นายกฯ อังกฤษ ประชุมฉุกเฉินรอบ 2 แก้ปัญหาจลาจล
วันพุธ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554
SMS ข่าว3 ฟรี 1 ด.
เกาะติดทุกสถานการณ์ข่าว ที่แม่นยำ
จากทีมข่าวมืออาชีพ ช่อง3 29บ
www.krobkruakao.com
SMS ข่าวเศรษฐกิจ สมัคร1ฟรี1
SMS ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้นจากทีม
ข่าว ช่อง3 ราคา29 บ/ด
www.krobkruakao.com
เกาะติดทุกสถานการณ์ข่าว ที่แม่นยำ
จากทีมข่าวมืออาชีพ ช่อง3 29บ
www.krobkruakao.com
SMS ข่าวเศรษฐกิจ สมัคร1ฟรี1
SMS ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวหุ้นจากทีม
ข่าว ช่อง3 ราคา29 บ/ด
www.krobkruakao.com
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จัดประชุมฉุกเฉินรอบสองในวันนี้ เพื่อหามาตรการควบคุมสถานการณ์ การก่อเหตุจลาจลของกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งลุกลามไปยังหลายเมืองแล้ว ล่าสุดมีเพียงกรุงลอนดอนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่สถานการณ์เริ่มเงียบสงบ หลังวางกำลังตำรวจกว่าหมื่นนายเต็มพื้นที่เพื่อดูแลความเรียบร้อย
สถานการณ์เฉพาะที่กรุงลอนดอนเริ่มคลี่คลายกว่าเมื่อ 3 วันที่แล้ว หลังทางการอังกฤษ ระดมกำลังตำรวจราว 16,000 นายลาดตระเวนดูแลความสงบตามท้องถนนทั่วกรุง อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายเมือง อย่าง ซัลฟอร์ด , ลิเวอร์พูล , นอร์ธติ้งแฮม ,กลอสเตอร์ , เวสต์ บรอมวิช และ วูล์ฟแฮมตัน ยังมีรายงานความรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เมืองแมนเชสเตอร์ กลุ่มวัยรุ่น ยกพวกทุบทำลายอาคารบ้านเรือน , ปล้นร้านค้า ก่อนที่จะจุดไฟเผาอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความวิตกถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้พักอาศัยในย่านดังกล่าว จนมีกลุ่มประชาชนบางส่วนลุกขึ้นมาปกป้องตนเอง ออกมายืนคุมกันหน้าร้านค้าและบ้านพัก ไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาก่อเหตุได้
จนถึงขณะนี้นับตั้งแต่เกิดเหตุจลาจลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 768 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้ มีเด็ก 11 ปี รวมอยู่ด้วย และมีการตั้งข้อหาผู้จับกุมแล้ว 100 คน ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ และ ฝ่าฝืนคำสั่งรัฐ
การก่อเหตุจลาจลทั่วกรุงลอนดอนครั้งนี้ ได้สร้างภาพเสื่อมเสียให้กับอังกฤษ ที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมโอลิมปิค ในปีหน้า เป็นอย่างมาก
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เตรียมจัดประชุมฉุกเฉินรอบที่สอง เพื่อหามาตราการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางความกดดันในการเลือกใช้วิธีการยุติเหตุรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสกำลังพิจารณาที่จะใช้กระสุนพลาสติก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคาเมรอนปฎิเสธข้อเรียกร้องของ ส.ส.หัวอนุรักษ์นิยม ที่ให้ใช้ไม้แข็ง เช่น การยิงแก๊สน้ำตา และ ฉีดน้ำเข้าใส่ฝูงชน ซึ่งเป็นวิธีที่ตำรวจอังกฤษมักจะหลีกเลี่ยง
สถานการณ์เฉพาะที่กรุงลอนดอนเริ่มคลี่คลายกว่าเมื่อ 3 วันที่แล้ว หลังทางการอังกฤษ ระดมกำลังตำรวจราว 16,000 นายลาดตระเวนดูแลความสงบตามท้องถนนทั่วกรุง อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายเมือง อย่าง ซัลฟอร์ด , ลิเวอร์พูล , นอร์ธติ้งแฮม ,กลอสเตอร์ , เวสต์ บรอมวิช และ วูล์ฟแฮมตัน ยังมีรายงานความรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เมืองแมนเชสเตอร์ กลุ่มวัยรุ่น ยกพวกทุบทำลายอาคารบ้านเรือน , ปล้นร้านค้า ก่อนที่จะจุดไฟเผาอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความวิตกถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้พักอาศัยในย่านดังกล่าว จนมีกลุ่มประชาชนบางส่วนลุกขึ้นมาปกป้องตนเอง ออกมายืนคุมกันหน้าร้านค้าและบ้านพัก ไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาก่อเหตุได้
จนถึงขณะนี้นับตั้งแต่เกิดเหตุจลาจลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 768 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้ มีเด็ก 11 ปี รวมอยู่ด้วย และมีการตั้งข้อหาผู้จับกุมแล้ว 100 คน ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ และ ฝ่าฝืนคำสั่งรัฐ
การก่อเหตุจลาจลทั่วกรุงลอนดอนครั้งนี้ ได้สร้างภาพเสื่อมเสียให้กับอังกฤษ ที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมโอลิมปิค ในปีหน้า เป็นอย่างมาก
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เตรียมจัดประชุมฉุกเฉินรอบที่สอง เพื่อหามาตราการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางความกดดันในการเลือกใช้วิธีการยุติเหตุรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสกำลังพิจารณาที่จะใช้กระสุนพลาสติก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคาเมรอนปฎิเสธข้อเรียกร้องของ ส.ส.หัวอนุรักษ์นิยม ที่ให้ใช้ไม้แข็ง เช่น การยิงแก๊สน้ำตา และ ฉีดน้ำเข้าใส่ฝูงชน ซึ่งเป็นวิธีที่ตำรวจอังกฤษมักจะหลีกเลี่ยง