ปภ.แถลงพิษพายุนกเตนคร่าชาวอุดรฯ 1 ศพ
วันที่ 02/08/2554 16:48

อธิบดี ปภ.แถลงพายุนกเตนทำให้น้ำท่วมแล้ว 14 จ. มีตายแล้ว 1 ศพที่อุดรธานี เตือนจุดเสี่ยง 37 จ.เหนือ-อีสาน ให้ระวังดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันในช่วง 1-2 วัน...
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อนนกเตน ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร รวม 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่อุดรธานี
อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำมีมากจึงจำเป็นที่จะต้องมีการพร่องน้ำออกเพื่อรักษาเขื่อน จึงอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่างและตอนกลาง ต่อพืชผลทางการเกษตร จึงต้องเข้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เกษตรกร จะต้องเร่งเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร ส่วนที่เพิ่งจะเพาะปลูก จะต้องจัดหาพื้นที่รองรับน้ำเพื่อรองรับผลกระทบที่จะตามมา โดยที่ผ่านมา มีบทเรียนจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว มีน้ำท่วมกระจายในหลายพื้นที่ ดังนั้น การทำงาน ระหว่างหน่วยงานจะต้องมีการบูรณาการการทำงานกันมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ การประสานงานบูรณาการเป็นไปอย่างดี มีการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกัน และมีศูนย์เฉพาะกิจแต่ละจังหวัด อำเภอ และแยกย่อยไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีการประสานไปยังระดับล่าง เตรียมการป้องกันภัยในทุกรูปแบบ และมีการซักซ้อมมาโดยตลอด
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม 37 จังหวัด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วง 1 – 2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนสี เป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ฝนตกหนักนานกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ ให้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ดังนั้นให้รีบอพยพออกนอกพื้นที่ทันที ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ปภ.อุดรฯส่งเรือท้องแบนช่วย 20 ชีวิตติดเกาะ 3 คืน
วันที่ 02/08/2554 19:48

ปภ.อุดรธานีส่งเรือท้องแบนช่วย 20 ชีวิตติดเกาะ 3 คืน ในสวนยางเชิงเขาภูพาน เนื่องจากน้ำจากลำห้วยโสมล้นตลิ่งเข้าท่วมล้อมรอบบริเวณทั้งหมด...
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. จากอิทธิพลของพายุนกเตนที่พัดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.น้ำโสม และ อ.นายูง ที่มีภูมิประทศติดกับ จ.เลย และหนองคาย ทำให้ระดับน้ำในลำห้วยราง และลำห้วยโสม ยังคงกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎร บ.นาเกน ม.3 ,8,11 ต.หนองแวง อ.น้ำโสม 465 หลังคาเรือน และ บ.วังเลา ม.1 ต.โนนทอง อ.นายูง 117 หลังคาเรือน ระดับน้ำลึกมากกว่า 1 เมตร และไหลท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง
เมื่อเวลา 11.00 น. นายบัญชา ตะวงษา นายก อบต.นายูง พร้อมเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.นายูง และ ปภ.อุดรธานี ได้นำเรือท้องแบนจากบ้านวังเลา ขึ้นรถ 6 ล้อ เดินทางไปช่วยเหลือราษฎรที่ บ.สว่าง ม.2 ต.นายูง อ.นายูง 6 ครอบครัว 20 คน ติดอยู่ในสวนยางเชิงเขาภูพาน ซึ่งมีสภาพเป็นเกาะ น้ำจากลำห้วยโสมล้นตลิ่ง ท่วมล้อมรอบบริเวณ ทั้งหมดไปปลูกสร้างที่พัก และกระท่อมนา เพื่อทำไร่ ทำนา และกรีดยาง โดยติดอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่คืนวันที่ 30 ก.ค. จนถึงขณะนี้มีเด็กหลายคนป่วย เจ้าหน้าที่ได้นำเรือเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากชาวบ้านลุยน้ำลอยคอออกมาส่งข่าว และนำทางเข้าไปยังพื้นที่โดยเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำลึกมากในบางจุด ต้องฝ่าทุ่งน้ำที่เป็นเทือกสวน ไร่ นา และสวนยางพารา ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถทยอยนำชาวบ้าน ออกกลับมายังหมู่บ้านด้วยความปลอดภัย โดยมีการนำตัวเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดออกมาก่อน และนำตัวเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนายูงทันที
นายสนั่น โคกสถาน อายุ 45 ปี ราษฎรบ้านสว่าง เปิดเผยว่า เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในสวนเพื่อ ทำนา ทำไร่ และสวนยางพารา ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพราะเป็นที่สูงน้ำไม่ท่วม ที่ผ่านมาหากฝนตกน้ำท่วมก็ไม่ไปไหน จะรอจนน้ำลดจึงจะออกมา แต่ครั้งนี้เป็นคืนที่ 3 แล้วที่น้ำท่วมและไม่ยอมลด แต่เพราะ ด.ช.สุรพล โคกสถาน อายุ 12 ปี หลานชายไปเล่นน้ำในช่วงฝนตก จนเมื่อคืนเกิดมีไข้ขึ้นสูง จึงต้องหาหนทางกลับเข้าหมู่บ้าน จึงขอแรงให้เพื่อนบ้านออกมาแจ้งข่าว
นางพานิตา เข็มพรมมา อายุ 44 ปี ราษฎร บ้านสว่าง เปิดเผยว่า เข้ามากรีดยางกับสามี ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. เมื่อน้ำป่าไหลมาท่วมก็ไปไหนไม่ได้ นอนพักแรมอยู่ที่กระท่อมนามา 3 คืนแล้ว มีเสบียงอาหารพอประทังชีวิตอยู่ แต่เพราะเวลามันล่วงมาหลายวัน เป็นห่วงลูกๆ อยู่บ้านเพียงลำพัง จึงอยากจะออกมาดูแลลูก ไม่เหมือนที่ผ่านมาเพียงวันเดียวน้ำก็ลดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศาลากลางบ้านนาเก็น ต.หนองแวง อ.น้ำโสม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ศ.กิตติคุณ นพ.ดำรง เหรียญประยูรรองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อพึ่ง (ภา) ยามยากเป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ชาวบ้านนาเก็น หมู่ 3 หมู่ 8 และหมู่ 11 ที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 750 ชุด ซึ่งยังความปลื้มปิติแก่ราษฎรที่มาคอยรับถุงยังชีพครั้งนี้.
วันที่ 02/08/2554 16:48

อธิบดี ปภ.แถลงพายุนกเตนทำให้น้ำท่วมแล้ว 14 จ. มีตายแล้ว 1 ศพที่อุดรธานี เตือนจุดเสี่ยง 37 จ.เหนือ-อีสาน ให้ระวังดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันในช่วง 1-2 วัน...
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อนนกเตน ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร รวม 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่อุดรธานี
อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำมีมากจึงจำเป็นที่จะต้องมีการพร่องน้ำออกเพื่อรักษาเขื่อน จึงอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่างและตอนกลาง ต่อพืชผลทางการเกษตร จึงต้องเข้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เกษตรกร จะต้องเร่งเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร ส่วนที่เพิ่งจะเพาะปลูก จะต้องจัดหาพื้นที่รองรับน้ำเพื่อรองรับผลกระทบที่จะตามมา โดยที่ผ่านมา มีบทเรียนจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว มีน้ำท่วมกระจายในหลายพื้นที่ ดังนั้น การทำงาน ระหว่างหน่วยงานจะต้องมีการบูรณาการการทำงานกันมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ การประสานงานบูรณาการเป็นไปอย่างดี มีการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกัน และมีศูนย์เฉพาะกิจแต่ละจังหวัด อำเภอ และแยกย่อยไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีการประสานไปยังระดับล่าง เตรียมการป้องกันภัยในทุกรูปแบบ และมีการซักซ้อมมาโดยตลอด
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม 37 จังหวัด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วง 1 – 2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนสี เป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ฝนตกหนักนานกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ ให้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ดังนั้นให้รีบอพยพออกนอกพื้นที่ทันที ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ปภ.อุดรฯส่งเรือท้องแบนช่วย 20 ชีวิตติดเกาะ 3 คืน
วันที่ 02/08/2554 19:48

ปภ.อุดรธานีส่งเรือท้องแบนช่วย 20 ชีวิตติดเกาะ 3 คืน ในสวนยางเชิงเขาภูพาน เนื่องจากน้ำจากลำห้วยโสมล้นตลิ่งเข้าท่วมล้อมรอบบริเวณทั้งหมด...
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. จากอิทธิพลของพายุนกเตนที่พัดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.น้ำโสม และ อ.นายูง ที่มีภูมิประทศติดกับ จ.เลย และหนองคาย ทำให้ระดับน้ำในลำห้วยราง และลำห้วยโสม ยังคงกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎร บ.นาเกน ม.3 ,8,11 ต.หนองแวง อ.น้ำโสม 465 หลังคาเรือน และ บ.วังเลา ม.1 ต.โนนทอง อ.นายูง 117 หลังคาเรือน ระดับน้ำลึกมากกว่า 1 เมตร และไหลท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง
เมื่อเวลา 11.00 น. นายบัญชา ตะวงษา นายก อบต.นายูง พร้อมเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.นายูง และ ปภ.อุดรธานี ได้นำเรือท้องแบนจากบ้านวังเลา ขึ้นรถ 6 ล้อ เดินทางไปช่วยเหลือราษฎรที่ บ.สว่าง ม.2 ต.นายูง อ.นายูง 6 ครอบครัว 20 คน ติดอยู่ในสวนยางเชิงเขาภูพาน ซึ่งมีสภาพเป็นเกาะ น้ำจากลำห้วยโสมล้นตลิ่ง ท่วมล้อมรอบบริเวณ ทั้งหมดไปปลูกสร้างที่พัก และกระท่อมนา เพื่อทำไร่ ทำนา และกรีดยาง โดยติดอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่คืนวันที่ 30 ก.ค. จนถึงขณะนี้มีเด็กหลายคนป่วย เจ้าหน้าที่ได้นำเรือเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากชาวบ้านลุยน้ำลอยคอออกมาส่งข่าว และนำทางเข้าไปยังพื้นที่โดยเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำลึกมากในบางจุด ต้องฝ่าทุ่งน้ำที่เป็นเทือกสวน ไร่ นา และสวนยางพารา ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถทยอยนำชาวบ้าน ออกกลับมายังหมู่บ้านด้วยความปลอดภัย โดยมีการนำตัวเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดออกมาก่อน และนำตัวเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนายูงทันที
นายสนั่น โคกสถาน อายุ 45 ปี ราษฎรบ้านสว่าง เปิดเผยว่า เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในสวนเพื่อ ทำนา ทำไร่ และสวนยางพารา ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพราะเป็นที่สูงน้ำไม่ท่วม ที่ผ่านมาหากฝนตกน้ำท่วมก็ไม่ไปไหน จะรอจนน้ำลดจึงจะออกมา แต่ครั้งนี้เป็นคืนที่ 3 แล้วที่น้ำท่วมและไม่ยอมลด แต่เพราะ ด.ช.สุรพล โคกสถาน อายุ 12 ปี หลานชายไปเล่นน้ำในช่วงฝนตก จนเมื่อคืนเกิดมีไข้ขึ้นสูง จึงต้องหาหนทางกลับเข้าหมู่บ้าน จึงขอแรงให้เพื่อนบ้านออกมาแจ้งข่าว
นางพานิตา เข็มพรมมา อายุ 44 ปี ราษฎร บ้านสว่าง เปิดเผยว่า เข้ามากรีดยางกับสามี ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. เมื่อน้ำป่าไหลมาท่วมก็ไปไหนไม่ได้ นอนพักแรมอยู่ที่กระท่อมนามา 3 คืนแล้ว มีเสบียงอาหารพอประทังชีวิตอยู่ แต่เพราะเวลามันล่วงมาหลายวัน เป็นห่วงลูกๆ อยู่บ้านเพียงลำพัง จึงอยากจะออกมาดูแลลูก ไม่เหมือนที่ผ่านมาเพียงวันเดียวน้ำก็ลดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศาลากลางบ้านนาเก็น ต.หนองแวง อ.น้ำโสม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ศ.กิตติคุณ นพ.ดำรง เหรียญประยูรรองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อพึ่ง (ภา) ยามยากเป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ชาวบ้านนาเก็น หมู่ 3 หมู่ 8 และหมู่ 11 ที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 750 ชุด ซึ่งยังความปลื้มปิติแก่ราษฎรที่มาคอยรับถุงยังชีพครั้งนี้.
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย somsweet : วันนี้ เมื่อ 08:28 PM