รองผู้ว่าฯชี้ละลายงบฯไม่จำเป็น ระบุเรื่องใหญ่คือคลื่นแรงแผ่นดินหาย เผยกทม.ตกผลึกแก้ปัญหาขาดแต่งบฯสนับสนุนจากรัฐบาล ถามจะทิ้งสินในน้ำแล้วมาขี่ช้างจับตั๊กแตนหรือ
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวถึงนโยบายถมทะเลเพื่อสร้างเมือง ใหม่ของพรรคเพื่อไทย โดยทำคันเขื่อนลึกลงไปในทะเล 10 กิโลเมตร ยาว 30 กิโลเมตร ตั้งแต่จ.สมุทรสาครจนถึงจ.สมุทรปราการ แล้วนำทรายไปถมทะเล โดยจะเริ่มถมแนวชายฝั่งเขตบางขุนเทียนเป็นที่แรกว่า ไม่เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าวอย่างยิ่ง จะนำต้นแบบจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มาใช้กับพื้นที่นี้ไม่ได้ หากมองในแง่การแก้ปัญหาน้ำท่วมนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณมาก มายขนาดนั้น ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมาน้ำทะเลขึ้นมาประมาณ 60 เซนติเมตรเท่านั้น แต่สาเหตุที่ทำให้พื้นดินหายไปคือคลื่นแรง เนื่องจากพื้นที่อ่าวไทยรูปตัวก. รวมถึงบางขุนเทียนมีลักษณะเป็นพื้นที่ปากอ่าว มีการสะสมของดินตะกอน ซึ่งไม่แข็งแรงอยู่แล้ว หากเจอคลื่นแรงก็ถูกกัดเซาะ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม.ได้แก้ไขปัญหาโดยใช้วิธีที่ตกผลึกมาจากการทดลองมาตั้งแต่ปี 32 แล้วคือ การปักแนวไม้ไผ่ และการทำที-กรอยน์ เพื่อให้เกิดการสะสมของดินตะกอน ทั้งนี้ กทม. ตั้งงบประมาณปักไม้ไผ่ปีละ 10 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ได้ประมาณ 3 – 4 ปี ส่วนการทำที-กรอยน์นั้นยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวด ล้อม (อีไอเอ) ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณ 25 ล้านบาท แต่ปีที่ผ่านมารัฐบาลให้งบประมาณมาแค่ 2 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ดังนั้น หากในปีนี้รัฐบาลยังไม่อนุมัติงบประมาณมาให้กทม.อีก กทม. ก็จะตั้งงบประมาณของกทม.เอง
“ที่บอกถมทะเลเพื่อนำไปสร้างเมืองใหม่ในราคา 20,000 บาท/ตารางเมตร แล้วนำไปขายในราคา 200,000 บาท/ตารางเมตรนั้น ถามว่าเราจะไม่เอาความหลากหลายทางชีวภาพ เราจะไม่เอาปู ไม่เอาหอยแล้วเหรอ ไม่เห็นต้องถมทะเลแบบเมืองนอกเลย ที่เขาถมเพราะเขาไม่มีพื้นที่ ผมคิดว่าการถมทะเลเหมือนกับการขี่ช้างจับตั๊กแตน ”
