สภาวะแวดล้อมพื้นที่กรุงเทพและภาคกลางในอนาคต
(ย้ายกรุงเทพไปเกยฝั่ง)
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ของนาซ่า ได้ทำโมเดลทางคอมพิวเตอร์ ตรวจหาความเปลี่ยนแปลงของโลก สอบทานค้นหาที่มาของคำทำนายล่วงหน้าของชาวมายันในอดีต และอนุสรณ์ปริศนา สโตนเฮนส์ ที่เมืองซอลรีสเบอรี่ ในอังกฤษ ได้ความแน่ชัดตรงกันว่าโลกและสุริยจักรวาล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โลกอาจจะพลิกขั้วโลกเหนือ ในปี ค.ศ. 2012 และนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้กำลังวางแผน จะมาฉลองคริสมาสกันที่เมืองไทย ด้วยเล็งเห็นว่าจะเป็นพื้นที่ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก....แต่ในความเห็นของคุณ Zeta โลกจะย้ายขั้วใน Trimester ใด Trimester หนึ่ง ก่อน 21 ธ.ค.2012 และได้ย้ำความเห็นนี้เอาไว้ในหลายแห่ง...เนื่องจากมนุษย์ ไม่เข้าใจปฏิทินมายาที่คลาดเคลื่อนขาดหายไปบางตอน...อาจจะเรียกว่าถูกชาวอนูนาคีกั๊กเอาไว้บางตอนก็ได้ ปฏิทินนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากภูมิความรู้ของชาวมายาโดยตรง
![]() | หลังจากได้ติดตามข้อมูลการเคลื่อนย้าย ไปตามวัฏจักรของโลกทุกๆรอบ 13,000 ปี จากญาณทัสสนะของพระอาจารย์ รัตน์ รตนญาโณ ใน อิงธรรม ก็ดี และได้ยินจากที่ท่านได้พูดถึงบางตอน ภายหลังการฝึกอบรม ที่ KU HOME ในเรื่องสมาธิวิปัสสนา กับการดูแลรักษาสุขภาพ ท่ามกลางภาวะวิกฤตพลังงานปราณ มโนธาตุ และธาตุว่างของโลก ที่ดำเนินมาเข้าปีที่ 10 พระอาจารย์เป็นห่วงและสงสารบรรดาลูกศิษย์จำนวนไม่น้อย ที่มีที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพและภาคกลาง เหตุที่ท่านอาจารย์เป็นห่วงก็คือ ท่านมารำพึงว่าทำไมหนอ บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายเหล่านี้ ต่างก็ตั้งหน้าปฏิบัติธรรมกันเป็นอย่างดี เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ทำไมคนเหล่านี้จะต้องมาจบชีวิต เนื่องจากน้ำท่วมกรุงเทพและพื้นที่ภาคกลางเช่นนั้นหรือ |
เมื่อมีคำถามเกิดขึ้นว่าทำไม ญาณทัสสนะของท่านอาจารย์ก็พบว่า อันที่จริงคนกรุงเทพส่วนใหญ่กลับมีโชคดี ที่ก่อนเกิดเหตุการณ์วิปโยคครั้งใหญ่ของชาติและของโลกนั้น พื้นที่ราบลุ่มเหล่านั้นจะถูกพายุฝนตกหนักน้ำท่วมใหญ่อยู่เป็นเวลานาน จนผู้คนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าไม่สมควรจะอยู่อาศัยในพื้นที่นี้อีกต่อไป พากันอพยพออกไปยังที่สูงที่ปลอดภัยกว่า (ควรพิจารณาพื้นที่ชนบทที่สูงกว่าน้ำทะเล 100 ม.ขึ้นไป ตามที่พ่อหลวง ทรงพูดไว้ในหนังสือมหาชนก ในตอนฟื้นฟูต้นมะม่วง อยู่ประโยคหนึ่งนั่นเอง ท่านที่สนใจลองแวะติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ /article378.html ) ท่านอาจารย์ก็กล่าวไว้ย่อๆเพียงแค่นั้น
เมื่อนำทัสสนะอนาคตที่ท่านอาจารย์รัตน์ ได้กล่าวถึง มาใคร่ครวญต่อถึงเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพ อาจมาจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูง ในประเด็นนี้น่าจะตัดออกไปก่อนได้ เนื่องจากน้ำท่วมใหญ่คราวนี้ ท่วมอยู่นานก็จริง แต่ในที่สุดก็แห้งลง หลังจากถูกพายุฝนหนักผิดปกติ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงของประเทศบราซิล เมื่อเร็วๆนี้นั่นเอง ประเด็นของกรุงเทพการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ต่อมาได้มาศึกษาเอกสาร ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้พูดถึงพุทธพยากรณ์พื้นที่ประเทศไทยส่วนต่างๆ มีส่วนไหนจะปลอดภัยหรือต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้าง
ปัจจุบัน (วันที่ 5 พ.ย. 2553) ประเทศไทยประสบภาวะน้ำฝนท่วมหนักอย่างรวดเร็ว 30 กว่าจังหวัดในทุกภาค โดยเฉพาะเมืองโคราชซึ่งเป็นที่ราบสูง มีการขยายตัวของชุมชนต่างๆลงไปในที่ลุ่ม ถูกนำมาเป็นที่อยู่อาศัย กินที่แอ่งพักน้ำธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อมโดยรวมของเมืองถูกเปลี่ยนแปลง ไปตามความต้องการของประชาชน ใครอยากทำอะไรตรงไหนก็ทำ ซึ่งในหน้าแล้งก็มองไม่เห็นสภาพในหน้าน้ำหลากผิดปกติ กำหนดกฏเกณฑ์เหล่านี้ ต้องอาศัยผู้มีความรู้ของทางราชการ ทำการศึกษาและปรึกษาหารือกับราษฎรในพื้นที่ สร้างความเข้าใจลักษณะการใช้พื้นที่ดินในโซนต่างๆ ตรงไหนเป็นแหล่งพักน้ำตามธรรมชาติ ที่ในหลวงเรียกว่าแก้มลิง รับน้ำชั่วคราว
แล้วจึงค่อยๆระบายน้ำลงคูคลองธรรมชาติ ที่ท่านได้รับฟังข่าวสารกันแล้วจากสื่อต่างๆ หากติดตามดูให้ลึกๆ ถึงพี่น้องชาวไทยที่ถูกภัยน้ำท่วม ทั้งท่วมระยะสั้นและระยะยาวเป็นเดือน จะพบว่าวงจรชีวิต และการประกอบอาชีพทุกครัวเรือนจะได้รับผลกระทบอย่างมากทั่วกัน เท่าที่ทาง เอฟเอ็มทีวี ออกไปทำข่าวน้ำท่วมสอบถามผู้เดือดร้อนที่สะท้อนความรู้สึกต่างๆออกมา จะสะท้อนถึงปัญหา และอุปสรรคการดำรงค์ชีวิตของพี่น้องที่ถูกน้ำท่วม ให้เห็นเป็นบทเรียนของผู้ที่อยู่ในที่ราบต่างๆทั่วประเทศ และคราวนี้ยังไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม ให้เห็นเป็นแบบอย่าง...
เป็นภาวะค่อนข้างจำยอมในการอยู่อาศัย และประกอบอาชีพ พี่น้องทั่วประเทศไม่มีใครต้องการละทิ้งถิ่นฐานบ้านช่อง ย้ายไปที่อื่นที่ปลอดภัยกว่า เป็นสิ่งที่ต้องแลกอย่างมาก...ได้มีผู้หยั่งรู้อนาคตท่านหนึ่งทำนายไว้ว่าคราวหน้าจะเกิดน้ำท่วม 57 จังหวัด ซึ่งค่อนข้างแน่นอนที่เหตุการณ์จะรุนแรงมากกว่าของปี 2553 ซึ่งครั้งนี้น่าจะรวมถึงพื้นที่ กทม.และปริมณฑลด้วย ซึ่งหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง 9 พ.ค. 2556 พื้นที่น้ำท่วมภาคกลางน่าจะได้รับผลกระทบภัยธรรมชาติ รวมทั้งแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง จนกระทั่งพื้นแผ่นดินแตกทรุด ล่มจมลงเป็นทะเล ตามที่มีผู้ถอดรหัสปริศนาในเมขลาพยากรณ์ ในหนังสือพระมหาชนก หนังสือที่พระองค์ทรงรัก และพากเพียรแต่งขึ้นใช้เวลาถึง 11 ปี ซึ่งท่านที่ได้รับทราบแล้ว ยังไม่ต้องเชื่อ แต่ควรเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และนำมาประมวลตัดสินใจเอาเอง....ทุกเรื่องเป็นสิ่งที่ต้องแลกและเดิมพันด้วยตนเองและครอบครัว ว่าท่านจะเดินทางไปถึงโลกพลังงานใหม่หรือไม่
มาขณะนี้ 24 ตุลาคม 2554 เกิดน้ำท่วมรุนแรง 60 จังหวัดรวมทั้ง พื้นที่ กทม. ด้วย และอาจท่วมอยู่นาน 40-50 วัน โดยไม่เกิดแผ่นดินไหว ด้วยพื้นที่ประเทศไทยเป็นเขต Stretch Zone แผ่นดินแยก แผ่นดินทรุดจะเกิดขึ้นเงียบๆเป็นส่วนใหญ่ ภาพถ่ายทางอากาศในเวลาห่างกันเพียงปีเดียวบ่งชี้ว่าที่ราบภาคกลางมีการทรุดตัวรวดเร็วทีเดียว แอ่งน้ำจึงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สัญญานเตือนภัยจากธรรมชาติคราวนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ราบสูงหลายจังหวัด มาคราวนี้เกิดน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่างและที่ราบภาคกลาง เตือนให้คนบางกลุ่มเริ่มเห็นชัดเจนว่า พื้นที่น้ำท่วมเหล่านี้ไม่ควรใช้อยู่อาศันอีกต่อไป
ปัจจุบันโลกกำลังอยู่ในช่วงมี Earth Wobble แกนพลังงานโลกแกว่งเป็นรูปเลข 8 วันละรอบ เมื่อจบภาวะนี้ โลกก็จะเข้าสู่ภาวะ 8/10 ซึ่งดาวหางจะเลื้อยลงมาใกล้โลกมากยิ่งขึ้นส่งพลังงานสนามแม่เหล็กรบกวนแกนพลังงานของโลกแกว่งวันละ 2 รอบ เปลือกโลกคลอนแคลนมากยิ่งขึ้นเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดต่อเนื่อง ขนาดแผ่นดินไหวจะอยู่ในเกณฑ์ 8-10 ริกเตอร์ เกิดต่อเนื่องตามที่เปลือกโลกทุกแผ่นเคลื่อนตัวต่อเนื่องน่วมไปทั้งโลกอยู่เป็นเวลา 9 วัน นับว่าเป็น 9 วันอันตรายทีเดียว ถนน สะพานแตกหักชำรุดเสียหาย เขื่อนต่างๆอาจทนแรงสั่นของแผ่นดินไหวไม่ได้ และรอยต่อหรือรอย Fault ที่เขื่อนต่างๆสร้างคร่อมอยู่อาจแยกตัวเงียบๆก็ได้ ในเขต Stretch Zone เช่นในประเทศไทย เป็นภัยเงียบที่ไม่มีสัญญานบ่งบอกให้ทราบล่วงหน้า
ภาพล่วงหน้าที่คุณ Zeta นำมารายงานเอาไว้ให้ทราบก่อนนั้น เรามีหน้าติดตามดูตลอดเวลา ว่าจะเกิดเหตุเช่นที่คุณ Zeta ได้บอกให้เราทราบล่วงหน้าหรือไม่ ช่วยให้ทุกคนที่ติดตามได้ทราบเรื่องราวครบวงรอบด้วยตนเอง ได้เข้าใจของตนเอง ไม่ต้องใช้ศรัทธา ใช้สิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆเป็นตัวตัดสิน
ภาพข้างบนนี้ไม่ใช้ กรุงเทพ แต่กระพุ้งแหลมที่ชี้ไปทางมหาสมุทรแอตแลนติค จะเลื่อนไปเป็นขั้วโลกเหนือใหม่ เมื่อโลกเข้าเขต 9/10 ต่อจากเขต 8/10 นั่นเอง ประเทศบราซิลเลื่อนไปอยู่ตำแหน่งขั้วโลกเหนือใหม่ ส่วนพื้นที่ประเทศไทยเคลื่อนหนีห่างจากประเทศอินเดียไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4,000 กิโลเมตร หลุดออกจากศูนย์กลางวงกลมของขั้วโลกใต้ใหม่ ที่ตรงศรีลังการจะเป็นจุดศูนย์กลาง ที่จมทะเลทั้งอินเดียและศรีลังกา จมลึกหลายร้อยฟุตพร้อมๆกับปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย รวมพื้นที่ว่างที่จะเกิดขึ้นประมาณ 16 ล้านตารางกิโลเมตร

ตรงสีแดงนั้นเป็นแผ่นดินแยกเกิดท้องทะเลใหม่
ส่วนกรุงเทพย้ายเหมือนกัน โดยกำลังลดระดับลงสู่ใต้คลื่นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 2554 แล้วต่อไปตรงกับช่วงจังหวะ 8/10 พอดี แอ่งที่ราบแคบๆระหว่างสันเขา ไม่สามารถทนแรงบีบอัดของเปลือกโลกส่วนที่แข็งแรงกว่าได้อีกต่อไป จมลงไล่ๆกับพื้นที่ประเทศอินโดนีเซียจมถึงระดับ 80 ฟุต ชีวิตและทรัพย์สิน ที่อยู่กินทำมาค้าขายเพลินไม่สนใจสิ่งแวดล้อมที่กำลังส่งสัญญานเตือนใดๆทั้งสิ้น ก็จำเป็นต้องจากไปก่อน ที่โลกจะพบกับเหตุการณ์ในช่วงต่อไป 9/10 พร้อมๆกับชะตากรรมของชาวอินเดียทั้งประเทศ ที่ไม่ตายเปล่าเฉพาะคนอินเดีย พาผู้คนในพื้นที่แหลมอินโดจีนเกือบทั้งหมดไปด้วย...เมื่อปี 2553 ได้พูดคุยกับคุณหมอแกน ถึงวิบัติกาลของโลกปลายปี 2012 หมอแกนพูดขึ้นว่า มีนาคม ก็เริ่มแล้วนี่ ส่วนวงรอบตรงคำพูดสั้นๆของคุณหมอแกนนี้ ผู้สนใจอาจต้องติดตามหาข้อมูลประกอบให้ครบวงรอบจึงจะทราบว่า ที่เกิดขึ้นนั้นคืออย่างไรบ้าง หรือจะเป็นดังหนังตัวอย่างในสหรัฐฯเมื่อ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้ในรัฐยูท่าร์ใกล้กับเมืองซีดาร์
Per the Zetas, this landslide is an excellent example of what can happen to the roadways, suddenly, as the pole shift approaches, emphasizing their warnings about being in one's safe location early and not waiting too long....ตรงนี้ชาว Zetas เตือนให้รีบหนีภัยด้วยหัวจิตหัวใจทีเดียว
ประชากรของ กทม.และที่ราบลุ่มที่มีน้ำท่วมภาคกลาง จึงไม่ต้องย้ายกรุงเทพไปไหน นอกจากพิจารณาย้ายตนเองให้ทันกับกาลเวลาที่ไล่หลังมากระชั้นชิดขึ้นสู่ที่สูง
จากภาพถ่ายเอกสารข้างล่างจะเห็นได้ชัดว่า ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วทุกส่วนโลก ให้เริ่มจับตา ตั้งแต่เดือนมีนาคม เมื่อโลกเข้าเขต Severe Wobble แผ่นเปลือกโลกทุกแผ่นขยับตัวมากขึ้น แผ่นดินไหว 8-10 ริกเตอร์เป็นเวลา 9 วัน มิใช้จู่ๆก้จะเกิดขึ้น อาการเพิ่มขึ้นที่เราเฝ้าติดตามจะบอกได้เอง อาจเร็วกว่าปลายปี หรือ ค.ศ. 2012 เปลือกโลกเคลื่อนตัวเพื่อปรับสมดุล ให้หมุนรอบแกนได้ราบเรียบ สภาวะอากาศของโลกจะแปรปรวนมาก เช่นเกิดฝนตกหนักในระยะสั้นๆ แต่อาจมีฝนตกหนักมากเป็นร้อยๆมิลลิเมตร แทนที่ตามปกติฝนตกหนักจริงๆก็จะไม่เกิน 50 มม.เท่านั้น น้ำก็เริ่มท่วมกรุงเทพแล้ว
เมื่อกรุงเทพเกิดน้ำท่วมใหญ่จากฝนตกหนัก และท่วมอยู่เป็นเวลานาน จึงเป็นเหตุให้คนจำนวนหนึ่งอพยพย้ายถิ่นฐานออกจากพื้นที่ ผู้คนที่พากันอพยพออกไปล่วงหน้าออกไปหาถิ่นที่อยู่ใหม่เหล่านี้ จึงรอดพ้นจากการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เป็นบริเวณกว้าง ติดตามมาในภายหลังในช่วงเวลาที่โลกกำลังจะเข้าในเขต 8/10 ที่พื้นที่ประเทศอินโดนีเซียจะจมลงไปเสียก่อน ประเทศต่างๆที่อยู่บนแผ่นเดียวกัน ก็จะพลอยจมลงด้วยเช่นกัน น้อยสุดที่จีนตอนใต้ 20 ฟุต
ยังมีสิ่งน่าคิดน่าติดตามอีกประการ ระหว่างที่โลกจะเกิดการหมุนย้ายขั้วโลกนั้น โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเองและเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ดาวหางเหลือระยะประชิดเพียง 14 ล้านไมล์เท่านั้น แต่รอบเปลือกโลกมีน้ำทะเลก้อนใหญ่ในทะเลต่างๆที่ลึกไม่เท่ากัน น้ำทะเลปริมาณใหญ่โตมหึมา ที่หมุนไปกับโลกตามปรกตินั้น มีแรงเฉื่อยอยู่ในตัว พลังงานนี้ จะพาน้ำทะเลคลื่นใหญ่โต 600-700 ฟุตขึ้นบนบก เนื่องจากไม่สามารถหยุดตนเอง แนบกับเปลือกโลกได้โดยทันที เช่นผู้โดยสารรถที่ถูกโชเฟอร์ห้ามล้อฉุกเฉินกระทันหัน อันตรายในประเด็นนี้ ชาวโลกอังคาร รับว่าจะพยายามช่วยโลก ให้มีการหมุนย้ายแกนอย่างนุ่มนวล ให้บังเกิดความเสียหายบนโลกให้น้อยที่สุด ชาวโลกก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่า ผลของการเคลื่อนย้ายขั้วโลกใหม่ จะนุ่มนวลเพียงใด ยังไม่มีผู้ใดสามารถทราบผล ที่จะเกิดขึ้นต่อการปรับสมดุลของโลก ในรอบ 3,657 ปีคราวนี้ได้ล่วงหน้า
ลักษณะโครงสร้างของชั้นดินในกรุงเทพและปริมณฑล จะมีชั้นดินเหนียวเป็นชั้นแข็งหนาประมาณ 6-8 เมตร ลึกจากดินชั้นนี้ลงไปอีก 10-15 เมตร จะเป็นดินเลน แล้วจึงจะถึงชั้นดินแข็งปนทรายหนาลงไปถึง 1,000 เมตรเท่าที่เคยเจาะสำรวจที่บริเวณเขตพระโขนง โดยมีชั้นเก็บน้ำใต้ดินอยู่เป็นชั้นๆ โครงสร้างของแอ่งดินทั้งหมดในบริเวณกรุงเทพ และปริมณฑล ซึ่งเป็นดินเกิดใหม่ที่น้ำในแม่น้ำสายต่างๆพัดพาดินตะกอนมาทับถมไม่กี่พันปี ไม่มีชั้นหินรองรับและเปลือกโลกส่วนนี้บาง
หากถูกแรงบีบอัดเป็นเวลาต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ชั้นดินอ่อนและดินเหนียวชั้นบนหนา 6 เมตร จะพากันเสียโครงสร้างกลายเป็นพลาสติกคล้ายๆดินเลน รับน้ำหนักตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เช่นเดียวกับถนนของกรมทางหลวงแผ่นดินในสายศรีนครินทร์ ที่สร้างแล้วเปิดการจราจร ความสั่นสะเทือนของยวดยานพาหนะที่วิ่งอยู่ตลอดเวลา จะทำให้ชั้นดินข้างใต้ผิวจราจรกลายเป็นพลาสติคเหลว และปลิ้นออกทางด้านข้าง ทำให้ผิวจราจรทรุดตัวลงไป 2 เมตรเศษ แล้วในปัจจุบัน นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆของแรงสั่นสะเทือนไม่มากนักของยวดยานพาหนะเท่านั้น โครงสร้างของดินที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษก็กลายสภาพเป็นดินเลน ส่วนแอ่งกระทะของที่ราบนี้จะทรุดตัวหักลงโดยทันทีหรือ suddenly นั่นเอง
ดังนั้นในช่วงค.ศ. 2012 และหลังจากดาวหางลงมาแทรกอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก ดาวหางที่มีแสงในตัวเองและขนาดใหญ่กว่าโลก 4 เท่าตัว มีมวลมากกว่าโลก 23 เท่า และดวงจันทร์อีกหลายโหลควงสว่านอยู่ 2 ปีกในปี 2012นั้น เปลือกโลกและผืนน้ำทะเลทั้งหมดต้องปรับสมดุลครั้งใหญ่ พร้อมๆกับการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ภูเขาไฟระเบิด เกิดเม็กกะสึนามิทั่วโลกไปพร้อมๆกัน ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาของการปรับสมดุลของเปลือกโลก เพื่อให้ลูกโลกหมุนรอบแกนใหม่ได้อย่างราบเรียบต่อไป ดังนั้นระหว่างเขต 8/10 ที่ราบภาคกลางก็จะจมลงใต้คลื่นทะเลในทันทีที่เกิดการแตกหักของชั้นดิน (Blucking) | ![]() |
![]() | ตามที่ได้รับทราบจากพุทธพยากรณ์นั้น พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล เกิดแผ่นแยกแผ่นดินยุบตัว กลายเป็นทะเลไปเช่นในอดีตที่เคยเป็นท้องทะเลมาก่อนนั่นเอง เรือสำเภาที่บรรทุกสินค้ามาค้าขายในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแล่นขึ้นไปถึงเมืองลพบุรี เมื่อพูดถึงน้ำท่วมใหญ่ ลองมาฟังข่าวการเคลื่อนไหวของประเทศสหรัฐฯ กันดูบ้างว่าประเทศนี้มีการตื่นตัวอย่างไรบ้าง จากบุคคลวงในขององค์การนาซ่า http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=196 ตรงไปที่คำตอบ #156 รายละเอียดจากพุทธพยากรณ์ ที่หลวงพ่อฤาษีนำมาเล่าให้ลูกหลานฟัง ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ประมาณ พ.ศ. 2518 จึงมาสอดคล้องกับภาพที่ท่านอาจารย์รัตน์ได้เห็นล่วงหน้า บรรดาตึกสูงในกรุงเทพไปลอยอยู่กลางน้ำ เมื่อไม่นานนี้นั่นเอง และท่านอาจารย์ยังสรุปว่าคนกรุงเทพยังโชคดี ที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมมาเตือนล่วงหน้าก่อนการท่วมถาวร |
แล้วรอยเลื่อนเปลือกโลกใต้ กทม. มีบ้างไหม
กรุงเทพฯ (เนี่ย) พบรอยเลื่อนพาดผ่านเข้ามาใต้กรุงเทพฯเลย มันมาจากรอยเลื่อนสแกง แต่ผมตั้งชื่อว่ารอยเลื่อนกรุงเทพฯ มีอยู่ 2-3 รอย เป็นรอยเลื่อนแผ่นเดียวกับที่เกิดสึนามิ แล้วกรุงเทพฯก็ตั้งอยู่บนผิวดินบนเลน การที่มีแผ่นดินตั้งอยู่บนเลน เวลามีแผ่นดินไหวมันจะขยายอัตราเร่งของแผ่นดินไหวซึ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก 2 เท่าครึ่ง สามารถทำให้ตึกอาคารบ้านเรือนพังได้......ดร.สมิทธ ออกความเห็น....อ่านต่อ
และหากเพื่อความไม่ประมาท หลายท่านที่คิดจะโยกย้ายถิ่นฐานที่อยู่ และหาทำเลประกอบอาชีพที่ปลอดภัยใหม่ให้ทันกำหนดเวลาเกิดพิบัติภัยของโลกครั้งสำคัญในรอบ 3,657 ปี แต่ยังขาดทุนสำรองไม่พร้อมที่จะไปดำเนินการนั้น ลองแวะมาดูวิธีการ ช่วยอุดรูรั่ว เงินค่ามือถือ 80 ล้านเลขหมายของทุกค่ายดูดเม็ดเงินออกนอกประเทศปีละ 500,000 ล้านบาท มีคนไทยเข้าใจน้อยคน แล้วคนช่วยอุดจะได้สตางค์ใช้กันทั้งครอบครัวด่วนๆนั้นทำกันอย่างไร แล้วลงทุนน้อยด้วย ท่านพลเอก พิเชษฐ์ ท่านประธานของ SSN ท่านได้เตรียมอุปกรณ์โกยเงินที่ ปกติเป็นค่าการตลาดมือถือเดือนละ 8,000 ล้านบาท นำมาแบ่งจ่ายให้กับผู้บริโภค แวะพบรายละเอียดที่นี่ครับ http://www.ainews1.com/article832.html
(สำหรับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2553 ที่เกิดขึ้น เป็นการอุ่นเครื่องให้ชิมลางของบรรดา ยักษ์ มาร อสูร และเหล่าปีศาจที่ได้ครอบงำจิตใจ ของคนที่ไม่เฝ้าระวังรักษาจิตใจของตนเอง ปล่อยไปตามลมเพลมพัด อยู่กินไปวันๆซึ่งบรรดาเจ้าของชีวิตเหล่านี้ ไม่อาจจะหลุดรอดการร่อนตะแกรงครั้งสุดท้ายของธรรมชาติได้เลย เป็นที่น่าเวทนายิ่ง) ซึ่งแต่ละท่านที่ยังมีสติอาจจำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า และตระเตรียมสัมภาระที่จำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ในโลกยุคใหม่อย่างไรบ้าง จะต้องจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าพอประมาณ เนื่องจากกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดกว่าจะเข้ารูปเข้ารอย เข้าสู่ยุคใหม่ชาวศิวิไลนั้นต้องผ่านพ้นปี พ.ศ. 2562 ไปก่อน สามารถหาข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ /article385.html
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจจะปฏิรูปอาชีพของตนเองใหม่เตรียมหาเงินทุนสำรองให้ทันการณ์นั้น ลองแวะไปศึกษาพิจารณาข้อมูลที่ http://ainews1.com/article231.html และค่อยเปลี่ยนมาเป็นโลหะมีค่าเมื่อถึงเวลา
ภาพถ่ายเอกสารพุทธพยากรณ์ ที่หลวงพ่อฤาษี เล่าให้ลูกหลานฟัง

ภาพข้างล่างเป็นสภาพปัจจุบัน (15 ตุลาคม 2554)
เมื่อ 2 วันมานี้ (6 เม.ย. 2553) ฝนได้ตกหนักผิดปกติ ขณะนี้วันที่ 8 แล้วฝนก็ยังไม่หยุดตก จนน้ำทะลักลงมาท่วมบริเวณเมืองหลวง ของประเทศบราซิล พร้อมๆกับพาโคลนตมลงมาทับคนตาย 100 กว่าคนอีกด้วย ส่วนเหตุที่ทำไมปัจจุบันนี้ จึงมีฝนตกหนักมากผิดปกติเกิดขึ้นทั่วโลก ฝนตกหนักเพิ่มขึ้นเป็น 10-20 เท่าของฝนหนักในอดีต ทั้งนี้เนื่องจากโลกร้อนได้ระเหยไอน้ำจากทะเลไปเก็บไว้ในอากาศจำนวนมาก และมลภาวะเหนือเมืองใหญ่ๆเป็นปัจจัยอย่างดีในการดึงดูดฝนให้ตกลงมา ท่วมเมือง
เช้าวันที่ 14 เม.ย. 2553 เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่มณฑลซิงไห่ ล่าสุดมีคนเสียชีวิตแล้วเกือบ 2,000 คน บาดเจ็บ 1 หมื่นคน บ้านพัง 85%
เหตุการณ์เช่นนี้จะรุนแรงและเกิดขึ้นถี่ยิ่งขึ้นไปตามลำดับทั่วโลก ตราบใดที่อุณหภูมิของโลกยังมีแต่เพิ่มสูงขึ้น และโลกเกิด Wobble สภาพอากาศเกิดพายุใต้ฝุ่นจากมหาสมุทรแปซิฟิกตลอดเวลา และไฟไหม้ป่า เช่นเมื่อเร็วๆนี้ออสเตรเลียได้เผชิญกับพายุเฮอร์ริเคนขนาดความเร็ว 200 กม./ชม. เป็นครั้งแรก
ตอนนี้ที่ยังขาดอยู่ก็คือฟ้าผ่าตอนกลางวันแดดเปรี้ยงๆ เช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่รัฐแคลิฟอร์เนีย อันเนื่องมาจากในเมฆหมอกมีประจุไฟฟ้ามาก ที่ได้รับมาจากฝุ่นสีแดงของดาวหาง ซึ่งจะทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อดาวหางขยับเข้าใกล้โลกมากขึ้น ส่งลูกไฟและเศษขยะจากบริเวณหางยิงตรงมายังโลกแผ่นเส้นแรงแม่เหล็ก และจะทำลายเครือข่ายดาวเทียมคมนาคมลงไปเรื่อยๆอีกด้วย นักบินอวกาศบน ISS รู้ดี จึงหนีลงมาบนโลกหมดแล้ว ในยุคพลังงานใหม่โลกจะถอยหลังอีก 100 ปี
ส่วนจะเป็นเมื่อไรผลกระทบจากแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อก จะแสดงผลที่ร้ายแรงจนั้น มีสิ่งบอกเหตุที่สังเกตง่าย สำหรับผู้อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลจะเกิดคลื่นสูง 200-300 ฟุต ในช่วง 8/10 ไปพร้อมกับแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เนื่องจากแผ่นโลกต่างๆพากันเคลื่อนตัวเป็นโดมิ ติดตามการเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลก ได้จาก www.norsorpor.com/tags/แผ่นดินไหว รายงานสรุปของแผ่นดินไหวทั่วโลกนี้ ในช่วง 8/10 นี้จะเป็นตัวบ่งชี้กำหนดเวลาที่พื้นที่ราบลุ่มตอนกลางของประเทศไทย จะได้รับการเขย่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินอ่อนอายุน้อย บนแผ่นเปลือกโลกบางเสียโครงสร้างและยุบตัวลง เปิดโอกาสให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว กลายเป็นท้องทะเลในที่สุดด้วยตัวของท่านเอง ตรงกับรายงานของพระผู้ทรงญานบรรยายภาพล่วงหน้าเอาไว้ตรงกับเหตุการณ์ที่ทะยอยเกิดเตือนประชาชนที่อยู่ในเขตน้ำท่วมถึง
เมื่อต้นเดือน ก.ย. 53 ในท้ายการฝึกอบรม พระอาจารย์รัตน์ ได้เล่าให้ฟังถึงการเกิดแผ่นดินไหวทางเชียงรายเมื่อไม่นานมานี้ ได้สร้างรอยเลื่อนเปลือกโลกลงมาถึงแถบ กทม. ดังนั้นหากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทางภาคเหนือเช่นเชียงราย แรงสั่นสะเทือนจะถูกส่งต่อมายังพื้นที่ กรุงเทพตามร้อยร้าวนี้ ปรากฏการณ์ที่พระอาจารย์ล่วงรู้มานี้ ยังไม่มีนักธรณีวิทยาออกมาเปิดเผย ท่านที่ฟังไว้ก็ลองรับเอาไว้ประกอบการพิจารณาเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะได้ระลึกได้ว่าท่านอาจารย์เคยพูดถึงสาเหตุเหล่านี้มาก่อน
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ทางจิต ยังได้พบว่าปัจจุบันนอกจาก Dark Energy จากดวงจันทร์แล้ว พระอาทิตย์ยังแถมรังสีแกมม่าลงมาอีกด้วย เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกโหว่อยู่เป็นประจำจากอาการ Wobble ผู้ที่ถูกแดดจะมีอาการคันและผิวสีออกม่วงๆ และจะเป็นเซลล์มะเร็งต่อไป อยู่ใต้ดวงอาทิตย์ก็ต้องโดนแดดเป็นธรรมดา ก็ต้องหาวิธีเอารังสีนี้ออกหรือมีอุปกรณ์พิเศษสำหรับป้องกัน
รังสีแกมม่านั้น นักวิทยาศาสตร์ทางจิตพบว่า ทำงานได้ดีกับเซลล์ในร่างกายมนุษย์ที่บริโภคกรดอะมิโนจากเนื้อสัตว์ กล่าวคือผนังเซลล์จะแตกทำลายได้ง่าย
ส่วนวิธีแก้ไขให้งดรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน สร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์โดยใช้โปรตีนจากพืชแทน เป็นโปรตีนบริสุทธิ์
รายงานมาถึงจุดนี้หลายๆคนคงพอจะนึกถึงคำกล่าวของครูบาอาจารย์หลายๆองค์ ว่าพระท่านบรรจุพลังสำหรับป้องกันรังสีต่างๆให้แก่ผู้มีของๆท่านเอาไว้ติดตัว ส่วนผู้ที่ยังไม่มีอุปกรณ์พิเศษ ให้แวะศึกษาที่ลิงค์นี้ และค่อยๆตามหาให้เข้าใจในวิธีการที่พระโพธิสัตว์ท่านบอกเอาไว้
ส่วนลูกๆของ พระบรมธรรมบิดา สามารถขอพลังแสงทิพย์ของพระองค์ท่านเข้าทางกระหม่อมตลอดทั้งวันไปทั่วนิวเครียสของทุกเซลล์ในร่างกาย ขอเปลี่ยนเศษขยะพิษต่างๆภายในเซลล์ให้เป็นพลังมโนธาตุ(ธาตุเย็น) ให้หมดตลอดทั้งวัน แล้วขอใหม่ทุกๆวัน พลังแสงทิพย์ของพระองค์ท่านขอได้ทั้งทางโลกและทางธรรม แล้วแต่เราเข้าใจและมั่นใจเป็นอภิญญาใหญ่ขอปั๊บได้ทันที ไม่ต้องสงสัย แล้วติดตามดูการสัมผัสด้วยจิตที่อยู่ในภาวะ Neutral Zone หากยังไม่เข้าใจแวะที่ลิงค์นี้ วางความสงสัยแล้วลงมือปฏิบัติได้ทันที เมื่อสัมผัสของจริงได้เองก็จะรู้เอง
ส่วนในประเทศไทยมีท่านผู้ที่เห็นอนาคตชัดเจน อนุมาณไว้ว่าประเทศจะถดถอยกลับไปประมาณ 100 ปี จึงพอเป็นข้อบ่งชี้อย่างหนึ่ง ที่บ่งบอกอีกหลายๆอย่าง ให้ผู้ที่ไม่ประมาทต้องมาคิดทบทวนว่า หากภาวะการณ์ของประเทศเข้าไปถึงจุดนั้น ตัวเราและครอบครัวควรจะตระเตรียมสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตสำรองเอาไว้ใช้ในทำเลที่ปลอดภัยอย่างไรบ้าง
แผ่นดินไหว ทะเลจีนใต้ 4.8 ริกเตอร์ 26 Jan 11 10-degree Map Centered at 10°N,110°E

ในย่านนี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้เหมือนกัน ว่าจะมีแผ่นดินไหว เพิ่งคราวนี้ที่แสดงอาการ คงต้องคอยติดตามต่อไป หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ประเทศในแหลมอินโดจีน และที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทยก็มีสิทธิ์ได้รับผลกระทบไปด้วย
สำหรับหลายๆท่านที่รอดพ้นวิกฤต 8/10 ไปได้ ยังมีอีกด่านสำคัญ ของภาวะ 9/10 ในภาวะนี้ประเทศอินเดียจมน้ำหายไปทั้งประเทศในชั่วพริบตา แล้วประชากรบนแหลมอินโดจีนและประเทศไทยเกือบทั้งประเทศตั้งแต่แนวละติจูดที่พาดผ่านเกาะไหหลำลงมาสุดภาคใต้และอินโดนีเซียจะพลอยได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างนั้น แวะศึกษาที่ลิงค์นี้
ท่านยังไม่ต้องเชื่อรายงานข่าว แต่หากศึกษาให้ครบวงรอบ ภาพในใจของแต่ละท่านก็จะปรากฏขึ้นเอง ให้ตนเองตัดสินใจเพื่อชีวิตทรัพย์สินของตนเอง ไม่ต้องไปถามความเห็นของใคร
ที่มา www.ainews1.com
ที่มา www.ainews1.com