B1 - แหล่งข่าว เดลินิวส์
"นกเตน"ถล่มไม่เลิก14จว.จมบาดาล
วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 11:58 น
ชาวบ้าน43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน เดือดร้อนจากน้ำท่วมใหญ่ หลายรายเซ่นสังเวย
วันนี้ ( 2 ส.ค.) ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 14 จังหวัด 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮองสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร ผู้เสียชีวิต 1 ราย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง อิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK - TEN) ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบภัยรวม 14 จังหวัด 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ดังนี้
แพร่ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลำห้วยแม่ยาง ลำห้วยแม่หล่าย ลำห้วยแม่แคม ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ และร้องกวาง เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 3,593 ครัวเรือน 6,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย สันกำแพง ดอยสะเก็ด แม่ออน พร้าว แม่ริม อมก๋อย ไชยปราการ และฮอด น่าน น้ำในอ่างเก็บน้ำแก่นล้นสปริงเวย์เข้าท่วมพื้นที่อำเภอภูเพียง ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลี้ ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง แจ้ห่ม งาว แม่เมาะ วังเหนือ และห้างฉัตร แม่ฮองสอน น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า อุตรดิตถ์ น้ำป่าจากภูเขาไหลลงสู่ห้วยน้ำพี้ เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ทองแสนขัน น้ำปาด และฟากท่า พิจิตร น้ำในลุ่มน้ำยมไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิประทับช้าง และโพทะเล
พิษณุโลก น้ำในลำน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่อำเภอชาติตระการ นครพนม น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านแพง ท่าอุเทน และนาทม อุดรธานี น้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนายูง น้ำโสม และเพ็ญ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ในระหว่างการฟื้นฟู หนองคาย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอโพนวิสัย และมีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย บริเวณถนนประจักษ์ตลอดสาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว รถสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ บึงกาฬ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเซกา และศรีวิไล สกลนคร เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังบ้านเรือนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร คำตากล้า และโคกศรีสุพรรณ
นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องยังทำให้ทัศนวิสัยในจังหวัดเชียงรายไม่ดี ส่งผลให้สายการบินต้องระงับการบินจนกว่าทัศนวิสัยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปัจจุบันสายการบินได้เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ส่วนจังหวัดระยอง เกิดลมกระโชกแรงในพื้นที่อำเภอแกลง ตำบลพังราด ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 30 ครัวเรือน ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ERT สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจาก
อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ทหารเร่งช่วยฤทธิ์'นกเตน'ระวังปากช่อง
วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 10:27 น
ฤทธิ์ "นกเตน" ถล่มเหนือ-อีสานอ่วม มิดหัวน้ำป่าหลาก 6 หมู่บ้านถูกตัดขาด อุตรดิตถ์ น้ำสูงปริ่มหน้าอก ทหารระดมช่วยกู้ แพร่น้ำล้นฝั่งแม่น้ำยมแล้วถนนถูกดินถล่ม เชียงใหม่ เร่งสูบน้ำหลังท่วมเมือง หวั่นน้ำป่าเขาใหญ่ที่ปากช่อง-โคราช พร้อมรับทุกสถานการณ์ ขณะที่รถไฟสายเหนือสั่งหยุดวิ่งชั่วคราว ส่วนพายุหมุ่ยฟ้ายังห่างไกล แต่ให้เฝ้าติดตาม ด้านกรมน้ำฯทำแผนรับมือแล้ว
หลังจากที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนระวังพายุโซนร้อน “นกเตน” ที่จะบุกถล่มประเทศเวียดนามตอนบนก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาว รวมทั้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างในภาคเหนือ-อีสาน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. จนถึง 4 ส.ค.ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงว่าพายุดีเปรสชันนกเตน ได้สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศพม่าไปแล้ว แต่ยังมีอิทธิพลอยู่ ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังปานกลาง รวมทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยซึ่งมีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่ด้านตะวันตกของประเทศมีความชื้นอยู่มาก จึงทำให้พื้นที่ด้านตะวันตก ตั้งแต่ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่ลาดเชิงเขา จนถึง จ.กาญจนบุรีรวมถึง จ. สุพรรณบุรี และ จ.ราชบุรี มีฝนชุก ปริมาณ 100 มม. ต่อไปอีก 2 วัน จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและที่ราบลุ่มระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยย้ำให้ระวังในพื้นที่ ของ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอพี ได้รายงานข่าว จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ว่า พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ซึ่งมีความเร็วลมศูนย์กลาง 175 กม. ต่อ ชั่วโมง ได้เคลื่อนตัวออกจากประเทศฟิลิปปินส์ไปแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ของประเทศไต้หวันและประเทศญี่ปุ่น แม้พายุลูกนี้ไม่ได้พัดเข้าสู่ฝั่ง แต่ทำให้เกิดความสูญเสีย แรงงานประมงเสียชีวิต 2 ศพ เพราะเรือพลิกคว่ำทางเหนือของกรุงมะนิลา และอีก 2 ศพ เป็นเด็ก หลังถูกดินถล่มในจังหวัดโบโฮล ทางตอนกลางของประเทศ ส่วนพายุโซนร้อน นกเตน แม้จะพัดผ่านไปแล้ว แต่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 57 ศพ โดยเรื่องนี้ นายต่อศักดิ์ กล่าวสั้น ๆ ว่า ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด
ส่วนผลกระทบจากพายุนกเตน ทางภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ (ปภ.) กล่าวว่า หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันจนพื้นที่ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีน้ำท่วมขัง 50 ซม. เนื่องจากระบายไม่ทัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 50 หลังคาเรือน ทั้งนี้ยังมีรายงานน้ำท่วมเกิดขึ้นอีก ใน ต.สันปูเลย แต่เจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้ยังได้เฝ้าระวังสถานการณ์ด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะที่ อ.อมก๋อย อ.แม่แจ่ม ส่วนริมแม่น้ำปิง เทศบาลได้ทำกำแพงหินและกระสอบทรายกั้นไว้ตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ส่วนน้ำท่วมขังในตัวเมืองเชียงใหม่หลายแห่งเพราะระบายน้ำไม่ทันนั้น ได้มีการใช้เครื่องสูบน้ำกว่า 100 ตัว เข้าประจำถนนทุกสายเพื่อระบายน้ำ ในตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว
ส่วนที่ จ.แพร่ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมปรากฏว่าเริ่มล้นฝั่งแล้วส่งผลกระทบให้หมู่บ้านต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ติดริมตลิ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยนายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.แพร่ ได้เรียกประชุมเพื่อการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งทราบว่า ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมตำบลต่าง ๆ ในพื้นที่แล้ว
ทางด้านสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสานตอนล่าง ที่ จ.นครราชสีมา ได้รับการแจ้งเตือนจาก นายมาโนช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า ขณะนี้น้ำในลำตะคองมีปริมาณมากและเต็มตลิ่ง หากฝนตกอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ อาจทำให้เกิดน้ำป่าจากเขาใหญ่ไหลมาท่วม อ.ปากช่องได้ ประชาชนที่อาศัยในที่ลุ่ม ขอให้ระมัดวังตัวตลอดเวลา ทั้งนี้ ศูนย์ ปภ. ได้จัดให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของ จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เร่งติดแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม ตลอดแนวริมน้ำเจ้าพระยาที่มีระดับน้ำสูงขึ้น โดยวัดและโบราณสถานได้มีการป้องกันน้ำท่วมไว้แล้วหลายแห่ง เช่น วัดไชยวัฒนาราม วัดธรรมมาราม โบราณสถานป้อมเพชร อย่างไรก็ตาม หากปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยาในระดับ 1,500 ลบ.ม.ต่อ วินาที ก็อาจส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางบาล ผักไห่และเสนา ในช่วงสัปดาห์หน้า
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมครม.นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆจากนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเร่งระบายน้ำ รวมทั้งให้ผวจ.ทุกจังหวัดที่มีปัญหาอุทกภัย ใช้งบประมาณฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือประชาชนเป็นกรณีเร่งด่วน ในส่วนของกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ก็ได้สั่งกำชับให้ทุกหน่วยทหารในพื้นที่ประสบเหตุ ระดมกำลังทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน และพร้อมรับมือน้ำท่วมอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ด้านนางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟในเส้นทางสายเหนือว่า ฝนยังตกต่อเนื่อง ทำให้เส้นทางรถไฟขบวนสายเหนือได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ต้องประกาศงดเดิน
ขบวนรถที่ออกจากกรุงเทพฯ คือ 1. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 11 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพฯ เวลา 18.00 น. 2. ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 1 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพฯ เวลา 18.10 น. 3.ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 19.35 น. 4. ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 น.
ส่วนขบวนรถเร็วที่ 109 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นขบวนรถไฟฟรี ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 14.30 น. เดินรถได้ถึงสถานีเด่นชัยเท่านั้น โดยไม่มีการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ ซึ่งผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางได้สามารถติดต่อขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้เต็มราคาที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง โดยผู้โดยสารติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ทางเว็บไซต์ รฟท. http://www.railway.co.th/ หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการป้องกันน้ำท่วมทางภาครัฐได้เตรียมแผนการไว้แล้ว โดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดเช่น สกลนคร นครพนม เลย น่าน แพร่ เชียงใหม่ อุดรธานี โดยจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรพื้นที่ป้องกันน้ำท่วมใน จ.น่าน ใช้งบ 1,824 ล้านบาท ซึ่งจากการศึกษาพบว่า พื้นที่ป่าต้นน้ำเปลี่ยนแปลงไป ที่สำคัญคือความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ส่วนพื้นที่กลางน้ำจะมีสาเหตุจากความเปลี่ยนแปลงในระบบลำน้ำที่แคบและตื้นมากขึ้นและประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่เมืองทำได้จำกัด ส่วนในพื้นที่ท้ายน้ำพบการตื้นเขินของพื้นที่บริเวณปากไฮทำให้น้ำระบายได้ไม่มีประสิทธิภาพ
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวต่อว่า ได้ทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.น่าน ดังนี้ 1. ผันน้ำ น้ำมุ่น-ห้วยส้มป่อย เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเมืองน่านทางฝั่งตะวันตก ระยะทาง 4.17 กม. 2. ผันน้ำร่องโอ้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในเมืองโดยลดระยะทางจาก 1 กม. เหลือ 560 เมตร 3. ผันน้ำน้ำว้า–น้ำน่าน โดยสร้างคลองสายใหม่ เชื่อมต่อกับลำน้ำว้า (บ้านขึ่งใต้) กับแม่น้ำน่าน (บ้านส้านเหนือ) ผันน้ำ ปริมาณ 300 ลบ.ม.ต่อวินาที 4. การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ ในพื้นที่ จ.น่าน มีโครงการอ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพในการบรรเทาอุทกภัย จำนวน 11 โครงการ รวมความจุ 211.11 ล้าน ลบ.ม. 5. การขุดลอกแม่น้ำน่าน 98 กิโลเมตร เพื่อให้น้ำสามารถไหลไปตามลำน้ำได้สะดวกมากขึ้นด้วยการปรับเพิ่มลาดชันท้องน้ำและขยายขนาดลำน้ำให้ใหญ่ขึ้น และ 6. ป้องกัน ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำให้คงสภาพนิเวศป่าให้สมบูรณ์ ทั้งนี้ แผนดังกล่าว กรมฯ จะเสนอ ผวจ.น่าน ในวันที่ 8 ส.ค. เพื่อให้จัดทำประชาพิจารณ์ เกี่ยวกับแผนดังกล่าว หลังจากนั้นเมื่อรับฟังความเห็นชาวบ้านแล้ว จะรวบรวมความเห็นของชาวบ้านและแผนเพื่อนำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นห่วงปัญหาน้ำท่วม จ.น่านมาก
ต่อมาที่ ท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ นางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ นำกำลังพลของกองทัพเรือ จากกรมรักษาความปลอดภัย กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน 50 นาย ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ขึ้นรถบรรทุกชานต่ำหางยาว ของการท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 1 คัน รวม 2 ตู้ คอนเทเนอร์ และรถบรรทุกหัวลากชานต่ำ หางสั้น จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ จำนวน 1 คัน เพื่อลำเลียงถุงยังชีพพระราชทาน ไปส่งให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อน อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 1,550 ถุง และในพื้นที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี จำนวน 770 ชุด โดยมีพลเรือตรีอดุงศักดิ์ พุ่มพวง ผู้อำนวยการ การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้แทนกองทัพเรือพร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางมาให้โอวาทข้าราชการ และกำลังพลที่รับผิดชอบลำเลียงถุงยังชีพด้วย.
ลำปาง-สุโขทัยอ่วมน้ำท่วมหนัก
วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 13:30 น
พิษพายุ “นกเตน” เล่นงานภาคกลางตอนบนและภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง น้ำเอ่อล่นเขื่อนดิน สังเวย1ศพ
วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ภาคกลางตอนบนและภาคเหนือยังคงได้รับผลกระทบจากพายุ นกเตน อย่างต่อเนื่อง โดยที่ อ. เมือง จ. ลำปาง เมื่อช่วงเช้า ระดับน้ำในคูระบายน้ำข้างสถานีรถไฟลำปางเริ่มเอ่อล้นท่วมถนนข้างสถานีถึงแขวงการทางลำปาง ทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบหลายสิบหลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำแม่วัง มีปริมาณสูง เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนกิ่วลมเพิ่มขึ้นเป็น 150 ลบ.ม.ต่อวินาทีจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ปล่อยมา 100 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมถนนเลียบแม่น้ำแม่วังยาวตลอดสายราว 200-300 เมตร เจ้าหน้าที่พยายามสกัดน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านประชาชนฝั่งตรงข้ามถนน นอกจากนี้ล่าสุดที่ ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง มีประชาชนตกน้ำเสียชีวิต1 ราย กำลังตรวจสอบรายละเอียด ส่วนที่ อ. เมือง จ. สุโขทัย ในวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงถึง 7 เมตร เท่าที่ระดับความสามารถเขื่อนดินจะรับได้ จากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ระดับน้ำสูง 4 เมตร ทำให้น้ำเออล้นซึมเขื่อนดินที่กั้นไว้ไหลท่วมบ้านเรือประชาชน ใน ต.สะแคว และ ต. ยังซ้าย ส่วนที่อ. สวรรคโลกน้ำไหลท่วมประชาชนในเขตเทศบาล รวมทั้ง ต.ท่าเกษม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย joyguang1 : วันนี้ เมื่อ 02:58 PM
"นกเตน"ถล่มไม่เลิก14จว.จมบาดาล
วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 11:58 น
| เนื้อหาข่าว |
ชาวบ้าน43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน เดือดร้อนจากน้ำท่วมใหญ่ หลายรายเซ่นสังเวย
วันนี้ ( 2 ส.ค.) ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 14 จังหวัด 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮองสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร ผู้เสียชีวิต 1 ราย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง อิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK - TEN) ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบภัยรวม 14 จังหวัด 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ดังนี้
แพร่ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลำห้วยแม่ยาง ลำห้วยแม่หล่าย ลำห้วยแม่แคม ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ และร้องกวาง เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 3,593 ครัวเรือน 6,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย สันกำแพง ดอยสะเก็ด แม่ออน พร้าว แม่ริม อมก๋อย ไชยปราการ และฮอด น่าน น้ำในอ่างเก็บน้ำแก่นล้นสปริงเวย์เข้าท่วมพื้นที่อำเภอภูเพียง ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลี้ ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง แจ้ห่ม งาว แม่เมาะ วังเหนือ และห้างฉัตร แม่ฮองสอน น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า อุตรดิตถ์ น้ำป่าจากภูเขาไหลลงสู่ห้วยน้ำพี้ เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ทองแสนขัน น้ำปาด และฟากท่า พิจิตร น้ำในลุ่มน้ำยมไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิประทับช้าง และโพทะเล
พิษณุโลก น้ำในลำน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่อำเภอชาติตระการ นครพนม น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านแพง ท่าอุเทน และนาทม อุดรธานี น้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนายูง น้ำโสม และเพ็ญ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ในระหว่างการฟื้นฟู หนองคาย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอโพนวิสัย และมีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย บริเวณถนนประจักษ์ตลอดสาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว รถสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ บึงกาฬ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเซกา และศรีวิไล สกลนคร เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังบ้านเรือนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร คำตากล้า และโคกศรีสุพรรณ
นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องยังทำให้ทัศนวิสัยในจังหวัดเชียงรายไม่ดี ส่งผลให้สายการบินต้องระงับการบินจนกว่าทัศนวิสัยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปัจจุบันสายการบินได้เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ส่วนจังหวัดระยอง เกิดลมกระโชกแรงในพื้นที่อำเภอแกลง ตำบลพังราด ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 30 ครัวเรือน ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ERT สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจาก
อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ทหารเร่งช่วยฤทธิ์'นกเตน'ระวังปากช่อง
วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 10:27 น
| เนื้อหาข่าว |
ฤทธิ์ "นกเตน" ถล่มเหนือ-อีสานอ่วม มิดหัวน้ำป่าหลาก 6 หมู่บ้านถูกตัดขาด อุตรดิตถ์ น้ำสูงปริ่มหน้าอก ทหารระดมช่วยกู้ แพร่น้ำล้นฝั่งแม่น้ำยมแล้วถนนถูกดินถล่ม เชียงใหม่ เร่งสูบน้ำหลังท่วมเมือง หวั่นน้ำป่าเขาใหญ่ที่ปากช่อง-โคราช พร้อมรับทุกสถานการณ์ ขณะที่รถไฟสายเหนือสั่งหยุดวิ่งชั่วคราว ส่วนพายุหมุ่ยฟ้ายังห่างไกล แต่ให้เฝ้าติดตาม ด้านกรมน้ำฯทำแผนรับมือแล้ว
หลังจากที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนระวังพายุโซนร้อน “นกเตน” ที่จะบุกถล่มประเทศเวียดนามตอนบนก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาว รวมทั้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างในภาคเหนือ-อีสาน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. จนถึง 4 ส.ค.ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงว่าพายุดีเปรสชันนกเตน ได้สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศพม่าไปแล้ว แต่ยังมีอิทธิพลอยู่ ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังปานกลาง รวมทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยซึ่งมีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่ด้านตะวันตกของประเทศมีความชื้นอยู่มาก จึงทำให้พื้นที่ด้านตะวันตก ตั้งแต่ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่ลาดเชิงเขา จนถึง จ.กาญจนบุรีรวมถึง จ. สุพรรณบุรี และ จ.ราชบุรี มีฝนชุก ปริมาณ 100 มม. ต่อไปอีก 2 วัน จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและที่ราบลุ่มระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยย้ำให้ระวังในพื้นที่ ของ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอพี ได้รายงานข่าว จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ว่า พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ซึ่งมีความเร็วลมศูนย์กลาง 175 กม. ต่อ ชั่วโมง ได้เคลื่อนตัวออกจากประเทศฟิลิปปินส์ไปแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ของประเทศไต้หวันและประเทศญี่ปุ่น แม้พายุลูกนี้ไม่ได้พัดเข้าสู่ฝั่ง แต่ทำให้เกิดความสูญเสีย แรงงานประมงเสียชีวิต 2 ศพ เพราะเรือพลิกคว่ำทางเหนือของกรุงมะนิลา และอีก 2 ศพ เป็นเด็ก หลังถูกดินถล่มในจังหวัดโบโฮล ทางตอนกลางของประเทศ ส่วนพายุโซนร้อน นกเตน แม้จะพัดผ่านไปแล้ว แต่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 57 ศพ โดยเรื่องนี้ นายต่อศักดิ์ กล่าวสั้น ๆ ว่า ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด
ส่วนผลกระทบจากพายุนกเตน ทางภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ (ปภ.) กล่าวว่า หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันจนพื้นที่ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีน้ำท่วมขัง 50 ซม. เนื่องจากระบายไม่ทัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 50 หลังคาเรือน ทั้งนี้ยังมีรายงานน้ำท่วมเกิดขึ้นอีก ใน ต.สันปูเลย แต่เจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้ยังได้เฝ้าระวังสถานการณ์ด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะที่ อ.อมก๋อย อ.แม่แจ่ม ส่วนริมแม่น้ำปิง เทศบาลได้ทำกำแพงหินและกระสอบทรายกั้นไว้ตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ส่วนน้ำท่วมขังในตัวเมืองเชียงใหม่หลายแห่งเพราะระบายน้ำไม่ทันนั้น ได้มีการใช้เครื่องสูบน้ำกว่า 100 ตัว เข้าประจำถนนทุกสายเพื่อระบายน้ำ ในตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว
ส่วนที่ จ.แพร่ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมปรากฏว่าเริ่มล้นฝั่งแล้วส่งผลกระทบให้หมู่บ้านต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ติดริมตลิ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยนายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.แพร่ ได้เรียกประชุมเพื่อการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งทราบว่า ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมตำบลต่าง ๆ ในพื้นที่แล้ว
ทางด้านสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสานตอนล่าง ที่ จ.นครราชสีมา ได้รับการแจ้งเตือนจาก นายมาโนช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า ขณะนี้น้ำในลำตะคองมีปริมาณมากและเต็มตลิ่ง หากฝนตกอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ อาจทำให้เกิดน้ำป่าจากเขาใหญ่ไหลมาท่วม อ.ปากช่องได้ ประชาชนที่อาศัยในที่ลุ่ม ขอให้ระมัดวังตัวตลอดเวลา ทั้งนี้ ศูนย์ ปภ. ได้จัดให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของ จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เร่งติดแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม ตลอดแนวริมน้ำเจ้าพระยาที่มีระดับน้ำสูงขึ้น โดยวัดและโบราณสถานได้มีการป้องกันน้ำท่วมไว้แล้วหลายแห่ง เช่น วัดไชยวัฒนาราม วัดธรรมมาราม โบราณสถานป้อมเพชร อย่างไรก็ตาม หากปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยาในระดับ 1,500 ลบ.ม.ต่อ วินาที ก็อาจส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางบาล ผักไห่และเสนา ในช่วงสัปดาห์หน้า
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมครม.นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆจากนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเร่งระบายน้ำ รวมทั้งให้ผวจ.ทุกจังหวัดที่มีปัญหาอุทกภัย ใช้งบประมาณฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือประชาชนเป็นกรณีเร่งด่วน ในส่วนของกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ก็ได้สั่งกำชับให้ทุกหน่วยทหารในพื้นที่ประสบเหตุ ระดมกำลังทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน และพร้อมรับมือน้ำท่วมอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ด้านนางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟในเส้นทางสายเหนือว่า ฝนยังตกต่อเนื่อง ทำให้เส้นทางรถไฟขบวนสายเหนือได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ต้องประกาศงดเดิน
ขบวนรถที่ออกจากกรุงเทพฯ คือ 1. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 11 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพฯ เวลา 18.00 น. 2. ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 1 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพฯ เวลา 18.10 น. 3.ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 19.35 น. 4. ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 น.
ส่วนขบวนรถเร็วที่ 109 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นขบวนรถไฟฟรี ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 14.30 น. เดินรถได้ถึงสถานีเด่นชัยเท่านั้น โดยไม่มีการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ ซึ่งผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางได้สามารถติดต่อขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้เต็มราคาที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง โดยผู้โดยสารติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ทางเว็บไซต์ รฟท. http://www.railway.co.th/ หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการป้องกันน้ำท่วมทางภาครัฐได้เตรียมแผนการไว้แล้ว โดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดเช่น สกลนคร นครพนม เลย น่าน แพร่ เชียงใหม่ อุดรธานี โดยจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรพื้นที่ป้องกันน้ำท่วมใน จ.น่าน ใช้งบ 1,824 ล้านบาท ซึ่งจากการศึกษาพบว่า พื้นที่ป่าต้นน้ำเปลี่ยนแปลงไป ที่สำคัญคือความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ส่วนพื้นที่กลางน้ำจะมีสาเหตุจากความเปลี่ยนแปลงในระบบลำน้ำที่แคบและตื้นมากขึ้นและประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่เมืองทำได้จำกัด ส่วนในพื้นที่ท้ายน้ำพบการตื้นเขินของพื้นที่บริเวณปากไฮทำให้น้ำระบายได้ไม่มีประสิทธิภาพ
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวต่อว่า ได้ทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.น่าน ดังนี้ 1. ผันน้ำ น้ำมุ่น-ห้วยส้มป่อย เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเมืองน่านทางฝั่งตะวันตก ระยะทาง 4.17 กม. 2. ผันน้ำร่องโอ้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในเมืองโดยลดระยะทางจาก 1 กม. เหลือ 560 เมตร 3. ผันน้ำน้ำว้า–น้ำน่าน โดยสร้างคลองสายใหม่ เชื่อมต่อกับลำน้ำว้า (บ้านขึ่งใต้) กับแม่น้ำน่าน (บ้านส้านเหนือ) ผันน้ำ ปริมาณ 300 ลบ.ม.ต่อวินาที 4. การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ ในพื้นที่ จ.น่าน มีโครงการอ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพในการบรรเทาอุทกภัย จำนวน 11 โครงการ รวมความจุ 211.11 ล้าน ลบ.ม. 5. การขุดลอกแม่น้ำน่าน 98 กิโลเมตร เพื่อให้น้ำสามารถไหลไปตามลำน้ำได้สะดวกมากขึ้นด้วยการปรับเพิ่มลาดชันท้องน้ำและขยายขนาดลำน้ำให้ใหญ่ขึ้น และ 6. ป้องกัน ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำให้คงสภาพนิเวศป่าให้สมบูรณ์ ทั้งนี้ แผนดังกล่าว กรมฯ จะเสนอ ผวจ.น่าน ในวันที่ 8 ส.ค. เพื่อให้จัดทำประชาพิจารณ์ เกี่ยวกับแผนดังกล่าว หลังจากนั้นเมื่อรับฟังความเห็นชาวบ้านแล้ว จะรวบรวมความเห็นของชาวบ้านและแผนเพื่อนำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นห่วงปัญหาน้ำท่วม จ.น่านมาก
ต่อมาที่ ท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ นางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ นำกำลังพลของกองทัพเรือ จากกรมรักษาความปลอดภัย กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน 50 นาย ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ขึ้นรถบรรทุกชานต่ำหางยาว ของการท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 1 คัน รวม 2 ตู้ คอนเทเนอร์ และรถบรรทุกหัวลากชานต่ำ หางสั้น จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ จำนวน 1 คัน เพื่อลำเลียงถุงยังชีพพระราชทาน ไปส่งให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อน อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 1,550 ถุง และในพื้นที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี จำนวน 770 ชุด โดยมีพลเรือตรีอดุงศักดิ์ พุ่มพวง ผู้อำนวยการ การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้แทนกองทัพเรือพร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางมาให้โอวาทข้าราชการ และกำลังพลที่รับผิดชอบลำเลียงถุงยังชีพด้วย.
ลำปาง-สุโขทัยอ่วมน้ำท่วมหนัก
วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 13:30 น
| เนื้อหาข่าว |
พิษพายุ “นกเตน” เล่นงานภาคกลางตอนบนและภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง น้ำเอ่อล่นเขื่อนดิน สังเวย1ศพ
วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ภาคกลางตอนบนและภาคเหนือยังคงได้รับผลกระทบจากพายุ นกเตน อย่างต่อเนื่อง โดยที่ อ. เมือง จ. ลำปาง เมื่อช่วงเช้า ระดับน้ำในคูระบายน้ำข้างสถานีรถไฟลำปางเริ่มเอ่อล้นท่วมถนนข้างสถานีถึงแขวงการทางลำปาง ทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบหลายสิบหลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำแม่วัง มีปริมาณสูง เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนกิ่วลมเพิ่มขึ้นเป็น 150 ลบ.ม.ต่อวินาทีจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ปล่อยมา 100 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมถนนเลียบแม่น้ำแม่วังยาวตลอดสายราว 200-300 เมตร เจ้าหน้าที่พยายามสกัดน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านประชาชนฝั่งตรงข้ามถนน นอกจากนี้ล่าสุดที่ ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง มีประชาชนตกน้ำเสียชีวิต1 ราย กำลังตรวจสอบรายละเอียด ส่วนที่ อ. เมือง จ. สุโขทัย ในวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงถึง 7 เมตร เท่าที่ระดับความสามารถเขื่อนดินจะรับได้ จากเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ระดับน้ำสูง 4 เมตร ทำให้น้ำเออล้นซึมเขื่อนดินที่กั้นไว้ไหลท่วมบ้านเรือประชาชน ใน ต.สะแคว และ ต. ยังซ้าย ส่วนที่อ. สวรรคโลกน้ำไหลท่วมประชาชนในเขตเทศบาล รวมทั้ง ต.ท่าเกษม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย joyguang1 : วันนี้ เมื่อ 02:58 PM
