ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)
เรื่อง: การเนรมิต: ความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ และสนามพลังคริสตัลไลน์
(Manifestation: Impeccability & The Crystaline Field)
วันที่: 15 มิถุนายน 2008
ผู้รับสาส์น: นาย Tyberonn
ที่มา:Manifestation : Impeccability & The Crystalline Field > Earth Keeper
ตอนที่ 6:
ความสำคัญของการวางอุเบกขา (The Importance of Detachment)
มาถึงตรงนี้ ภายในสมองของพวกคุณ
มีส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนที่อยู่นอกเหนือขอบเขต
ของความมีอัตตาตัวตน หรือ ego ซึ่งพวกเราเรียกว่า
“ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย” (Detached observer)
ส่วนนี้ไม่ใช่ “ผู้บรรยายจากภายใน” (inner narrator) เพราะว่าจริงๆแล้ว
“ผู้บรรยายจากภายใน” ก็คือผู้ที่ยังยึดติดอยู่ “ผู้บรรยายจากภายใน” จะยึดติดอยู่กับ
“กายแห่งอารมณ์” (emotional body) ดังนั้น มันจึงไม่ใช่ “ผู้สังเกตการที่วางเฉย”
จงทำให้ “ผู้บรรยายจากภายใน” เงียบเสียงลง
เหมือนตอนที่พวกคุณเข้าสมาธิ แล้วปล่อยให้
“ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย” เข้ามาทำหน้าที่แทน
พวกคุณเห็นไหม พวกคุณเข้าใจถึงความแตกต่างของสองสิ่งนี้ไหม?
“ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย” อยู่อีกส่วนหนึ่งของสมองของพวกคุณ
ซึ่งเป็นสมองส่วนที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของความมีอัตตาตัวตน
มันอยุ่นอกเหนือขอบเขตของการตัดสินชี้ถูกผิด
เพราะมันจะแค่สังเกตการณ์ไปเรื่อยๆ ด้วยการวางเฉยเท่านั้นเอง
(สมองส่วนที่เกี่ยวข้องความมีอัตตาตัวตน หรือ ego คือสมองซีกซ้าย
ส่วนสมองส่วนที่ทำหน้าที่ด้านจิตวิญญาณนั้น จะเป็นสมองซีกขวา
ลองอ่านดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากกระทู้ที่ให้ลิงค์มาข้างล่างนี้นะครับ - ผู้แปล)
"ภูมิปัญญาภายใน-กับการทำงานของสมองซีกขวา"
http://board.palungjit.com/f2/%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B2-261796.html
นี่คือสิ่งสำคัญ จงพัฒนาพลังงานชนิดนี้
จงพัฒนาความเป็นอันนี้ ความเป็นสภาวะๆนี้
ตอนนี้ จงใช้เวลาสัปดาห์ละสองครั้ง ก่อนนอน เพื่อยอมให้
“ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย” ได้มองเห็นการกระทำ
ของความเป็นอัตตาตัวตนของพวกคุณเอง
ในระยะสอง หรือ สามวันที่ผ่านมานั้น
พวกคุณจะสามารถสังเกตการณ์ด้วยความไม่ลำเอียง ในสิ่งที่พวกคุณได้ประสบมา
ในวันที่พวกคุณไปสัมนาได้อย่างไร และเมื่อเปรียบเทียบกับวันอื่นๆหลังจากนั้นมา มันเป็นอย่างไรบ้าง?
จะมีพวกคุณสักกี่คน ที่สามารถมองเห็นความเป็นตัวตนของตัวเอง
ที่จำเป็นจะต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น?
มันง่ายที่จะมองเห็นไหม?
มันใช่สิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า?
มันง่ายที่จะทำไหม?
ใช่ หรือ ไม่ใช่?
แน่นอน..ท่านคุรุทั้งหลาย..มันไม่ง่ายเลย!
ที่มันไม่ง่ายก็เพราะว่า พวกคุณส่วนใหญ่ เลือกที่จะเก็บซ่อนสิ่งที่ยากต่อการเผชิญหน้าเอาไว้,
พวกคุณมักจะเก็บซ่อนสิ่งที่พวกคุณปฏิเสธ, สิ่งที่พวกคุณไม่สามารถยอมรับมันได้เอาไว้
แล้วพวกคุณก็มักจะซ่อนมันเอาไว้หลังตู้ หรือกวาดมันลงไปซุกไว้ใต้พรม
เพราะว่ามันขัดแย้งกับผู้ที่คุณอยากจะเป็น พวกคุณซ่อนมันเอาไว้ไม่ให้คนอื่นเห็น
และก็ซ่อนมันเอาไว้จากตัวคุณเองด้วย
มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่จะยอมรับเอาด้านที่ไม่ดี
ด้านที่เป็นข้อบกพร่องของตัวเอง เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณเอง
แต่ว่านิสัยไม่ดีเหล่านี้แหละ ที่พวกคุณจะต้องเผชิญหน้ากับมัน
ถ้าพวกคุณต้องการบรรลุความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ (Impeccability)
