วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เขื่อนเสียหายจากแรงแผ่นดินไหว

การออกแบบเขื่อนต่างๆ วิศวกรผู้ออกแบบเขื่อน จะเตรียมความแข็งแรงของโครงสร้างเขื่อนให้ทนแผ่นดินไหวได้ถึง 7-7.5 ริกเตอร์เท่านั้น

แต่ผู้ออกแบบเขื่อนเหล่านี้ จะใช้บันทัดฐานเพียงแค่การไหวเป็นคราวๆตามทฤษฎีแผ่นดินไหวว่าหากไหวครั้งหนึ่งแล้ว จะต้องสะสมพลังงานอีกหลายปี กว่าจะเกิดอีกครั้งหนึ่ง

แต่หากมาดูความจริงของแผ่นดินไหวในปัจจุบันเช่นที่ขอบประเทศฟิลิบปินส์ทางด้านทิศตะวันออก จะเห็นว่าภายในวันเดียวไหวอยู่ในบริเวณเดียวกันตั้ง 5-6 รอบ....ทฤษฎีการเกิดแผ่นดินไหว ที่มนุษย์เรียนรู้มาจากตำรา จึงใช้ไม่ได้ วิจารณ์เรื่องนี้ในฐานะวิศวกรอาวุโสทางด้านเขื่อน ดังนั้นนักธรณีจึงพากันเงียบต่อปรากฏการณ์ธรรมชาติที่กำลังปรากฏขึ้นรุนแรงโดยตลอด บ่งชี้ว่า ไม่มีในตำราที่เคยศึกษามา...จึงใช้สมมุติฐานการออกแบบเขื่อนต่างๆผิดไปจากความเป็นจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ เช่นเดียวกับการออกแบบทางระบายน้ำท่อรอดใต้ถนน ผู้ออกแบบจะใช้สถิติน้ำฝนที่ผ่านมา 15-20 ปี นำมาเป็นเกณฑ์ในการหาปริมาณน้ำสูงสุดที่จะผ่านลงไปทางที่ต่ำ...แต่ปัจจุบันปริมาณน้ำฝนแต่ละคราวจะมากกว่าฝนปกติหลายเท่าตัว ในระยะเวลาเท่าๆกัน จึงระบายน้ำไม่ทันเป็นต้น เรื่องนี้ผู้ออกแบบไม่ได้คาดคิด และเผื่อพื้นที่ทางน้ำผ่านเช่นในปัจจุบัน น้ำจึงท่วมไหลผ่านถนนอยู่ทั่วไปทั้งประเทศเป็นต้น วิศวกรผู้ออกแบบไม่ต้องการออกแบบขนาดเอาไว้ให้โอเวอร์ดีไซน์ ซึ่งจะถูกผู้บังคับบัญชาสอบถามในเวลานั้น แล้วไม่สามารถหาคำตอบให้ได้

ทีนีกลับมาที่เขื่อนจะแตกหัก ในเมื่อเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง หลายวันที่รุนแรง
8-10 ริกเตอร์ (ตรงนี้ผู้ออกแบบก็ไม่เคยมีอยู่ในสเป๊คการออกแบบ) เขื่อนหรือโครงสร้างต่างๆทนไม่ได้ และในพื้นที่ประเทศไทยทั้งประเทศอยู่ในโซนแผ่นดินยืดแถมเข้ามาอีกด้วย (เรื่องนี้ไม่เคยมีอยู่ในความคิดคำนึงของวิศวกรที่ออกแบบโครงสร้างต่างๆ ไม่มีในตำราที่ศึกษามา) และปัจจุบันเท่าที่ทราบยังไม่มีนักธรณีวิทยาของประเทศไทยพูดถึงสภาพ Stretch Zone ในประเทศไทยแต่อย่างใด อาการแผ่นดินยืดจะเกิดหลุมยุบ แผ่นดินแตกเป็นแนวยาว ถนนแตกหัก สะพานพังเนื่องจากเสาตอม่อย้ายที่เช่นที่เกิดขึ้นที่แม่น้ำมิสซิสซิปปี้ที่ผ่านมา (กำลังจับตาดูว่า ในประเทศไทยจะมีถนนและสะพานแถบไหนจะเสียหายเนื่องจากแผ่นดินยืดบ้าง อาจจะเกิดขึ้นหลังจาก ประเทศอินโดนีเซียทรุดจมลงถึงเกณฑ์ 80 ฟุต โดยพื้นที่ประเทศไทยบนแผ่น sunda Plate เดียวกันจะทรุดตัวตามอีกประมาณ 40 ฟุตทั้งประเทศ และบิดเอียงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังเ้ฝ้าระวังต่อไปอย่างเข้มงวด โดยสัญญานจะมาจากเกาะทั้งสอง ใต้และเหนือของญี่ปุ่นที่จะมีรายงานข่าวของสื่อทั่วโลกในอนาคต) และกำลังจะพังเพิ่มขึ้นใน นิวแมดริดแอ๊ดจั๊ตเม้นท์ต่อไป ซึ่งในทวีปอาฟริกา เกิดรุนแรงกว่าในประเทศไทยหลายเท่าที่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว และกำลังจะเกิดต่อไป ในขณะที่แผ่นอาฟริกากำลังเคลื่อนตัวหมุนมาทางมหาสมุทรอินเดีย และทำให้พื้นที่รองรับท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขาดหายไป ..ท้องทะเลนี้ก็จะทรุดตัวต่อไป

ดังนั้นสิ่งที่น้องปลาบู่พูดถึง และเตือนพี่น้องชาวไทยส่วนหนึ่งให้ทราบล่วงหน้านั้น น้องปลาบู่หมายถึง เวลาที่โลกกำลังตกอยู่ในภาวะ
Severe Wobble ที่กำลังจะมาถึงต่อไป เมื่อ PlanetX ขยับเข้าใกล้โลกมากขึ้นและหาช่องลงมาบน Ecliptic อยู่ระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ในเพลนเดียวกันนั่นเอง (ขณะนี้ PX ยังลอยตัวอยู่เหนือ Ecliptic ใกล้ดาวศุกร์ ห่างจากโลกประมาณ 40 ล้านไมล์ พร้อมกับบังแนวสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ เกิด Eddy Flow เป็นหลุมใหญ่ที่โลก ดาวศุกร์และดาวดำคู่แฝดโลก กำลังตกอยู่ในถ้วยเอ๊ดดี้นี้มาร่วมปีแล้ว รวมพลังกันต่อต้านแรงสนามแม่เหล็กจาก PX โดยดาวทั้ง 3 ดวงหยุดหมุนรอบดวงอาทิตย์ชั่วคราว และกำลังถูกขั้วเหนือของ PX ส่งพลังงานและส่งเศษขยะจากบริเวณหางรวมทั้งฝุ่นสีแดงมายังโลกมากขึ้น ประเทศไทยอยู่ข้างๆโลกได้รับผลกระทบน้อยกว่าย่านใกล้ขั้วโลกเหนือ เช่นยุโรป แคนาดา และอเมริกาเหนือ และย่านขั้วโลกใต้ แกนพลังงานของโลกโดยเฉพาะขั้วเหนือ จึงสวิงซ้ายหลบพลังแรงสนามแม่เหล็กของขั้วเหนือของ PX วันละ 2 รอบ แกว่งตัวเป็นรูปเลข 8

ที่เพิ่งผ่านมาคุณ Zeta รายงานว่าโลกเกือบจะนอนลงแล้ว เวลาดีดตัวกลับจึงส่งผลให้เกิด
Earth Wobble รุนเแรงเพิ่มขึ้น...และความรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้นโดยลำดับเมื่อ PX ยิ่งเคลื่อนตัวเข้้ามาใกล้โลกมากยิ่งขึ้น และหาโอกาสลงมายัง Ecliptic ต่อไป ก่อนจะเดินทางจากไป พร้อมกับลากจูงเปลือกโลกให้ ย้ายขั้วไป 90 องศานั่นเอง ใครที่ต้องการจะสัมผัสเหตุการณ์คราวนี้พยายามหาทางเอาชีวิตให้รอดไว้...ฟังไว้เสมือนดูหนังตัวอย่าง เอาไว้รอดู ของจริง ว่าจะเข้มข้นสุดจะคาดเดาขนาดไหน...

ลูกหลานรุ่นใหม่ๆใจเย็นๆเอาไว้และให้เป็นคนช่างสังเกตและกลับไปทบทวนตำราต่างๆที่เล่าเรียนมาว่าตรงกับสิ่งที่เราได้เห็นอยู่ไหม...เช่น ทำไมยามค่ำคืนท้องฟ้าจึงไม่มืดสนิท มีแสงเรืองแดงระเรื่อปรากฏทั่วท้องฟ้าเป็นประจำเหนือประเทศไทย...และตำแหน่งการขึ้นการตกของพระอาทิตย์ทำไมเปลี่ยนไปเสมอหลายดีกรี เดี๋ยวกระเดียดไปทางขั้วใต้ เดี๋ยวย้ายไปทางขั้วเหนือ ...ทำไมปลาวาฬจึงหนีอะไรมาตายอยู่ทางเกาะใต้แถบแทสมาเนียของออสเตรเลียกันมากกว่าพันตัวแล้ว

ส่วนผู้ที่ต้องการจะสัมผัสหรือพูดคุยกับ ชาว
Zetas นั้นก็ส่งคำถามจากจิตของแต่ละคนไปถึงพวกเขาได้ตลอดเวลา รวมทั้งขอชมยานที่พวกเขาใช้ด้วยให้มาปรากฏใน 3rd Density ให้เราและเพื่อนๆได้ชมกันบ้าง หรือสะดวกจะเข้าไปทักทาย รู้จักตัวตนกันให้มากยิ่งขึ้นก็เข้าไปได้ตลอดเวลาในขณะที่อินเทอร์เน็ตยังทำงานให้อยู่ตามลิงค์ที่ติดไว้ให้

ผู้ที่ใส่ใจจะเอาตัวให้รอดปลอดภัย และสนใจสิ่งใหม่ๆรอบตัวและพัฒนา เพิ่มคลื่นความถี่สูง ให้จิตของตนเองไปพร้อมกันด้วย อาจจะต้องทำการบ้านตามลิงค์ต่างๆที่ติดเอาไว้ห้ออกไปอีกหลายเดือนทีเดียว....เวลาร่นใกล้เข้ามาทุกขณะ จึงขอให้ทุกๆคนใฝ่หา ทางลัด ทั้งทางโลกและธรรมเอาไว้ใช้ ให้เท่าทันกับกาลเวลาที่ยังพอมีเหลืออยู่