วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำทะลักนิคมโรจนะสั่งหยุดโรงงาน

น้ำทะลักนิคมโรจนะสั่งหยุดโรงงาน
06 ตุลาคม 2554 เวลา 14:23 น.



นิคมโรจนะสั่งหยุดโรงงานชั่วคราว เร่งอุดรอยรั่วหลังน้ำทะลักเข้า ด้านถนนสายเอเซียช่วงบางปะหัน-อ่างทองจม แนะเลี่ยงใช้สายสุพรรณฯแทน


เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ สั่งโรงงานหยุดดำเนินกิจการแล้ว โดยโรงงานในเขตได้สั่งพนักงานให้เดินทางกลับบ้าน โดยทยอยนำรถบัสมารับพนักงานกลับ พร้อมเร่งนำกระสอบทรายและผ้าพลาสติกมากั้นน้ำบริเวณรอบรั้วโรงงาน
พนักงานบริษัทไพโอเนียร์ แมนูแฟคเจอริ่ง กล่าวว่า ทางบริษัทแจ้งให้พนักงานกลับบ้าน โดยเป็นการแจ้งแบบวันต่อวัน โดยส่วนตัวแล้วกังวลไม่รู้ว่าจะได้กลับมาทำงานเมื่อไหร่ และจะได้เงินเดือนเหมือนเดิมหรือไม่

ด้านพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทฮัตท์ เมทอลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทแจ้งให้พนักงานหยุดงาน 3 วัน โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ขนของ เช่น ผลผลิต อุปกรณ์ต่างๆ ออกไปจากโรงงานบ้างแล้ว แต่เครื่องจักรคงขนย้ายไม่ทัน ซึ่งโรงงานไม่มีแผนในเรื่องนี้มาก่อน และวันนี้เพิ่งเป็นวันแรกที่ประกาศให้หยุดงาน

สำหรับโรงงานในเขตประกอบการโรจนะมีทั้งหมด 198 โรง พื้นที่ 3,675 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวม 5.8 หมื่นล้านบาท และมีแรงงานทั้งหมด 9 หมื่นคน โดยเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะได้ดำเนินการเสริมคันดินให้สูงขึ้นจากเดิมที่สูง 5.10 เมตร เป็น 6.50 เมตร เป็นระยะทาง 66 กิโลเมตร

ทั้งนี้มีรายงานว่าน้ำจากอ.บางปะหันได้ทะลักคันกั้นบางส่วนเข้าท่วมในเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะแล้ว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งซ่อมแซมเพื่ออุดรอยรั่วดังกล่าว

เสริมคันดินสูง 5 เมตรป้องน้ำท่วม

น.ส.ลักขณา เมี้ยนกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมประชุมกับผู้ประกอบการในนิคมฯกว่า 90 รายว่า ให้ผู้ประกอบการเตรียมการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะไหลเข้ามาภายในนิคมฯ โดยให้ผู้ประกอบการทำแผนเตรียมความพร้อมภายในโรงงาน เช่น สำรองข้อมูล เคลื่อนย้ายสิ่งของที่จำเป็นออกไปไว้ที่อื่น เป็นต้น โดยในวันพรุ่งนี้จะเชิญผู้ประกอบการมาร่วมทำแผนป้องกันภัยร่วมกัน

ทั้งนี้ ในส่วนของนิคมได้ดำเนินการเสริมคันดินเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร จากเดิมที่มีคันดินสูงอยู่แล้ว 4 เมตร รอบนิคมฯ โดยนิคมฯจัดระดับการเตือนภัยไว้ที่ระดับ2 คือ เตรียมการ จาก 5 ระดับ เพื่อความไม่ประมาท เนื่องจากนิคมฯไม่มีประสบการณ์น้ำท่วมมาก่อน จึงไม่มีแผนรองรับไว้

สำหรับโรงงานในนิคมฯมีจำนวน 90 โรงงาน แรงงานรวม 6 หมื่นคน มูลค่าการลงทุน 6 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ประกอบการ 50% เป็นนักลงทุนไทย ที่เหลือเป็นญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

นิคมฯสหรัตนนครน้ำท่วมเสียหาย 2.84หมื่นล้านบาท

สรุปรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นในนิคมฯสหรัตนนคร รวมทั้งสิ้น 2.84 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายจากคำสั่งซื้อ สูญเสียรายได้ 2.45 หมื่นล้านบาท ความเสียหายของอาคารโรงงาน และเครื่องจักร 1,960 ล้านบาท เสียหายจากวัตถุดิบ 490 ล้านบาท แรงงานขาดรายได้ระยะเวลา 3 เดือน 360 ล้านบาท เสียหายจากบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น หอพัก รถรับส่งคนงาน 150 ล้านบาท

ถนนสายเอเชียบางปะหัน-อ่างทองอัมพาต

ขณะเดียวกันน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วม ถนนสายเอเชีย ช่วงบางปะหัน-อ่างทอง ทำให้รถติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตรทั้งขาเข้าและออก

ต่อมา พ.ต.อ.ชูเดช กองกันภัย รองผบก.ภ.จว.อ่างทอง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยวีอาร์จังหวัดอ่างทอง เข้าปิดการจราจรขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงต่างระดับอ่างทอง หลัก กม.ที่ 51-52 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง เนื่องจากเกรงว่าหากมุ่งหน้าไปตามถนนสายเอเชียตามเส้นทางปกติซึ่งมีปัญหาสะสมของการจราจรอยู่แล้ว จึงทำการปิดการจราจรเส้นดังกล่าวทำการปัดรถที่จะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครเข้าตัวจังหวัดอ่างทองให้รถวิ่งผ่านแยกไฟแดงที่ดิน มุ่งหน้าอ.วิเศษชัยชาญแล้วเข้าไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีที่ยังไม่มีน้ำท่วมจากนั้นให้วิ่งสายกรุงเทพสุพรรณบุรี ออกบางบัวทอง ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่สะดวกมากกว่า

ด้านการจราจรเข้าเมืองอยุธยาก็เกิดปัญหาติดขัดอย่างหนักเนื่องจากถนนสายหลักที่มุ่งหน้าเข้าเมืองสามารถใช้การได้เพียงฝั่งขาเข้าเพียง 4 ช่องจราจร เนื่องจากถนนฝั่งขาออกได้ถูกน้ำจากแม่น้ำลพบุรีเอ่อเข้าท่วมทั้งหมดแล้ว








สภาพน้ำท่วมบนถนนในเขตอยุธยา







เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
__________________