ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)
วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California
ที่มา:
Attributes of the Match Bearer > Kryon
ตอนที่ 8
คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)
เรามาพูดถึงไม้ขีดไฟที่พวกคุณถือกันอยู่บ้างดีกว่า ที่รักทั้งหลาย
ฉันกำลังจะพูดถึงผู้ถือไม้ขีดไฟทั้งที่กำลังอยู่ที่นี่ และที่กำลังอ่านอยู่ด้วย
“คนๆนี้คือสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างขึ้น และถูกกำหนดมาเพื่อมาให้บทเรียนแก่ฉัน
และเพื่อให้มาผลักฉันให้ออกจากรัง บางทีบทเรียนนั้น ก็อาจจะถึงกับเตะฉัน
เพื่อให้ฉันมีความเมตตากรุณาต่อมนุษย์คนอื่นๆ
ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งพวกเขามาให้ฉัน” นั่นแหละคือสิ่งที่ผู้ถือไม้ขีดไฟจะพูดหละ
พวกคุณทำแบบนี้ได้ไหม?
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)
วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California
ที่มา:
Attributes of the Match Bearer > Kryon
ตอนที่ 8
คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)
เรามาพูดถึงไม้ขีดไฟที่พวกคุณถือกันอยู่บ้างดีกว่า ที่รักทั้งหลาย
ฉันกำลังจะพูดถึงผู้ถือไม้ขีดไฟทั้งที่กำลังอยู่ที่นี่ และที่กำลังอ่านอยู่ด้วย
ไม่ว่าพวกคุณจะทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นที่ใดก็ตาม
ในสถานการณ์ใดก็ตาม ผ่านทางการกระทำของพวกคุณเอง
พลังงานที่พวกคุณสร้างขึ้นมานั้น
จะไปเปลี่ยนแปลงพลังงานของไกอา
ในจุดที่พวกคุณกำลังเดินอยู่นั่นแหละ
มันจะไปเปลี่ยนแปลงควอนตัมของสิ่งที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ โลกทั้งโลกรู้จักพวกคุณดี ถ้าพวกคุณตื่นขึ้นแล้ว โลกทั้งโลกก็จะรู้ว่าพวกคุณได้ตื่นขึ้นแล้ว
ไกอารู้จักพวกคุณทุกคน ถ้าคุณเข้าไปเดินในป่าตามลำพัง ต้นไม้ในป่าก็รู้จักพวกคุณ
สัตว์ทั้งหลายก็รู้จักพวกคุณด้วย พระเจ้ารู้จักพวกคุณทุกคน ฉันรู้จักพวกคุณทุกคน
นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกคุณมาที่นี่ นั่นแหละคือความรู้สึกของพวกคุณในขณะนี้
และนั่นแหละคือสิ่งที่นำพวกคุณมาที่นี่ มันคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมานั่งอยู่บนเก้าอี้นี้
และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมาในวันนี้พวกคุณอาจจะพูดว่า.. ดังนั้น ฉันอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับครอบครัวของพวกคุณซักหน่อย
ฉันอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับครอบครัวของพวกคุณในภพชาตินี้
ครอบครัวทางสายเลือดของพวกคุณ ว่าพวกคุณปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไรบ้าง?
พวกคุณบางคนอาจจะพูดว่า “เอ่อ..อย่าพูดถึงพวกเขาได้ไหม เพราะว่าฉันไม่ชอบพวกเขามากๆเลย”
นั่นแหละคือละครบทเศร้า ที่วนเวียนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ตลอดเวลา
ที่รักทั้งหลาย พวกคุณอาจจะพูดต่อไปอีกว่า
“ฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชอบพวกเขาเอามากๆเลย แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะเป็นดั่งดวงดาว
เมื่อฉันไปถึงการประชุมในยุคพลังงานงานใหม่แล้ว ฉันจะรักทุกๆคนที่นั่น ฉันจะรักพวกเขาทุกๆคน”
[หัวเราะ]
ใช่แล้ว..แต่ฉันไม่ได้ถามถึงเรื่องนั้น เพราะว่ามันเป็นเรื่องง่าย ที่จะเข้ากันให้ได้ กับคนที่เหมือนๆกันกับพวกคุณ
เพราะว่าพวกคุณทุกๆคน ต่างก็มีแสงสว่างด้วยกันทั้งนั้น!
ไม่ใช่แบบนั้นเลย..ฉันกำลังพูดถึงตัวคุณเพียงคนเดียว
ที่กำลังอยู่ในความมืดมิดโดยลำพังคนเดียวเท่านั้น
ฉันอยากจะรู้ว่าคุณจะทำอย่างไรกับครอบครัวของคุณ?ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่า ผู้ถือไม้ขีดไฟ เขาจะมองครอบครัวของพวกเขาอย่างไร
หมายถึงครอบครัวในภพชาตินี้นะ
พวกเขาจะมองข้ามการถูกข่มเหงรังแก พวกเขาจะมองข้ามความเจ็บปวดไป
ซึ่งเมื่อพวกเขามองดูสิ่งที่ผู้อื่นกระทำต่อพวกเขา พวกเขาอาจจะแม้กระทั่งพูดกับจิตวิญญาณว่า “คุณแม่ คุณพ่อ ลูกขอกราบขอบพระคุณพวกท่าน ที่ท่านได้ให้ชีวิตลูกมา
และที่พวกท่านสามารถรับรู้จากอีกฟากฝั่งโน้นของม่านพรางได้ว่า
ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ ลูกขอกราบขอบพระคุณท่าน
สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านได้ทำไว้ในการวางแผนครั้งนั้น
ไม่ว่าลูกจะถูกพวกท่านด่าทอ หรือขว้างปา และกระหน่ำยิง และข่มเหงรังแก
และเรียกชื่อลูกว่าอย่างไรก็ตาม ลูกก็ยังเคารพรักพวกท่านเสมอ”
เอาหละ..นั่นคือพวกคุณหรือเปล่า?
พวกคุณเข้ามาพร้อมกับความสัมพันธ์ แต่เมื่อพวกคุณโตขึ้น บางครั้งความสัมพันธ์ก็อาจจะเปลี่ยนไป
และเมื่อพวกคุณอยู่กับพวกเขาเป็นเวลานานๆ พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง
ตอนนี้อาจจะพูดได้ว่าในความสัมพันธ์นั้น มันมีเรื่องเศร้าอยู่ จงจำไว้ว่า
นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่มันคือความสมัครใจ
พวกคุณคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะพบกันใหม่อีก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดนะ ดังนั้น ในความสัมพันธ์นี้ พวกคุณจะมองเห็นสิ่งนี้ไหม?
ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรไม่ดีกับคุณบ้างก็ตาม
ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณบ้างก็ตาม
ไม่ว่าคุณจะถูกทรยศหักหลังมาอย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้ก็ตาม
ผู้ถือไม้ขีดไฟก็จะมองดูพวกเขา แล้วพูดว่า..
ในสถานการณ์ใดก็ตาม ผ่านทางการกระทำของพวกคุณเอง
พลังงานที่พวกคุณสร้างขึ้นมานั้น
จะไปเปลี่ยนแปลงพลังงานของไกอา
ในจุดที่พวกคุณกำลังเดินอยู่นั่นแหละ
มันจะไปเปลี่ยนแปลงควอนตัมของสิ่งที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ โลกทั้งโลกรู้จักพวกคุณดี ถ้าพวกคุณตื่นขึ้นแล้ว โลกทั้งโลกก็จะรู้ว่าพวกคุณได้ตื่นขึ้นแล้ว
ไกอารู้จักพวกคุณทุกคน ถ้าคุณเข้าไปเดินในป่าตามลำพัง ต้นไม้ในป่าก็รู้จักพวกคุณ
สัตว์ทั้งหลายก็รู้จักพวกคุณด้วย พระเจ้ารู้จักพวกคุณทุกคน ฉันรู้จักพวกคุณทุกคน
นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกคุณมาที่นี่ นั่นแหละคือความรู้สึกของพวกคุณในขณะนี้
และนั่นแหละคือสิ่งที่นำพวกคุณมาที่นี่ มันคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมานั่งอยู่บนเก้าอี้นี้
และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมาในวันนี้พวกคุณอาจจะพูดว่า.. ดังนั้น ฉันอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับครอบครัวของพวกคุณซักหน่อย
ฉันอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับครอบครัวของพวกคุณในภพชาตินี้
ครอบครัวทางสายเลือดของพวกคุณ ว่าพวกคุณปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไรบ้าง?
พวกคุณบางคนอาจจะพูดว่า “เอ่อ..อย่าพูดถึงพวกเขาได้ไหม เพราะว่าฉันไม่ชอบพวกเขามากๆเลย”
นั่นแหละคือละครบทเศร้า ที่วนเวียนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ตลอดเวลา
ที่รักทั้งหลาย พวกคุณอาจจะพูดต่อไปอีกว่า
“ฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชอบพวกเขาเอามากๆเลย แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะเป็นดั่งดวงดาว
เมื่อฉันไปถึงการประชุมในยุคพลังงานงานใหม่แล้ว ฉันจะรักทุกๆคนที่นั่น ฉันจะรักพวกเขาทุกๆคน”
[หัวเราะ]
ใช่แล้ว..แต่ฉันไม่ได้ถามถึงเรื่องนั้น เพราะว่ามันเป็นเรื่องง่าย ที่จะเข้ากันให้ได้ กับคนที่เหมือนๆกันกับพวกคุณ
เพราะว่าพวกคุณทุกๆคน ต่างก็มีแสงสว่างด้วยกันทั้งนั้น!
ไม่ใช่แบบนั้นเลย..ฉันกำลังพูดถึงตัวคุณเพียงคนเดียว
ที่กำลังอยู่ในความมืดมิดโดยลำพังคนเดียวเท่านั้น
ฉันอยากจะรู้ว่าคุณจะทำอย่างไรกับครอบครัวของคุณ?ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่า ผู้ถือไม้ขีดไฟ เขาจะมองครอบครัวของพวกเขาอย่างไร
หมายถึงครอบครัวในภพชาตินี้นะ
พวกเขาจะมองข้ามการถูกข่มเหงรังแก พวกเขาจะมองข้ามความเจ็บปวดไป
ซึ่งเมื่อพวกเขามองดูสิ่งที่ผู้อื่นกระทำต่อพวกเขา พวกเขาอาจจะแม้กระทั่งพูดกับจิตวิญญาณว่า “คุณแม่ คุณพ่อ ลูกขอกราบขอบพระคุณพวกท่าน ที่ท่านได้ให้ชีวิตลูกมา
และที่พวกท่านสามารถรับรู้จากอีกฟากฝั่งโน้นของม่านพรางได้ว่า
ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ ลูกขอกราบขอบพระคุณท่าน
สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านได้ทำไว้ในการวางแผนครั้งนั้น
ไม่ว่าลูกจะถูกพวกท่านด่าทอ หรือขว้างปา และกระหน่ำยิง และข่มเหงรังแก
และเรียกชื่อลูกว่าอย่างไรก็ตาม ลูกก็ยังเคารพรักพวกท่านเสมอ”
เอาหละ..นั่นคือพวกคุณหรือเปล่า?
พวกคุณเข้ามาพร้อมกับความสัมพันธ์ แต่เมื่อพวกคุณโตขึ้น บางครั้งความสัมพันธ์ก็อาจจะเปลี่ยนไป
และเมื่อพวกคุณอยู่กับพวกเขาเป็นเวลานานๆ พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง
ตอนนี้อาจจะพูดได้ว่าในความสัมพันธ์นั้น มันมีเรื่องเศร้าอยู่ จงจำไว้ว่า
นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่มันคือความสมัครใจ
พวกคุณคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะพบกันใหม่อีก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดนะ ดังนั้น ในความสัมพันธ์นี้ พวกคุณจะมองเห็นสิ่งนี้ไหม?
ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรไม่ดีกับคุณบ้างก็ตาม
ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณบ้างก็ตาม
ไม่ว่าคุณจะถูกทรยศหักหลังมาอย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้ก็ตาม
ผู้ถือไม้ขีดไฟก็จะมองดูพวกเขา แล้วพูดว่า..
“คนๆนี้คือสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างขึ้น และถูกกำหนดมาเพื่อมาให้บทเรียนแก่ฉัน
และเพื่อให้มาผลักฉันให้ออกจากรัง บางทีบทเรียนนั้น ก็อาจจะถึงกับเตะฉัน
เพื่อให้ฉันมีความเมตตากรุณาต่อมนุษย์คนอื่นๆ
ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งพวกเขามาให้ฉัน” นั่นแหละคือสิ่งที่ผู้ถือไม้ขีดไฟจะพูดหละ
พวกคุณทำแบบนี้ได้ไหม?