การเดินทางมาใกล้โลกของ ดาว Nibiru หรือ Planet Xในทุกรอบ 3,657 ปี
อย่างที่รู้ๆกันว่า ดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า นิบิรุ จะโคจรผ่านทะลุ Ecliptic ของโลกและดวงอาทิตย์ที่เป็นข่าวทั่วไปในวันเวลา 21/12/2012 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อดาวโลกในทุกด้านอย่างที่มนุษย์ยุคนี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ดาวนิบิรุ (Planet X Nibiru) สันนิฐานว่าถูกดวงอาทิตย์จับไว้เมื่อ 500,000 ปีก่อน เป็นดาวบริวารพระอาทิตย์ดวงที่ 12 และมีหลักฐานชนชาติโบราณสุเมเรียลของโลกว่า ดาวดวงนี้มีวงโคจรควบดวงอาทิตย์ 2 ดวง จึงมีวงโคจรรี ที่ใช้เวลา 3,657 ปี ต่อ 1 รอบ ส่วนผลกระทบต่อโลกทุกคราวที่เดินทางมาใกล้โลก แทบไม่มีหลักฐานของผลกระทบเหลือร่องรอยให้ติดตาม...ในเรื่องกำหนดระยะเวลา คุณ Zeta กล่าวไว้ในหลายๆแห่งใน zetatalk.com ว่า ช่วงที่ Planet X อยู่ใกล้โลกเพียง 14 ล้านไมล์ และก่อนผละจากดวงอาทิตย์ออกไปในรอบขากลับ จะลากจูงให้โลกย้ายขั้วไป 90 องศา จะเกิดขึ้นก่อนวันเวลาที่กล่าวกันทั่วไป
แต่ละคราวโลกที่ใช้เวลาฟื้นตัวค่อนข้างยาวนาน เช่นคราวที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะทำให้สภาวะความเป็นอยู่บนโลกถอยหลังไปอีก 100 ปี และก่อนจะเกิดความเสียหายแต่ละครั้ง มนุษย์ในช่วงนั้นๆก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดความสูญเสียที่แน่ชัดอย่างไรบ้าง เพียงมีการคาดคะเนล่วงหน้าเท่านั้น ขาดหลักฐานเก่าๆที่ชัดเจน นอกจากชาวต่างดาวที่มาอยู่เห็นเหตุการณ์คราวก่อนๆมาหลายครั้ง เช่นชาว Density ที่ 4-5 ที่อาศัยอยู่ใต้ทะเล และชาวต่างดาวต่างๆอีกเป็นพันที่มาช่วยชาวโลก ระหว่างที่โลกกำลังมี Transformation ไป่ 4th Density แม้ในช่วงเวลาของชาวแอ๊ดแลนตีส และอียิปต์โบราณ และในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีพลโลกอีกจำนวนมาก ที่ไม่อยากใส่ใจด้วยซ้ำไปว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยังมุ่งกับเรื่องกินอยู่ประจำวัน และการหาเลี้ยงตัวเอง สะสมเงินทองสร้างครอบครัว โดยไม่ได้เฉลียวใจว่า ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดที่โลกสมมุติขึ้นมาจะไร้ค่าไร้ความหมายลงไปอย่างรวดเร็ว ชนิดตั้งหลักไม่ทัน ถึงแม้กำลังได้รับฟังอยู่นี้ก็สุดแสนจะยอมรับได้ ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของคนยุคนี้
กล่าวคือยังตั้งอยู่ในความประมาท พูดเพียงว่าเมื่อคนอื่นๆเขาตายแล้ว เราจะอยู่ไปทำไม แต่ไม่เคยฉุกคิดเลยว่า ชีวิตหลังความตายของตนจะไปผจญกับอะไรอีกบ้าง ไม่เคยคิดเตรียมตัวตายก่อนตาย อย่างที่ผู้ไม่ประมาทเขาเตรียมตัวกัน หากได้เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมก่อนความตายมาถึง ทำให้ไม่กลัวความตาย หรือหากยังมีความกลัวเหลืออยู่ก็ไม่ถึงกับลนลาน อันเป็นเหตุให้ไปสู่อบายภูมิถ่ายเดียว ซึ่งกว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็สายเกินแก้เสียแล้ว น่าสงสาร

เพลนวงโคจรของ Nibiru อยู่ในเพลนที่ทะแยงกับเพลนของดาวเคราะห์อื่นๆและดวงอาทิตย์ 30 องศา
ในช่วงที่ดาวดวงนี้โคจรมาใกล้ดวงอาทิตย์ และเฉียดใกล้วงโคจรของโลก อาจมีผลกระทบต่อโลกเช่น สนามแม่เหล็กโลกที่จะถูกกระทบ

ผลกระทบ (เท่าที่มีผู้คาดการณ์)
เนื่องจากมันเป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่กว่าโลก 4 เท่า และหนักกว่าโลก 23 เท่าอุดมไปด้วยธาตุเหล็กจึงมีสนามแม่เหล็กที่ทรงพลัง ระหว่างที่เดินทางมายังอยู่ห่างขอบสุริยจักรวาลหลายเท่าตัวของระยะทางระหว่างดวงอาทิตย์ถึงดาวพลูโตเมื่อหลายสิบปีก่อน ก็เริ่มส่งผลต่อภาวะอากาศของโลกเรื่อยมา สร้างความปั่นป่วนแปรปรวนต่อสิ่งแวดล้อมโลกมาโดยตลอด แต่การปกปิดข้อมูลที่แท้จริง พร้อมกับเบี่ยงเบนไปที่โลกร้อน และความผิดปกติของดวงอาทิตย์ว่าเกิดจุดดับบ่อยและรุนแรง
แต่คนส่วนหนึ่งที่ได้รู้ความจริงว่าต้นเหตุมาจาก Planet X ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามารบกวนแกนในของโลกที่โตเท่ากับขนาดของดวงจันทร์ ยังผลให้โลกร้อนขึ้นมาจากใต้ผิวโลก น้ำทะเลอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น เกิดพายุรุนแรงมากขึ้น ถี่ขึ้นตลอดเวลา (ปัจจุบันดาวยูเรนัสกับเนปจูน ซึ่งโคจรห่างจากดวงอาทิตย์ก็โดนเป็นประจำและดาวพลูโต ได้เปลี่ยนวงโคจร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กของ PX ปัจจุบันดาวศุกร์กำลังถูกผลกระทบอย่างหนัก จนผู้สังเกตดวงดาวถามหาว่าดาวศุกร์หรือดาวเหนือหายหน้าไปไหน) และวิถีโคจรของมันโดยองค์การนาซ่าบอกว่า...จะโคจรเข้ามาใกล้มากๆ คุณ Zeta รายงานว่าเหลือระยะห่างโลกเพียง 14 ล้านไมล์เท่านั้น อยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์บน Ecliptic ปกติโลกอยู่ห่างดวงอาทิตย์ประมาณ 93 ล้านไมล์ และมันจะโคจรเข้าแถวเรียงกันอยู่ระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ ในช่วงที่สุริยจักรวาลเดินทางรอบดาวหลุมดำของกาแลกซี่ทางช้างเผือก มาคาบเกี่ยวกับขอบจักรวาลไตรแองกุลัม สุริยจักวาลจะส่งพลังประจุบวกมากมายยิงตรงไปยังกาแลกซี่อันโดรเมดาก่อนโลกย้ายขั้ว และอันโดรเมดาซึ่งเป็นกาแลกซี่ใหญ่ครอบกาแลกซี่ทางช้างเผือกและไตรแองกุลัม จะส่งประจุลบ ออกมาต่อต้าน เกิดประกายไฟโชติช่วงสว่างไปทั่วจักรวาลต่างๆ
มีผู้พบด้วยญาณทัศนะล่วงหน้าว่า แม้ซีกโลกที่ประเทศไทยตั้งอยู่อยู่ในซีกมืดระหว่างที่โลกหยุดหมุนรอบบตนเองไปประมาณ 6 วันนั้น แนะนำว่าไม่ควรมองตามเส้นแสงย้อนไปตาจะบอด
เป็นการเปลี่ยนแปลงของระบบสุริยจักรวาล และโลกซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทวีปแอ๊ดแลนติกได้ทรุดจมลงไปใต้ทะเลเมื่อหมื่นกว่าปีที่ผ่านมา และคราวนี้ระหว่างโลกย้ายขั้ว แรงบิดระหว่างแรงดึงของสนามแม่เหล็กของ PX ในบริเวณรอยแยกกลางมหาสมุทรแอตแลนติค และการหมุนรอบตนเองของแกนพลังงานแมกม่าเหลวในโลก ยื้อยุดกันในทิศตรงกันข้าม แรงบิดที่เกิดขึ้นทำให้รอยแยกกลางมหาสมุทรแอตแลนติคแยกตัวออก เปิดโอกาสให้แผ่นเปลือกโลกที่ซ้อนอยู่เหนือแมกม่าลอยตัวขึ้นมาอีกวาระหนึ่ง ขนาดใหญ่เป็นทวีปเลยทีเดียว ระหว่างปลายแหลมทวีปอาฟริกาและประเทศบราซิล เป็นพยากรณ์ล่วงหน้าจากคุณ Zeta
ผลจากเปลือกโลกบิดตัวที่กล่าวแล้ว ยังส่งผลให้แผ่นยูเรเชี่ยนที่ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซียและยุโรปตะวันออกตั้งอยู่ เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันออก ทำให้ฮิมมาลาย่ากดทับประเทศอินเดีย ที่ตั้งอยู่บนปลายแผ่นด้านเหนือของ แผ่นอินโด-ออสเตรเลีย จมหายไปทั้งประเทศในเวลาชั่วพริบตา วันนั้นจะเป็นวันที่นำความหายนะมาสู่ชาวอินเดียทั้งประเทศ และชาวโลกเกือบทั้งหมดบนแหลมอินโดจีน ยาวไปสุดประเทศอินโดนีเซีย ชาวเกาะมาเรียน่า ประเทศบรูไนล์ ฟิลิบปินส์ และพื้นที่ 2 ใน 3 ส่วนทางฝั่งตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย จะจมลงในกระแสคลื่นยักษ์สูง 600-700 ฟุต ที่มีพลังงาน Tidal Bore ช่วยให้แนวคลื่นส่วนหน้าเดือดเป็นฟองไต่ข้ามเขาสูงได้หลายพันฟุต น้ำพัดพาทุกสิ่งที่ขวางหน้าเชี่ยวกรากตรงมายังบริเวณที่ประเทศอินเดียจมหายไปลึกหลายร้อยเมตร ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง น้ำลดลงไปแล้วทิ้งไว้แต่ผืนแผ่นดินที่ว่างเปล่

เป็นที่น่าสังเกตว่าดาว Nibiru โคจรตามเข็มนาฬิกา ส่วนดาวต่างๆในระบบสุริยะของเราหมุนทวนเข็มนาฬิกา จึงยิ่งเพิ่มเรื่องน่าตื่นเต้นระหว่างที่โคจรมาใกล้โลก และเข้ามาเกาะเกี่ยวกับวงโคจรในระนาบของโลกและดวงอาทิตย์ ถ้าจะเปรียบเทียบว่าโลกและดาวอื่นๆที่อยู่ในระบบสุริยะอยู่บนเพลนเรียบๆเหมือนอยู่ท้องมหาสมุทรเดียวกัน ส่วนดาวนิบิรุโคจรลงมาในมุมทะแยง 32 องศา ลงสู่มหาสมุทรแรง กระทบต่อผืนน้ำที่จะส่งแรงกระเพื่อมมายังโลกและดาวอื่นๆทั้งระบบจะมีความรุนแรงเพียงใด เราก็จะพอมองเห็นภาพของผลกระทบได้อย่างชัดเจน
ส่วนเรื่องอื่นๆทางด้านพลังความร้อน คลื่นพลังงานสนามแม่เหล็ก รังสีอันตรายต่างๆยังไม่ได้พูดถึง รถเล็กวิ่งสวนทางกับรถใหญ่ใกล้ๆกัน รถเล็กยังแทบถูกลมอัดตกถนน ส่วนนิบิรุใหญ่กว่าโลก 4 เท่ามีมวลมากกว่า 23 เท่า รวมทั้งแรงโมเมนตั้มที่เกิดจากน้ำหนักมวลดาวและความเร็วยกกำลังสองแล้วคูณกัน และยังมีบริวารดวงจันทร์อีกหลายโหลควงสว่านอยู่อีก 2 ปีก เศษขยะต่างๆตั้งแต่ขนาดเม็ดทรายจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ และฝุ่นพิษสีแดง ผนวกกับทิศทางโคจรสวนทางกัน โดยนิบิรุ Retrograde หลบเลี่ยงความเข้มของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์อีกด้วย เดินๆหยุดๆ หรือหยุดลอยตัวอยู่เฉยๆ จึงยากแก่การคาดเดาวงโคจรที่แท้จริง
NASA ลงทุนโครงการอวกาศมากมายมหาศาล ทั้งนี้เพื่อจะตรวจจับให้ได้ว่า Planet X มีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อโลกมากเพียงใด ก็ไม่สำเร็จ เมื่อจวนตัวมากเข้าจึงจำเป็นต้องตัดสินใจ นำนักบินอวกาศที่ประจำอยู่บนยาน ISS กลับลงมาสู่โลกทั้งหมด หลายๆท่านอาจจินตนาการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ส่งมายังโลกและดวงดาวดวงอื่นๆในระบบสุริยะนี้ได้ง่ายเข้า แรงเหวี่ยงหรือโมเมนตั้มของนิบิรุ ลากดึงให้เปลือกโลกลื่นหลุดกับแกนในของโลกได้ 90 องศาคราวนี้

จะเป็นอย่างไรก็ตาม อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ผู้ที่เกิดมาในยุคนี้ สามารถทราบข่าวสารล่วงหน้าได้ตลอดเวลา หากใส่ใจติดตาม และหากมีความไม่ประมาทในการมีชีวิตอยู่ ก็ควรมีการเตรียมการล่วงหน้า ไม่ว่าจะรอดชีวิตจากวิกฤตครั้งนี้หรือไม่ก็ตาม หากได้เตรียมพร้อมทั้ง 2 อย่าง ทั้งทางกายภาพและมโนวิญญาณ ก็จะทำให้เราพร้อมเผชิญเหตุการณ์ ที่ทุกคนตั้งใจมาเกิดในช่วงระยะนี้ จะอยู่หรือจะตายก็ได้ทั้งสิ้น ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองทั้ง 2 อย่าง เตรียมตัวพร้อมรับสิ่งแวดล้อมใหม่อย่างผู้ที่ไม่ประมาท
เมื่อวิเคราะห์ลงไปอีกนิด คนเรามีสังขารร่างกายและจิตใจ ที่จำเป็นต้องเตรียมการต่างกัน ลองมาเริ่มที่ส่วนของร่างกายก่อน ก็ต้องเตรียมการเรื่องทำเลที่อยู่อาศัย และการหาเลี้ยงชีพที่สอดคล้องกับภาวะแวดล้อม และเทคโนโลยี่ในปัจจุบัน แวะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ลิงค์นี้
ว่า ศ.ดร.นพ.เทพพนม และเพื่อนต่างดาวของท่าน มีข่าวดีอะไรมาฝากชาวโลกบ้าง เราจะได้เลือกสรรให้เหมาะแก่กาลสมัย และใช้ต่อยอดกับศักยภาพในถิ่นประเทศที่เราอาศัยอยู่ ให้ดีที่สุด รวดเร็วที่สุดเอาไว้ชั้นหนึ่ง ดีกว่าปล่อยไปตามยะถากรรม หรือตั้งอยู่บนความประมาท ด้วยคติว่า ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน ก่อนเทพพรหมครูอาจารย์จึงจะช่วยเราได้ เช่นเดียวกับพระมหาชนกต้องว่ายน้ำอยู่ในทะเล แม้จะยังมองไม่เห็นฝั่งก็ตาม ก็หาได้หยุดใช้ความเพียรไม่ จนกว่านางเฆขลาจะมาพบเข้า
เมื่อพิจารณาถึงสิ่งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นับเป็นเรื่องที่มีทั้งด้านดี และไม่ดี ปัญญาชนผู้ไม่ประมาท ก็จะหยิบฉวยเหตุการณ์ครั้งนี้มาสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ตนเองอย่างสูงสุด และยังเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว หนทางที่เราจะช่วยตนเองให้รวดเร็วที่สุด ก็ต้องมองถึงแหล่งที่พึ่งทางใจ ในมิติพลังงาน ที่ผู้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะพุทธศาสนิก และศาสนิกอื่นๆ ก็เลือกพระรัตนตรัย และองค์ศาสดาของตนเป็นที่พึ่ง
พระบรมธรรมบิดา พระวิสุทธิพุทธรังษี พระผู้เป็นใหญ่ในนิพพาน ทรงทราบดีถึงภัยพิบัติและความวิกฤต ที่พลโลกและบรรดาลูกหลานของพระองค์ท่านกำลังจะต้องเผชิญ ในอนาคตอันใกล้ ท่านจึงทรงประทานแสงทิพย์อริยธรรม ลงมาเป็นกรณีพิเศษตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2547 ในช่วงระยะเวลาจำกัด รับลูกหลานของพระองค์ท่านกลับบ้านนิพพาน โดยทางลัดด้วยวิชาอภิญญาใหญ่ ที่หารายละเอียดศึกษาเตรียมตัวได้ที่ลิงค์นี้
http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=162 พร้อมทั้งกระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อความกระจ่าง ให้ผู้สนใจทดลองปฏิบัติตนด้วยตนเองให้สิ้นสงสัย ซึ่ง ลุงชัย แสงทิพย์ และทีมงาน กำลังให้การสงเคราะห์บรรดาลูกหลานฟรี ที่ลิงค์นี้..http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=259 ไม่ต่างกับการได้รับประทานอาหาร ตัวท่านเองเท่านั้นที่บอกได้ว่ารู้สึกอิ่มแล้ว เช่นเดียวกัน ในมิติพลังงาน จิตใจของแต่ละคนเท่านั้น ที่จะบอกกับตนเองได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงกับสิ่งที่ตนเองได้รับสัมผัส ไม่ต่างกับได้เรียนรู้วิธี เปิดซีพียูใจ ของตนเอง ให้ได้สักครั้งหนึ่ง ในคราวต่อๆไปทุกท่านที่รู้วิธีแล้ว ก็จะสามารถใช้ ซีพียูใจ ของตนเองได้อย่างเต็มที่เข้าใจและน้อมรับแสงทิพย์ของพ่อเกิดแม่เกิดของทุกสรรพวิญญาณ เป็นอุปกรณ์พิเศษช่วยตนเองให้รอดพ้นจากวิกฤตโลก ไม่ว่าจะรุนแรงขนาดไหน ไม่ว่าจะยังมีชีวิตเหลือรอดอยู่หรือไม่ก็ตาม ด้วยการเผชิญทุกๆเหตุการณ์ อย่างมีสติไม่ประหวั่นพรั่นพรึงต่อพญามัจจุราชที่กำลังปรากฏกายอยู่ตรงหน้า ก็ยังเหลืออยู่ที่จิตใจของเราเอง ว่าจะเลือกพิจารณาอย่างไร ที่รวดเร็วแล้วฝึกปรือตนเองให้คล่องแคล่ว ใช้งานตัวช่วยจิตวิญญาณของเราให้ได้เต็มที่ เท่าที่ได้ออกความเห็นในภาพจิ๊กซอร์ที่รับมา และวิเคราะห์สถานการณ์ที่ทุกๆชีวิต จะเลือกเผชิญเหตุการณ์อนาคตแบบใด พร้อมทั้งยกตัวอย่างแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทั้งสองภาค ที่นับเป็นโอกาสดี และเป็นโอกาสครั้งสำคัญยิ่งของทุกๆชีวิต ท่านพ่อเกิดแม่เกิดของทุกสรรพวิญญาณ ก็ได้ส่งแสงทิพย์อริยธรรม หรืออภิญญาใหญ่ มารับลูกๆคืนกลับบ้านอย่างปลอดภัย ชั่วนิจนิรันดร์กันแล้ว ถ้ามองในด้านดี การปรากฏตัวของ Nibiru ในคราวนี้ เท่ากับมาเตือนและเร่งรัดทุกท่านที่ไม่ประมาทในชีวิต ว่าถึงเวลาชวนกันกลับบ้านนิพพาน ที่ได้จากบ้านกันมานานพอแล้ว คืนกลับสู่บ้านเรากันให้พร้อมในทุกขณะจิตนั่นเอง ไม่ว่าร่างกายที่หยิบยืมมาจากโลกจะแตกสลายไป จิตอันสว่างสดใสก็ยังนั่งแผ่เมตตาสงบเย็นอยู่ในพระอุทรของพระบรมธรรมบิดาร่วมกับพระองค์ท่านตลอดไป ขอลากันทีกับการท่องยุทธจักรในนาๆมิติ ขอลูกๆของพ่อเกิดแม่เกิดเดียวกัน ที่ได้ทราบภาวะแวดล้อมโลก ที่รุนแรงยิ่งขึ้นทุกขณะ และต่างตระหนักชัดแน่นอนแล้ว พากันชักชวนบอกต่อเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ทั่วถึงทั้งโลก ที่ได้นัดกันมาเกิดร่วมกันในช่วงระยะเวลาพิเศษ ที่มีความสำคัญยิ่งของโลกและจักรวาลครั้งนี้ ได้อาศัยทางลัดของพระบรมธรรมบิดาพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมศาสดา ที่ทรงพระมหาเมตตาจิตต่อบรรดาลูกๆทุกคน ส่งอุปกรณ์อันเป็นทิพย์อภิญญา มาให้ใช้ฝึกปรือจิตใจตนเองให้แม่นยำคล่องแคล่ว พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา จนจิตละออกจากร่างกายนี้ ให้ได้ไปพบกันที่พระนิพพาน หลังจากหมดภารกิจสุดท้ายที่ต่างตั้งใจจุติลงมาเกิดบนโลกในครานี้ โดยถ้วนทั่วพร้อมกันเทอญ * ปัจจุบันหลายๆท่านมีสิ่งของพิเศษสำหรับติดอยู่กับตัว ช่วยป้องภัยอันตรายจากรังสีที่เป็นพิษภัยต่อระบบร่างกายและเนื้อเยื่อพร้อมอยู่แล้ว สำหรับหลายๆท่านยังต้องการตัวช่วยไม่ต่างกับทหารที่ออกศึกมีเสื้อเกราะช่วยป้องกันอันตรายฉันนั้น |
โลกย้ายขั้วเหนือและใต้ใหม่ ตามที่คุณ Zeta เปิดเผยแผนที่โลกใหม่ ประเทศอินเดีย และส่วนหนึ่งของออสเตรเลียจมน้ำถาวร ส่วนพื้นที่ประเทศไทยที่เหลืออยู่ทางภาคเหนือบางส่วน จะย้ายลงไปอยู่ในระดับขั้วโลกใต้ ห่างจากจุดขั้วใตประมาณ 4,000 กิโลกเมตรมีอากาศหนาวเย็นคล้ายๆเมืองคุณหมิงในปัจจุบัน พระอาทิตย์จะลดแสงส่ว่างลง ใน Density ที่ 4 วงโคจรของโลกจะใหญ่ขึ้น และโลกจะปรับยกทางกายภาพบางส่วนเป็น Density ที่ 4 ส่วนทางจิตวิญญาน คนที่เหลือรอดจะปรับยกไปสู 4 |