วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทางรอด คือเบ้าหลอมแห่งสิกขา ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย

ทางรอด คือเบ้าหลอมแห่งสิกขา ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย

 
คลื่นรุ้ง  (Nacreous Clouds) ภาพที่ว่ากันว่าหายากมากที่สุด คือเฉดสีที่มีการเคลื่อนไหวไปมา เหมือนแสงถูกลมพัด
  รุ้งไฟ
 
แสง Aruora รัฐไอโอวา

สวัสดีครับ กัลยาณมิตรทุกท่าน 
จดหมายข่าวฉบับนี้ เริ่มด้วยรูปรุ้งสวยๆบนท้องฟ้า ที่ยากจะได้เห็น 
ลักษณะของรุ้งเหล่านี้คล้ายกับแสง Aruora(แสงเหนือแสงใต้) แต่เกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน คือ 
รุ้ง เกิดจากการหักเหของแสงที่สะท้อนผ่านละอองน้ำ หรือผลึกน้ำแข็งหกเหลี่ยมขนาดเล็กในก้อนเมฆ
ส่วนแสง Aruora เกิดจาก คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบริเวณขั้วโลก   
แต่ที่สำคัญคือ หากเกิด ท้องฟ้าสีประหลาดที่ไม่ใช่ทั้งรุ้งและแสง Aruora ขั้วโลกเหนือ-ใต้ 
ในท้องฟ้าบริเวณอื่นใดของโลก ขอให้ ตื่นรู้ เอาไว้ก่อนว่า "ภัยภิบัติ" กำลังจะเกิดขึ้น
ดังที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจีน ณ มณฑลเสฉวน พ.ศ. 2551 ที่มียอดผู้เสียชีวิตกว่า2หมื่นคน
เหตการณ์ครั้งนั้น ก็มีคนเห็น ท้องฟ้ามีสีประหลาดดังกล่าว ล่วงหน้าเพียง 30นาที
10 mins before the 2008 Sichuan earthquake in China

0:47
 
เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณบอกเหตุ ทำนองเดียวกันกับ การที่น้ำทะเลลดลงผิดปกติ ก่อนการเกิดสึนามิ
การเกิดท้องฟ้าสีประหลาดก่อนภัยพิบัตินี้ เป็นสิ่งที่พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ วัดดอยเกิ้ง (สำนักปฏิบัติธรรมรัตนประทีป) ต.แม่สะเรียง 
อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้บอกเตือนให้ลูกศิษย์ทราบมานานหลายปีแล้ว 
 
การที่ท้องฟ้า มีเมฆสีประหลาดเหล่านี้เกิดจาก การแปรปรวนของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ไม่ปกติ ซึ่งคล้ายกับการเกิดแสง Aruora 
แผ่นดินไหวในจีนครั้งนี้ สันนิฐาน การเกิดได้ดังนี้
1 เกิดจากธรรมชาติ
2 เกิดจากมนุษย์
ในกรณีที่เกิดจากมนุษ์เป็นผู้ก่อนี้ แบ่งการเหตุเกิดได้เป็นสองประเด็นคือ
2.1 เกิดจากการสร้างเขื่อน Three Gorges Dam  
2.2 เกิดจาก HAARP weapon ของสหรัฐฯ
ซึ่งกรณีแรกนี้อธิบายง่ายๆ ด้วยจุดคานงัด โดยเปลี่ยนไม้กระดานมาเป็นแผ่นเพลตของทวีป และก้อนเล็กๆบนคานเปลี่ยนมาเป็นน้ำปริมาณมหาศาลที่ลดและเพิ่มตามฤดูกาล เพิ่มขึ้นลดลง เพิ่มพลังงานสะสมให้กับเพลตของทวีป รอวันถึงจุดคายพลังงานให้เป็นการเลื่อน ชนของเพลตทวีปซึ่งก่อให้เกิดสึนามิและแผ่นดินไหวต่อไป 
ซึ่งก็ไม่ร้ายเท่ากรณีที่สองซึ่งเกิดจากอาวุธสภาพภูมิอากาศ The NASA Blue Beam Project
ก่อนอื่นมาดูอาวุธล้ำยุคของอเมริกากันดีกว่าว่ามีอะไร ที่จินตนาการของเรายังไปไม่ถึงบ้าง
 
อาวุธเสียง
LRAD Weapon long range acoustic device 
คลื่นเสียงมหาบรรลัยหู เป็นเครื่องส่งคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความดังไปยังที่ที่ศัตรูที่ประจำอยู่ในระยะไกล อำนาจขนาดทำให้แก้วหูศัตรูแตก หรือหูหนวกไปในทันที (เคยนำมาใช้แสดงในเรื่อง The Hulk 2 ) ล่าสุดสามารถพัฒนาให้สามารถกระแทกหัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้

  ADVANCED TACTICAL
 
อาวุธแสง advance tactical laser
Pain ray headed to Iraq.  Developed by the Air Force  (ADS) fires out milimeter waves — a sort of cousin of microwaves.
heat ray

HAARP:  High-Frequency Active Auroral Research Program and

haarpclouds.jpg 
haarpmap.png
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน สามารถค้นพบพลังงาน และนำมาใช้ประโยชน์เพียง ๕ ชนิดจากจำนวนพลังงาน ๗ ชนิด(layer) คือ
๑. พลังงานความร้อน ๒. พลังงานแสง ๓. พลังงานเสียง ๔. พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ๕. พลังงานปรมาณู ๖. พลังงานเส้นแสง ๗.การเปลี่ยนพลังงานจากวัตถุเป็นพลังงานแสง และการเปลี่ยนจากพลังงานแสงเป็นวัตถุ
 
 
ฮาร์พ "อาศัยเทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุพลังมหาศาล เพื่อยกบริเวณชั้นบรรยากาศส่วนบน (ไอโอโนสเฟีย) ของโลกขึ้น โดยเล็งพลังงานไปยังพื้นที่บนชั้นบรรยากาศและเผาบริเวณนั้นจนร้อน(หลอมละลายจนกลายเป็นเสมือนจานพลาสม่าขนาดยักษ์ที่สามารถรับส่งคลื่นได้) จากนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะสะท้อนกลับมายังโลกและทะลุทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มี" ซึ่งเป็นอาวุธใหม่ทางธรณีฟิสิกส์ ซึ่งอาจสามารถส่งอิทธิพลต่อชั้นบรรยากาศใกล้โลก ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง"
ดังนั้นหากมีการใช้อาวุธนี้ สนามแม่เหล็กไฟฟ้า จะทำให้ ท้องฟ้ามีสีประหลาด จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้อาวุธชนิดนี้ในจีนจนเกิดแผ่นดินไหวขึ้น
กว่า12ปี ที่มีนโยบายพัฒนาอาวุธชนิดนี้ขึ้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นปัจจุบันอเมริกาจึงจะต้องมีหรือกำลังพัฒนาอาวุธ ที่เหนือกว่า HAARP และก้าวขึ้นสู่อาวุธเส้นแสง(ในเลเยอร์ที่6)อยู่อย่างแน่นอน? บาปมวลรวมประชาโลก เหตุการณ์ความเป็นไปของโลกาวิบัติจะบีบบังคับให้ต้องใช้อาวุธเหล่านี้ อย่างเช่นที่เคยใช้ระเบิดปรมาณู ในฮิโรชิม่า และนางาซากิ ตอนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง!! 
 
เมื่อยิ่งเห็นข้อมูล ของจิกซอร์แต่ละชิ้น ทำให้ต้องกลับมาย้อนถามพวกเรากันเองว่า
หากเหลือเวลาเพียง40 เดือน?
กับสิ่งที่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนอยู่ พวกเรามั่นใจหรือไม่ว่า สิ่งที่ทำไปนั้นจะทำให้เป็นเหตุปัจจัยให้สามารถฝ่าวิกฤตประเทศชาติ วิกฤติโลกไปได้ หรือเตรียมความพร้อมกันได้แค่ไหน? 
และปัจจัยหลักในการอยู่รอด มิใช่ การสะสมเสบียงอาหาร หรือเทคโนโลยีการเอาตัวรอด แต่เป็นการสร้างคนที่ได้รับการพัฒนาแล้ว
อย่าง พุทธฉือจี้ที่มีทั้งคนและองค์ความรู้ในการกู้ภัยช่วยเหลือกันในภาวะเกิดภัยพิบัติ มีมหาลัยที่สามารถหล่อหลอมบุคลากรที่มีหัวใจมนุษย์และคนจิตอาสาให้เกิดขึ้น       
  
โดยสภาวะและเงื่อนเวลาเป็นสิ่งบังคับให้ต้องมีมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นปูทะเลย์มหาวิชชาลัย อย่างที่สาวิกาสิกขาลัย และโพธิวิชชาลัย กำลังจะทำ ให้เป็นเบ้าหลอมที่ทั้งสามารถ สร้างคนดีให้มีกำลัง หล่อหลอมคนจิตอาสา มีวิชชาความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม มีโอกาสได้ศึกษาขุมทรัพย์ทางปัญญาของมวลมนุษยชาติคือพระไตรปิฏก เกิดขึ้นในสังคมวงกว้างในเวลาและทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด
การเป็นเจ้าภาพร่วมของทุกฝ่าย ที่จะประสานเชื่อมโยงจิกซอร์ย่อยของแต่ละภาคส่วน ให้ไปสู่ทิศทางที่เป็นองค์รวมอย่างมีพลัง       
และนั่นคือโจทย์ที่พวกเราต้องช่วยกันหาคำตอบ? 
ข่าวบุญ