แรงกระเพื่อมของแผ่นดินใน กทม.
ประสบเหตุด้วยตนเองที่ บริเวณถนนนวมินทร์ กม.ที่ 4 เวลาประมาณ 03.00 น.รู้สึกแรงกระเพื่อมขึ้นลงในแนวดิ่งในอัตรานาทีละ 60 ครั้ง กระเพื่อมอยู่เป็นเวลาประมาณ 2 นาที วันที่ 15 มกราคม 2555
ส่วนเวลาบ่าย 3 โมงเย็นสัมผัสได้อีก กระเพื่อมอยู่ประมาณ 1 นาทีในแนวดิ่งเช่นเดียวกัน เมื่อแรงกระเพื่อมหยุดลง มีรถเก๋งวิ่งเข้ามาในซอย 1 คันก็ไม่เกิดแรงกระเพื่อมขึ้นแต่อย่างใด แสดงว่าแรงกระเพื่อมที่รู้สึกได้ชัดเจนนั้นเกิดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน
หากเกิดอาการเช่นนี้ถี่ๆมากขึ้น และแรงมากขึ้น บ่งบอกให้ทราบว่า พื้นที่เสี่ยงของ กทม. กำลังถูกแนวภูเขาทางด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของแอ่งที่ราบบีบกดเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากปลายแผ่น Sunda Plate ที่อินโดนีเซียตั้งอยู่เกิดแผ่นดินไหวรอบๆขอบของแผ่นไม่หยุด ทำให้ส่วนปลายของ Sunda Plate ทรุดตัวเอียงมากยิ่งขึ้นทุกวัน และในเวลาใกล้เคียงกันอาการโก่งตัวของแผ่นดิน ในพม่าและจีนที่บริเวณเส้นละติจูด 17 -27 องศา จะแตกร้าวเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน ตามรายงานของแผ่นดินไหว ที่เข้ามาเป็นระลอก
ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ กทม. ทำตัวนิ่งๆ และทำใจให้อยู่ใน Neutral Zone ไปด้วยจะรับสัมผัสได้ง่ายและทราบอาการชัดเจน ว่าเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นลงในแนวดิ่งเตียงที่นอนอยู่จะขยับขึ้นลงไปด้วย
ผืนแผ่นดินในพื้นที่เสี่ยง กทม. ไม่มีชั้นหินรองรับ จึงไม่เกิดเปลือกโลกแตกเหมือนกับในพม่า เมื่อปี 1972 ได้เจาะสำรวจด้านธรณีวิทยาที่บริเวณใกล้ อำเภอพระโขนงลึก 1,000 เมตร พบแต่ชั้นดินแข็งปนทรายบ้าง และชั้น Agrifer หรือชั้นเก็บน้ำใต้ดิน ไม่มีชั้นหินแต่อย่างใด ส่วนชั้นหน้าดินใน กทม.ลึกประมาณ 6-7 เมตรจะเป็นดินเหนียค่อนข้างแข็งหน่อย ที่เราใช้เสาเข็มสั้นยาวประมาณ 6-7 เมตรตอกลงไปเพื่อใช้รองรับฐานรากอาคารขนาดเล็ก
ส่วนชั้นดินลึกลงไปกว่า 7 เมตรถึง 13-14 เมตรจะเป็นชั้นดินเลนเรียกว่า Bangkok Clay รับน้ำหนักได้น้อย ถนนที่สร้างเสร็จแล้วมีรถใหญ่วิ่งทุกวันจะส่งแรงสั่นสะเทือนลงไปข้างใต้ ทำให้ชั้นดินเลนเสียโครงสร้างที่เกาะกันอยู่โหย่งๆ กลายเป็นพลาสติคเหลว เมื่อถูกแรงกดจากข้างบนก็จะเคลื่อนตัวออกทางด้านข้าง ผิวจราจรก็จะค่อยๆทรุดตัวลง มีถนนศรีนครินทร์เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน พื้นสะพานที่เคยมีระดับเท่ากับระดับถนน จะดูแขวนลอยสูงขึ้นร่วม 2 เมตร
เพื่อนชาวออสซี่นั่งไปในรถ ก็เล่าให้เขาฟังว่าเมื่อสร้างถนนแรกๆระดับเท่ากัน เขาไม่เข้าใจดิน กทม. เขากลับบอกผมว่าพูดตลก หรือหลอกเขา เนื่องจากเขาไม่ใช่วิศวกรที่เกี่ยวกับดิน จึงไม่เข้าใจสภาพของ Bangkok Clay
ดังนั้นหลายๆคนคงจำน้องปลาบู่แนะนำว่าไม่ควรขุดลอกบริเวณก้นของแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกต่างๆริมแม่น้ำจะเอียงและโค่นลงไปขวางทางน้ำ นั่นน้องปลาบู่พูดตามภาพใต้ดิน ว่าจะเกิดเช่นนั้น ซึ่งตรงกับความเป็นจริงด้านปฐพีวิทยาเลยทีเดียว ไม่ใช้น้องปลาบู่พูดในเรื่องไร้สาระแต่อย่างใด
เมษาหรือ พ.ค.สิ่งที่น้องปลาบู่เตือนพี่น้องคนไทยเอาไว้ ลองเล็งๆหาทางไปสะดวกเอาไว้ก่อนก็ดี สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ได้ทราบจากลูกศิษย์หมอแกนๆไม่ยอมอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอีกต่อไป ติดต่อได้ทางโทรศัพท์เท่านั้น ไปอยู่ในพื้นที่สูง 500-600 เมตรจากน้ำทะเลแต่หัววันเลยหมอแกน
แฟนๆของไซท์นี้คงจะพอจำได้ว่า ปัจจุบันโลกกำลังอยู่ในภาวะ Wobble ก็จะไหวๆหยุดๆไปเรื่อยๆ ต่อไปจะเข้าไปสู่ Severe Wobble จะมีแผ่นดินไหวทั่วโลกที่คุณ Zeta บอกเอาไว้ล่วงหน้า 8-10 ริกเตอร์ไปทั่วทุกแผ่นเป็นเวลาติดต่อกัน 9 วัน....ฟังรายงานข่าวล่วงหน้าแล้ว ลองค่อยๆจับตาและฟังข่าวแผ่นดินไหวต่อไป จะเข้มข้นเพิ่มขึ้นไปโดยลำดับ
ความเสียหายของสิ่งก่อสร้างต่างๆที่มนุษย์ทำเอาไว้ อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีแผ่นดินไหวรุนแรง และต่อเนื่องกันตลอดเป็นเวลาหลายวัน ชาวไทยก็จะได้พบกับสิ่งที่น้องปลาบู่เตือนภัยล่วงหน้าเอาไว้ และละลอกต่อมาน้ำจากในอ่างเก็บน้ำผลิตไฟฟ้าในลาวหลายเขื่อน สมทบกับน้ำจากเขื่อนต่างๆในสาขาแม่โขงในเขตประเทศจีน จำนวนมหาศาล จะไหลเข้ามาในเขตเชียงราย เชียงแสน แพร่ ลงมาสุโขทัย และกำแพงเพชร มาออกนครสวรรค์ ไหลไปลงทะเล
แต่ก่อนที่ทั้ง 2 เหตุการณ์ข้างต้นจะเกิดขึ้น พื้นที่ของแผ่น Sunda Plate อาจต้องทรุดตัวลงไปก่อนไล่หลังอินโดนีเซียจมลงเต็มพิกัดทันที 80 ฟุต เมื่อแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ปลดเบรค
ส่วนความคืบหน้ารายงานผลการทรุดตัวของเกาะต่างๆในอินโดนีเซีย จากภาพดาวเทียม Modis ติดตามรายละเอียดได้ที่ลิงค์ที่ติดมาให้เข้าไปศึกษาได้
ทุกๆเรื่องที่มาเล่าสู่กัน เป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่าน เป็นข้อสอบของโรงเรียนโลกสำหรับทุกๆคน นักเรียนมีหน้าที่สอบให้ผ่าน หูไวตาไว ติดตามเหตุการณ์ต่างๆใกล้ชิด ไม่ต้องหวั่นวิตกใดๆ และรีบหาทางลัดสำหรับตัวเราเอาไว้ใช้ตลอดเวลา