วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว

โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว
คุณ Zeta พูดถึงขนาดของแผ่นดินไหว ขณะที่โลกย้ายขั้วจะอยู่ที่ 9 ริกเตอร์ ส่วนอาฟเตอร์ช๊อค จะอยู่ที่ 8-9 ริกเตอร์ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกในแต่ละแห่ง ในโซนที่มีแผ่นดินไหวในระหว่างโลกย้ายขั้วจะเกิดแผ่นดินไหวถี่ๆติดต่อกันเป็นเวลานาน คงไม่ต่างกับกำลังอยู่บนเรือโต้คลื่นสูงๆในทะเล ก็ต้องปรับตัวเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกับเปลือกโลก ซึ่งผู้ที่ได้ทดลองนั่งอยู่ในโดมพีระมิด ของวัดดอยเกิ้ง จะได้รับผลกระทบน้อยลงหรือไม่ได้รับผลกระทบ มีศิษย์บางท่านบอกว่าเสมือนนั่งอยู่ในภาวะไร้น้ำหนัก ผู้เขียนยังไม่เคยทดลองนั่งเอง เนื่องจากขณะที่ไปเยี่ยมชม กำลังมีการก่อสร้างและได้งดจ่ายกระแสน้ำมาที่โดมพีระมิดชั่วคราว จึงพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย แต่ได้ทราบว่าพระอาจารย์รัตน์ ท่านค่อนข้างพอใจมาก ที่ค้นพบอุปกรณ์จากพีระมิดชนิดใหม่สำหรับช่วยสงเคราะห์ผู้คน ที่จะประสบปัญหาเหนือความคาดหมายในอนาคต ให้มีความปลอดภัยในชีวิต และใช้ส่งเสริมสุขภาพได้ดียิ่งกว่าใช้เตียงพีระมิด รุ่นเก่า
พูดมาถึงตรงนี้เกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมไม่ลองหามาติดตั้งใช้ดูเสียเลยในเวลานี้ ว่าจะให้ผลเป็นประการใด เมื่อแน่ใจในผลที่เกิดขึ้นกับตนเอง จะได้นำไปต่อยอดสำหรับอาคารหลบภัยในอนาคต พร้อมกับตอบคำถามผู้ที่ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ได้อย่างเต็มปาก...ช่วงระยะเวลาที่โลกค่อยๆสูญเสียแรงโน้มถ่วงนั้น ก็อยู่ในช่วงระยะเวลาหลายวันทีเดียว และไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด ในช่วงระยะเวลาประมาณ 22 วัน จนกว่า PX จะโคจรจากไป
พร้อมกับย้ายขั้วโลกไปที่ใหม่ประมาณ 90 องศา ปรับความสมดุลพลังงานใหม่ให้แก่โลกอนาคต ที่กำลังจะก้าวไปสู่ 4th Density ซึ่งใช้คลื่นความถี่สูงกว่าในระดับ 3rd Density ที่มนุษย์โลกกำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้เป็นมติของตำรวจจักรวาล หรือ Council of Worlds นั่นเอง...ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับผู้มีจิตใจดีทั้งหลายที่จะรอดชีวิตเข้าไปในโลกยุคใหม่ ซึ่งจะมีภาระในการช่วยสงเคราะห์ผู้ที่พิการทางจิตอีกประมาณครึ่งหนึ่งทีเดียว ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เนื่องมาจากจิตใจทนความเครียด และการสูญเสียต่างๆที่ผ่านมาไม่ได้  ไม่ได้ฝึกสติด้านเรื่องการปล่อยวางรวมถึงตัวตนของตนเอง และตระหนักถึงความไม่แน่นอนของโลก และเป้าหมายที่แท้จริงของการมาเกิดเป็นคน
ในระหว่างที่โลกกำลังหมุนรอบตนเองช้าลงโดยลำดับนั้น โลกจะสูญเสียแรงโน้มถ่วงลงไปด้วย และ Planet X เคลื่อนเข้ามาใกล้โลกเพิ่มขึ้นจนเหลือระยะทางเพียง 14 ล้านไมล์ ตามที่คุณ Zeta กล่าวไว้ ในประเด็นนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแลกซี่ต่างๆที่ข้องเกี่ยวกับโลกและสุริยจักรวาล พบมาหลายปีว่าจะมีคนลอยขึ้นไปในอากาศ ยึดเกาะสิ่งรอบตัวเอาไว้ไม่อยู่
ได้เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจอยู่ร่วมปี จึงพบคำตอบของคุณ Zeta ว่าสิ่งของและผู้คนจะลอยออกไปในอวกาศ ในภาวะที่โลกสูญเสียแรงโน้มถ่วง และยังกล่าวว่าสภาพแรงโน้มถ่วงบน Planet X สูงกว่าบนโลก 50 % และยังมีบางคำตอบกล่าวว่า ทาง Council of Worlds ยังมีการย้ายคนที่เห็นแก่ตัวไปจากโลกนี้ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย อีกส่วนหนึ่ง (นัยว่าหลายพันล้านคน) ย้ายไปเมื่อเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่านอกจากเสียชีวิตบนโลกแล้ว ถูกพาไปเกิดที่โลกใหม่นอกนั้น มีอีกเท่าไรที่ถูกพาตัวไปในระหว่างมีชีวิต นัยว่าพวกหลังนี้หากปล่อยไว้บนโลกกว่าจะตาย จะสร้างความปั่นป่วนเดือดร้อนให้แก่สังคมโลกมากเกินไปกระมัง ถึงถูกหมายหัวและตัวเบา เพื่อจะได้ลอยไปในอากาศได้ง่ายเข้า
ชาว UFO ย้ายดาวศุกร์ย้ายดวงจันทร์จากวงโคจรเดิมก็ได้ เมื่อได้รับอนุมัติจากตำรวจจักรวาลหรือ COW ดังนั้นการย้ายบางคนจากโลกใบนี้ไปสู่โลกใหม่ที่เป็นที่กักกันโดยเฉพาะ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นอะไร อาจจะแปลกสำหรับมนุษย์โลกที่ยังไม่เคยได้พบเห็น ก็ต้องรอดูเมื่อถึงเวลานั้นว่าเรื่องที่นำมาเสนอนี้จะเกิดขึ้นที่ประเทศไทยนี้บ้างหรือไม่
ขอวกกลับมาที่วัสดุก่อสร้างอาคารที่หลบภัย อาการแผ่นดินไหวรุนแรงต่อเนื่องขนาดนั้น การคัดเลือกวัสดุต่างๆในการสร้างที่อยู่อาศัยล่วงหน้าการเกิดวิบัติกาล จึงมีความสำคัญ ต้องมีความยืดหยุ่นสูง และทนทานต่อแรงแผ่นดินไหว ทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้ดี และไม่แตกหักพังลงมาทับผู้ที่อาศัยอยู่ภายใน
ลองมาฟังคำแนะนำของคุณ Zeta ที่ให้ความเห็นต่อสภาพการณ์แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นทั่วโลกในเวลาที่โลกย้ายขั้ว
ZetaTalk Chat Q&A for June 26, 2010

Can the Zetas tell us what kind of post passage after-shocks can be expected in areas that historically have little to no earthquake activity? It is important for determining shelter building after the fact as one can not prepare structures - dome or otherwise - for all whom they anticipate will arrive. In some locations where travel and escape are not anticipated, tents and log cabins would be the realistic post passage structures, but I wouldn't want to be in a log cabin if years of strong earthquakes are to be expected.
The pole shift itself will be magnitude 9 worldwide. Aftershocks as large as magnitude 8 or even 9 can be anticipated to be strongest in those parts of the world where extreme subduction has occurred, as thus the weight of a land plate will be pressing down and some rock strata snapping as it breaks under this pressure. The shear cliff at Yosemite is an example of such rock breakage. This would be true, after the pole shift, for New Zealand and eastern Australia, the region of Tibet, Japan, Kamchatka and the Aleutian Islands, a few hundred miles into the West Coast of the Americas (both north and south America). In areas experiencing stretch, the land will likewise be restless for some time, but this will be in the form of jiggling when some lingering support gives way and allows a portion of a land plate to drop further. Where it is assumed that the new course of a river has been established, there may be days of jiggling with the result that the river has round a new course, for instance. Construction in all such regions should be of light materials designed to be highly flexible. The ancient Japanese perfected these construction techniques, which could be studied. Items that can shatter should always be on the floor where they can roll, rather than drop. For the Japanese, this often included human beings, who lived and rested close to the floor for just such reasons.
คนส่วนใหญ่อาจไม่มีโอกาส หาทำเลหลบภัย ที่เป็นเขตนิวทรัลซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างเขต Proton และ Electron ได้ทุกคน เมื่อเลือกทำเลที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 250 เมตรขึ้นไปและอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล 150 กิโลเมตร ไม่อยู่ใกล้ทางน้ำไหล น้ำหลาก หรือพื้นที่ในหุบเขา หรือใกล้เขาสูง หรือริมแม่น้ำ
สำหรับในประเทศไทย พื้นที่แนวเหนือใต้ ที่น่าเป็นห่วงและควรหลีกเลี่ยงใช้เป็นพื้นที่หลบภัย คือแนวที่แม่น้ำโขงที่หักข้อศอกไปประเทศลาวที่อำเภอเชียงแสน พุ่งตรงเข้ามาในประเทศไทย แม่น้ำโขงมีโอกาสสูงต่อการเปลี่ยนเส้นทาง หากเขื่อนต่างๆเหนือแม่โขงในประเทศจีนพังลง น้ำที่เคยไหลลงมาตามลำน้ำโขง จะมากกว่าหน้าน้ำหลาก เป็น 10 เป็น 100 เท่า โอกาสนั้นแม่โขงอาจเปลี่ยนเส้นทางเดิน จากเขตอำเภอเชียงแสนพุ่งตรงเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ทะลุออกทะเลผ่านพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งสมมุติฐานนี้มีโอกาสเกิดขึ้นสูงมาก โอกาสรอดของเขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมดในประเทศจีน ไม่น่ารอดพ้นภาวะแผ่นดินไหวรุนแรงไปได้แม้แต่เขื่อนเดียว รวมทั้งเขื่อนต่างๆในประเทศไทยก็ยังวางใจไม่ได้...ผู้ที่เคยอาศัยอยู่ 2 ฟากฝั่งน้ำมาแต่เดิมต้องใคร่ครวญใหม่ให้ทันเวลา
ส่วนวัสดุที่จะช่วยต่อต้านแผ่นดินไหว สำหรับสร้างที่พักหลบภัย ที่คุณ Zeta พูดถึงนั้น เท่าที่พิจารณาวัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน ฐานรากและคานดิน นอกจากจะใช้คอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงมากขึ้น กว่ามาตรฐานทั่วไปอีก 2-3 เท่าตัว และออกแบบให้ยึดโยงเป็นหน่วยเดียวกัน สำหรับอาคารชั้นเดียว ที่ต้องเผชิญพายุรุนแรงด้วย
ส่วนเสาอาจใช้เสาเหล็กกลมที่แข็งแรง และหลังคาโครงเหล็กที่แข็งแรงมากขึ้น ส่วนพื้นและผนัง หากใช้พื้นลอยตัวควรใช้พื้นไม่อัดหนา 20 มม.กันน้ำ วางบนตงเหล็กถี่ๆ และปูทับด้วยโฟมแผ่น ก่อนปูทับด้วยไม้อัดอีกชั้นหนึ่ง หากต้องการความเป็นธรรมชาติมากขึ้นก็ปูทับด้วยพื้นไม้จริงเข้ารางลิ้นสำเร็จรูปอีกชั้นหนึ่ง
สำหรับผนังบ้านนอกจากใช้โครงเหล็กแล้ว ตัวผนังใช้วัสดุที่เบาทำเป็นแบบไปด้วยถาวรเช่นใช้เสื่อไม้ไผ่สาน 2 ชั้น บุภายในด้วยพลาสติคห่อของ แล้วเทช่องว่างด้วยโพลี่ยูเรเทนโฟม ที่ผสมจากน้ำยาโฟม 2 ชนิดเข้าไปเต็มช่องว่าง ป้องกันความร้อน เสียง และมีน้ำหนักเบา เสื่อสานด้านในห้องอาจทาน้ำยาเคลือบไม้ ไม่ต้องฉาบปูน ส่วนภายนอกที่จะถูกฝนสาด หรือโดนความชื้นก็ฉาบปูนทับ โดยใช้ปูนฉาบสำเร็จ ที่ช่างใช้ฉาบอิฐมวลเบา จะเหนียวและไม่หดตัว ไม่เกี่ยงว่าจะฉาบบนไม้เหล็ก ติดแน่นและไม่แตกร้าว
ส่วนประตู หน้าต่างไม่ใช้กระจก ใช้ไม้ หรือวัสดุอื่นที่เหนียวแข็งแรงทนทานนแทนการใช้กระจก
หลังคาจะใช้แผ่นเหล็กรีดรอน หรือสังกระสีอย่างหนาก็ได้ ข้างใต้บุเสื่อสานและบุพลาสติคห่อของ แล้วเทโฟม เป็นตัวกันความร้อน เก็บเสียง และให้น้ำหนักเบา และให้ความยืดหยุ่นดี เช่นตัวอย่างการใช้จากผู้จำหน่ายรายนี้ หรือรายอื่นๆที่ควรสืบราคาเปรียบเทียบ
โฟมชนิดใช้เทดังกล่าวเป็นไอเดียกว้างๆ ในการสร้างผนังห้องทั้งภายในและภายนอกที่เปียกฝน หากใช้ภายนอกควรแบปูนเรียบทั้งสองด้าน ป้องกันความชื้นก่อเชื้อรา และป้องกันปลวก ที่ยังพอมีวัสดุที่หาซื้อได้ และพยายามใช้วัสดุในท้องถิ่นให้มากที่สุด ไม้ไผ่ที่มีอยู่ก็สามารถนำมาใช้แทนเหล็กเสริมคอนกรีตได้ สามารถอยู่ในคอนกรีตได้เป็นร้อยปี ผิวไม้ไผ่ก็ยังสดเขียวอยู่ แม้เวลาจะผ่านไปนานก็ตาม
อาคารที่ใช้ควรเป็นอาคารชั้นเดียวเท่านั้น แต่อาคารหลบภัย ที่ใช้ได้ทั้งก่อน ระหว่างและหลัง Pole shift ที่คุณ Zeta แนะนำนั้น เป็นรูปทรงของโดมวงกลมผ่าซีก อยู่เตี้ยๆกับพื้นดินดังรูปในลิงค์นี้