี เพราะเชื่อว่าจะรักษาอาการเจ็บป่วยได้ และมีปลาธรรมชาติที่ทนกับสภาพน้ำร้อนไม่ไหวได้ลอยขึ้นมาตายเหนือผิวน้ำจำนวน หนึ่ง ผู้สูงอายุที่อยู่ในหมู่บ้านบริเวณดังกล่าวต่างบอกว่า เพิ่งจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ถือเป็นเรื่องแปลกมาก
นายทินกร ทาทอง นักธรณีวิทยา กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ลำน้ำชีผุดร้อนที่บ้านพลวง จากการตรวจค่าทางเคมี โดยนำน้ำและดิน ตรวจในเบื้องต้นและได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่าเกิดจากการทับถมของซากอินทรีย์ วัตถุ การทับถมของเกลือโซเดียมฟอรายด์หรือโซดาไฟ ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารละลายน้ำ และซากอินทรียวัตถุมลภาวะทางน้ำที่ไหลผ่านไม่ย่อยสลาย เป็นเหตุให้เกิดความร้อนขึ้น นักเคมีตรวจพบปริมาณสารละลายในน้ำสูงถึง 14.960 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งปกติธรรมดาน้ำที่คนใช้ดื่มต้องอยู่ระหว่าง 750-1,500 มิลลิกรัมต่อลิตร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้แจ้งเตือนชาวบ้านที่แห่มาลงแช่น้ำเพื่อ รักษาโรคต่างๆตามความเชื่อให้ระวังการติดเชื้อและไม่ควรน้ำไปบริโภคโดยเด็ด ขาด เพราะอาจก่ออันตรายต่อสุขภาพได้ แต่ชาวบ้านจำนวนมากยังแห่เดินทางมาตักน้ำใส่ขวดและ แช่น้ำเพราะยังเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาโรคได้
ด้านนายอุกฤช กมลาสิงห์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับปฏิบัติการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า น้ำบริเวณนี้มีความเค็มสูงประมาณ 17 PPT. เกินครึ่งของความเค็มของน้ำทะเล ประกอบกับชาวบ้านแถวนี้สูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เยอะมาก น้ำบาดาลจะมีความเค็มอยู่แล้ว ประกอบกับพบรอยเลื่อนในชั้นดิน น้ำใต้ดินดันขึ้นมามาก และบริเวณนี้น้ำลึกประมาณ 50 ซม. ทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้น แต่ระดับความร้อนที่วัดได้ที่ผิวน้ำ ประมาณ 35-38 องศาเซลเซียส แต่จุดที่น้ำลึกความร้อนของน้ำก็ปกติ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาค 11 นครราชสีมา ได้นำดินและน้ำไปตรวจสอบแล้ว ประมาณ 1 สัปดาห์จะรู้ผล
ที่มา : มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ __________________