วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

14/07 ดร.เสรี แนะสร้างความตระหนักให้ชุมชน ระบุแผนอพยพหนีภัยเมื่อเกิดสึนามิ

14/07 ดร.เสรี แนะสร้างความตระหนักให้ชุมชน ระบุแผนอพยพหนีภัยเมื่อเกิดสึนามิ


        รศ.ดร.เสรี  ศุภราทิตย์  ผู้อำนวยการ ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม มูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าว ในงาน พบปะสังสรรค์ ที่ปรึกษามูลนิธิสภาเตือนภยพิบัติแห่งชาติ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2554 ภายในงาน ได้ขอความเห็นที่ปรึกษา เรื่อง "รัฐบาลใหม่ ความหวังประเทศไทย กับแผนรับมือภัยพิบัติ" ว่า ผมมีความรู้สึกว่าการบริหารจัดการภัยพิบัติจะไปอาศัยการจัดการร่วมมืออย่าง เดียวไม่ได้ ต้องมีกฎหมายต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน  
        ผมยกตัวอย่างกรณีการบริหารจัดการภัยพิบัติในบ้านเรา เรามีพ.ร.บ. ตั้งแต่ 2522 และเราก็พยายาม Button up มาปรับปรุงในปี 2550 ตั้งแต่เกิดสึนามิเป็นต้นมา ท่านจะเห็นว่า Button up ความเข้มแข็งของภาคเอกชนดีขึ้นมาก แต่ตัวความเข้มแข็ง Top down ยิ่งอ่อนแอลง อันนี้เป็นประเด็นหนึ่ง เราในฐานะมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติคงจะต้องให้ความเห็นว่า ผมยกตัวอย่าง Top down ปัจจุบันกฎหมาย 2550 ก็ใช้มา 4-5 ปีแล้วมีนายกเป็นประธานหรือผู้ได้รับมอบหมายและทุกครั้งก็จะมอบหมายทุกครั้ง และใน 1 ปีถ้าท่านลองไปประเมินการประชุมคณะกรรมการชุดนี้ ประชุมกี่ครั้ง ผมนับตัวเลขได้ปีที่แล้วประชุม 2 ครั้ง และผมก็มาประเมินว่าทำไมมันอ่อนแอ เพราะว่า 1 คณะกรรมการที่อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้มีรัฐมนตรีท่านเดียวคือ มท.1 เป็นรองประธานชุดนี้ รัฐมนตรีชุดอื่นไม่มีนะครับ มีแต่ระดับท่านอธิบดีเข้าไป เราก็มามองว่าทุกครั้งที่เกิดปัญหารัฐบาลไม่ใช้กฎหมายฉบับนี้เลย ความจริงเรามีกฎหมายแต่ไม่ใช้ รัฐบาลใช้ระเบียบสำนักนายกฯเข้ามาจัดการ รัฐบาลใช้มติครม.เข้ามาจัดการ ประเด็นหนึ่งก็คือว่า เวลาใช้ระเบียบสำนักนายกฯเป็นรูปธรรมชัดเจนรัฐมนตรีฯสาทิตย์ก็มานั่งเป็น ท่านประธานและก็เรียกประชุมคณะกรรมการ ท่านที่มาประชุมทั้งหลายก็ ซี5 ซี6 พอเกิดมาแล้ว แล้วท่านจะทำงานอย่างไร ท่านรัฐมนตรีฯสาทิตย์จะทำงานอย่างไรผมถามปัญหา การใช้ระเบียบสำนักนายกฯการออกมติคณะรัฐมนตรีบางที่ก็ไปขัดแย้งกับกฎหมาย เดิมอีก มันก็เลยมั่วไปหมดไม่มีใครฟังใคร เพราะฉะนั้นเองผมจึงคิดว่าเราต้องมีกฎหมายที่ดี เราอาจจะต้องมีการปรับปรุงเช่น ผมยกตัวอย่างเทียบกับกฎหมายญี่ปุ่นนะครับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ทุกคน ผู้ว่าแบงค์ชาติเป็นกรรมการ ผู้ว่า NNT คือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกระจายเสียง ผู้อำนวยการสาย NHK เป็นกรรมการ เพราะฉะนั้นเวลาเกิดอะไรขึ้นเขาสามารถที่จะบูรณาการทุกหน่วยได้ทันทีเลย ของเรานี้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรียังไม่ได้เป็นกรรมการชุดนี้ เขาก็ต้องได้รับบทบาทตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีและไม่ดูกฎหมายตัวนั้น หรอกว่าเป็นอย่างไร ทั้งที่กฎหมายตัวนั้นให้ความสำคัญกับรากหญ้ามาก ข้อเขียนนี้ดีมากให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการโดยชุมชนเป็นฐานะในการ บริหารจัดการเชิงรุกมีอะไรบ้าง และให้แต่ละหน่วยทำอย่างไรบ้าง แต่มันเป็นเพียงตัวหนังสือ เราปล่อยเป็นอย่างนี้ 4 ปี แล้ว ถ้าท่านจะปล่อยอย่างนี้ต่อไปมันก็คงจะเป็นอย่างนี้ประเด็นที่ผมอยากให้ความ สำคัญมันต้องชัดเจน
         สำหรับประเด็นเรื่องแผ่นดินไหวส่วนใหญ่ ผมจะสนใจกับการเกิดแผ่นดินไหวในทะเลหรือเกิดในน้ำ ผมคิดว่าเรามีความเข้มแข็งพอสมควรในการที่จะเตือนภัยสึนามิได้ในเวลาที่เขา หนีได้อย่างปลอดภัย แต่สิ่งที่เราขาดก็คือว่า ชุมชนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงถ้าเราสามารถสร้างความตระหนักอย่างที่คุณหมออำนาจ บอก ถ้าเรามีแผนที่การอพยพหนีภัยให้เขามีทุกชุมชน มีการฝึกซ้อม เราอย่าไปหวังกับระบบเตือนภัย ในเดือนกรกฎาคมเดือนเดียวเกิดสึนามิที่ ชาว ชวาตาย 30,000 คน หรือแม้แต่ญี่ปุ่นเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เสียชีวิตไปเท่าไหร่ ความตระหนักถ้าเราสามารถทำให้คนมีแผนอพยพหนีภัยมีการซึกซ้อมผมคิดว่าอันนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด “รศ.ดร.เสรี”  กล่าว