นักวิทยาศาสตร์หลายคน ที่กำลังศึกษาปรากฏการณ์แห่งวิวัฒนาการในครั้งนี้ จากปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอยู่
มีความเชื่อว่า มันมีเหตุการณ์บนท้องฟ้า 4 ชนิด และแรงแห่งเอกภพบางอย่าง
ที่อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนระดับในครั้งนี้ขึ้นมาได้จริงๆ คือ
- วัฏจักรกาแล็กซี่
- วัฏจักรสุริยะ
- เหตุการณ์ที่เกิดกับดวงอาทิตย์
- ซูเปอร์โนวา
มันมีหลักฐานมากมายมหาศาลในทั้ง 4 ประเด็นนี้ ที่ชี้บ่งว่าพวกเรากำลังลึกเข้าไปสู่การเปลี่ยนระดับครั้งยิ่งใหญ่แห่งยุค
เพราะฉะนั้น เรามาดูกันที่ประเด็นแรกกันก่อน คือ วัฏจักรกาแล็กซี่
วัฏจักรกาแล็กซี่ (Galactic Cycle)
เกิดจากการหมุนของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเรา ผ่านโซนที่มีระดับพลังงานสม่ำเสมอของอวกาศ
ซึ่งไม่สามารถ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันต้องใช้เวลาประมาณ 26 ล้านปี จึงจะผ่านแต่ละโซนนี้ไปได้
และเราก็พบว่า ตอนนี้พวกเรากำลังเคลื่อนที่เข้าไปในโซนๆหนึ่งที่มีประจุสูงขึ้น (photon zone - chayutt)
และการเคลื่อนที่ผ่านโซนพลังงานที่ถูกเพิ่มความเร็วขึ้นนี้ กำลังทำให้ DNA, จิตสำนึกของพวกเราเปลี่ยนแปลง
ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของพวกเราขึ้นได้(เดี๋ยว ผมจะมีรายละเอียดพวกนี้โพสต์ตามมาให้นะครับ - chayutt)
(obr050)มีความเชื่อว่า มันมีเหตุการณ์บนท้องฟ้า 4 ชนิด และแรงแห่งเอกภพบางอย่าง
ที่อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนระดับในครั้งนี้ขึ้นมาได้จริงๆ คือ
- วัฏจักรกาแล็กซี่
- วัฏจักรสุริยะ
- เหตุการณ์ที่เกิดกับดวงอาทิตย์
- ซูเปอร์โนวา
มันมีหลักฐานมากมายมหาศาลในทั้ง 4 ประเด็นนี้ ที่ชี้บ่งว่าพวกเรากำลังลึกเข้าไปสู่การเปลี่ยนระดับครั้งยิ่งใหญ่แห่งยุค
เพราะฉะนั้น เรามาดูกันที่ประเด็นแรกกันก่อน คือ วัฏจักรกาแล็กซี่
วัฏจักรกาแล็กซี่ (Galactic Cycle)
เกิดจากการหมุนของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเรา ผ่านโซนที่มีระดับพลังงานสม่ำเสมอของอวกาศ
ซึ่งไม่สามารถ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันต้องใช้เวลาประมาณ 26 ล้านปี จึงจะผ่านแต่ละโซนนี้ไปได้
และเราก็พบว่า ตอนนี้พวกเรากำลังเคลื่อนที่เข้าไปในโซนๆหนึ่งที่มีประจุสูงขึ้น (photon zone - chayutt)
และการเคลื่อนที่ผ่านโซนพลังงานที่ถูกเพิ่มความเร็วขึ้นนี้ กำลังทำให้ DNA, จิตสำนึกของพวกเราเปลี่ยนแปลง
ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของพวกเราขึ้นได้(เดี๋ยว ผมจะมีรายละเอียดพวกนี้โพสต์ตามมาให้นะครับ - chayutt)
คำบรรยายภาพ:
ภาพของกาแล็กซี่แบบเกลี่ยวกาแล็กซี่หนึ่งซึ่ง มีลักษณะเป็นแผ่นบาง
เป็นมุมมอง ด้านแกนของมันกาแล็กซี่นี้ และมีลักษณะคล้ายคลึงกับ
กาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเราเป็นอย่างมาก
(มิตรต่างพิภพของเรายืนยันมาอย่างนั้น)
หมายเลข 1 แสดงถึงตำแหน่งของระบบสุริยะจักรวาลของเรา
หมายเลข 2 แสดงถึงไหล่ด้านดาว Perdseus ของกาแล็กซี่
หมายเลข 3 แสดงถึงดวงดาวศูนย์กลางของกาแล็กซี่
หมายเลข 4 แสดงถึงไหล่ด้านดาว Swan
หมายเลข 5 แสดงถึงไหล่ด้านดาว Centaurus
.................................................................................
กาแล็กซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) ของพวกเรา กว้างประมาณ 100,000 ปีแสง
เป็นกาแล็กซี่ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากกาแล็กซี่แอนโดรมิด้า (Andromeda Galaxy)
ระบบสุริยจักรวาลของเรา อยู่บริเวณขอบของเกลียวโอไรออน (Orion spiral arm)
กล้องโทรทัศน์ฮับเบอร์ ที่ถูกปล่อยขึ้นไปโดย NASA ในปี 1995 ได้เปิดเผยให้พวกเราได้รู้จักกับดวงดาวมากมาย
รวมถึงเหตุการณ์ต่างบนท้องฟ้า และกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความลับของโลกมาก่อน
ภาพต่างๆ เหล่านี้ ยิ่งกว่าประหลาดใจ เพราะว่าพวกมันคล้ายกับจะเป็นประตูบานหนึ่ง
ไปสู่โลกแห่งการสรรสร้างและวิวัฒนาการ นี่คือบางส่วนของภาพดังกล่าวนี้
ภาพนี้ ชื่อว่า Hour Glass Nebula มีความน่าสนใจหลายอย่าง
ครอปไซเคิล (Crop circle) ข้างล่างนี้ ปรากฏที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2005
บางคนตั้งชื่อให้มันว่า “ดวงตาแห่งพระเจ้าที่มองเห็นทุกอย่าง” หรือ “All-seeing Eye of God”
บางคนตั้งชื่อให้มันว่า “ดวงตาแห่งพระเจ้าที่มองเห็นทุกอย่าง” หรือ “All-seeing Eye of God”
ผู้เชี่ยว ชาญด้านดวงตา เมื่อได้ดูภาพนี้แล้ว บอกว่าโครงสร้างมันเหมือนกับดวงตาของมนุษย์