ที่มา:
กระทู้นี้เป็นการถอดความจากวีดีโอข้างบนนี้นะครับ
แต่ว่าผมก็ฟังไม่ออกทั้ง 100% หรอกนะครับ
แต่ก็น่าจะราวๆ 95% อยู่มั๊ง..พอให้จับใจความได้บ้าง
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลทุกๆอย่างเสมอนะครับ
............................................................
...ฉันชื่อ เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่น
ในปี 1976 ฉันเคยมีประสบการณ์ทางจิตที่น่าประหลาดใจมากอันหนึ่ง และนับตั้งแต่นั้นมา
ตาที่สามของฉันก็เปิดออก ดังนั้น ฉันจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับ UFO, ผู้คน
และรวมถึงผู้ที่อยู่ใต้พื้นโลกได้ ซึ่งพวกเขาเป็นอารยธรรม ที่มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงมากๆ
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าห้องสมุด ของโลกใต้พิภพคนนั้น ฉันก็ได้ติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย
และจากข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งหมดเหล่านี้ที่ฉันมี ทำให้ฉันเชื่อว่า ในปี 2012
วันที่ 22 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป มันจะมี 3 วันที่โลกใบนี้ จะเข้าไปสู่มิติที่ 5
เมื่อโลกผ่านเข้าไปสู่สถานที่แห่งนั้นแล้ว มันจะมี 3 วัน 3 คืนที่เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้
มันจะเป็นคืนวันที่มืดมิดสนิทจริงๆ จะไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีดวงดาว ไม่มีแสงสว่างใดๆทั้งสิ้น
พวกเราจะอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน
แต่ยังไม่มีสื่อสารมวลชนใด หรือข้อมูลข่าวสารใด ออกมาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้เลย
แต่รัฐบาลลับทั้งหลายรู้เรื่องนี้กันดี และพวกเขาก็เตรียมความปลอดภัยไว้ให้ตัวเองแล้ว
พวกเขาพยายามที่จะหนีออกไปจากโลกใบนี้ หรือไม่ก็กำลังขุดอุโมงค์สร้างเมืองใต้ดินกันอยู่
อยู่ใต้ประเทศ? นอร์เวย์ ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรเลีย
ซึ่งในนั้นจะจุคนได้ประมาณ 1 หมื่นคน และปลอดภัยอยู่ในนั้น
แต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรอกนะ เพราะว่าพวกเราจำเป็นจะต้อง
ชำระสะสางสภาวะจิตของตัวเราเองให้บริสุทธิ์
ทั้งทางด้านกายภาพ-และทางด้านจิตวิญญาณ
ฉันจะบอกพวกคุณว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพสูงสุด และพระผู้สร้าง คือพลังงาน และความรัก และแสงสว่าง
ซึ่งส่วนหนึ่งของพลังงานความรักที่ว่านี้ ก็มีอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกๆคน
เราสามารถโกหกคนอื่นๆได้ แต่เราไม่สามารถที่จะโกหกตัวเราเองได้
นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าจิตสำนึกหละ
มนุษย์โลกแต่ละคน มีส่วนที่สวยงามนั้นของพระผู้สร้าง อยู่ในวิญญาณของเราทุกๆคน
ซึ่งวิญญาณนี้เองที่เป็นผู้ที่จะไปเวียนว่ายตายเกิด และเป็นส่วนที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ และอยู่ในตัวพวกเราทุกๆคน
ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าจะชำระสะสางวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์หละก็
เราต้องมองดูชีวิตของตัวเราเองด้วยจิตสำนึกอันนั้น เพื่อดูว่า ทุกๆ 5 ปีหรือราวๆนั้น
นับตั้งแต่ตอนที่เราเกิด เราประพฤติตัวอย่างไร เราค้นหาอย่างไร เราพูดอย่างไร
ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถที่จะชำระสะสางได้ ด้วยการมองดูชีวิตของตัวเราเองทุกๆ 5 ปี จนถึงบัดนี้
ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ทุกๆครั้งที่เราพบว่า เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นการทำร้ายคนอื่นหละก็
แล้วเราก็จะสามารถชำระสะสางมัน และทำให้มันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราค้นพบมัน
หัวใจของเราจะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วเราจะสามารถหายใจได้ลึกมากขึ้น
และทุกๆครั้งที่เรามีประสบการณ์นี้ความมืดมิดอันนี้ทั้งหมด ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาจากหัวใจของเรา
แล้วแสงสว่างสีทอง ก็จะเข้ามาสู่หัวใจของเราแทน ด้วยวิธีการนี้
เราจะสามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้พวกเรายังพอมีเวลาอยู่ จนกว่าจะถึงปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012
ในทางกายภาพแล้ว พวกเรายังสามารถชำระสะสางร่างกายเนื้อของเราได้ด้วย
โดยวิธีการแรกที่สุด พวกเราไม่ควรจะดื่ม "น้ำผลไม้กระป๋อง" หรือ "เบียร์กระป๋อง"
เพราะว่าอลูมิเนียม เป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อร่างกายของเรามากๆ และโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
เราจึงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้
ดังนั้น พวกเราแต่ละคนจึงสามารถที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วยวิธีการทำนองนี้
และการออกกำลังกายบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย และทุกๆวันเราก็สามารถที่จะ
สะท้อน (ไม่ชัวร์นะครับ ฟังไม่ค่อยออก - ผู้แปล) จิตวิญญาณของเราได้ด้วยอย่างที่มันเป็น
ในแก่นแท้ของพวกเราทุกๆคน พวกเราก็คือแสงสว่าง และ ความรัก
เพราะว่าพวกเราทุกคน มีส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างอยู่ในหัวใจของพวกเรา
ซึ่งก็คือสิ่งที่ลงมาเวียนว่ายตายเกิดนี้ โดยการมามีชีวิตภพชาติแล้ว ภพชาติเล่า
อยู่ในร่างกายเนื้อของเรา ที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณของเรา
จะเทียวเข้าเทียวออก ร่างกายโน้น ไปร่างกายนี้อยู่ตลอดเวลา
บนโลกใบนี้ ฉันระลึกชาติได้ว่า ฉันเคยเกิดมาหลายพันชาติแล้ว
นอกจากนี้ฉันยังเคยไปเกิดในส่วนต่างๆของโลกมาแล้วมากมายหลายแห่งอีกด้วย
การระลึกชาติของฉัน ทำให้ความทรงจำฉันกลับคืนมา และทำให้ฉัน
สามารถพูดภาษาที่ฉันยังไม่เคยเรียนมาเลยได้ด้วย
ดังนั้น ในทางกายภาพแล้ว ฉันมีประสบการณ์กับทฤษฎีการเวียนว่ายตายเกิดนั่นก็ถูกต้อง
แต่อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่ฟังการบรรยายครั้งนี้อยู่ ฉันคิดว่าผู้คนเหล่านี้น่าจะปลอดภัย
พวกเรามีการแบ่งแยกกันเหลือเกิน ตั้งแต่ปี 1913 เพราะว่าคนที่เชื่อในเรื่องแบบนี้
กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็จะแบ่งแยกห่างออกจากกันลึกลงไปเรื่อยๆ
ดังนั้น ผู้คนในส่วนที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ก็จะไม่เชื่อในเรื่องนี้
เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่มืดบอดด้านจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง
พวกเขาจะได้ไปเกิดในดาวดวงอื่น ที่เหมือนกับโลกใบนี้ ซึ่งที่นั่นก็จะมีความรุนแรง
และมีสงครามเหมือนกัน แต่จะเป็นดาวดวงอื่น
เอาหละคะ ตอนนี้พวกเราก็ได้เสร็จสิ้นการประชุมดีๆแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณมากคะ
.........................................
ถัาใครมีความสามารถในภาษาอังกฤษเหมือนภาษาของตน กรุณาถอดความอีกทีนะครับ แล้วอย่าลืมเอามาแชร์กันนะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kingkong1 : วันนี้ เมื่อ 07:03 PM เหตุผล: เพิ่มเติมข้อความ
กระทู้นี้เป็นการถอดความจากวีดีโอข้างบนนี้นะครับ
แต่ว่าผมก็ฟังไม่ออกทั้ง 100% หรอกนะครับ
แต่ก็น่าจะราวๆ 95% อยู่มั๊ง..พอให้จับใจความได้บ้าง
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลทุกๆอย่างเสมอนะครับ
............................................................
...ฉันชื่อ เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่น
ในปี 1976 ฉันเคยมีประสบการณ์ทางจิตที่น่าประหลาดใจมากอันหนึ่ง และนับตั้งแต่นั้นมา
ตาที่สามของฉันก็เปิดออก ดังนั้น ฉันจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับ UFO, ผู้คน
และรวมถึงผู้ที่อยู่ใต้พื้นโลกได้ ซึ่งพวกเขาเป็นอารยธรรม ที่มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงมากๆ
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าห้องสมุด ของโลกใต้พิภพคนนั้น ฉันก็ได้ติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย
และจากข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งหมดเหล่านี้ที่ฉันมี ทำให้ฉันเชื่อว่า ในปี 2012
วันที่ 22 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป มันจะมี 3 วันที่โลกใบนี้ จะเข้าไปสู่มิติที่ 5
เมื่อโลกผ่านเข้าไปสู่สถานที่แห่งนั้นแล้ว มันจะมี 3 วัน 3 คืนที่เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้
มันจะเป็นคืนวันที่มืดมิดสนิทจริงๆ จะไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีดวงดาว ไม่มีแสงสว่างใดๆทั้งสิ้น
พวกเราจะอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน
แต่ยังไม่มีสื่อสารมวลชนใด หรือข้อมูลข่าวสารใด ออกมาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้เลย
แต่รัฐบาลลับทั้งหลายรู้เรื่องนี้กันดี และพวกเขาก็เตรียมความปลอดภัยไว้ให้ตัวเองแล้ว
พวกเขาพยายามที่จะหนีออกไปจากโลกใบนี้ หรือไม่ก็กำลังขุดอุโมงค์สร้างเมืองใต้ดินกันอยู่
อยู่ใต้ประเทศ? นอร์เวย์ ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรเลีย
ซึ่งในนั้นจะจุคนได้ประมาณ 1 หมื่นคน และปลอดภัยอยู่ในนั้น
แต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรอกนะ เพราะว่าพวกเราจำเป็นจะต้อง
ชำระสะสางสภาวะจิตของตัวเราเองให้บริสุทธิ์
ทั้งทางด้านกายภาพ-และทางด้านจิตวิญญาณ
ฉันจะบอกพวกคุณว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพสูงสุด และพระผู้สร้าง คือพลังงาน และความรัก และแสงสว่าง
ซึ่งส่วนหนึ่งของพลังงานความรักที่ว่านี้ ก็มีอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกๆคน
เราสามารถโกหกคนอื่นๆได้ แต่เราไม่สามารถที่จะโกหกตัวเราเองได้
นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าจิตสำนึกหละ
มนุษย์โลกแต่ละคน มีส่วนที่สวยงามนั้นของพระผู้สร้าง อยู่ในวิญญาณของเราทุกๆคน
ซึ่งวิญญาณนี้เองที่เป็นผู้ที่จะไปเวียนว่ายตายเกิด และเป็นส่วนที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ และอยู่ในตัวพวกเราทุกๆคน
ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าจะชำระสะสางวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์หละก็
เราต้องมองดูชีวิตของตัวเราเองด้วยจิตสำนึกอันนั้น เพื่อดูว่า ทุกๆ 5 ปีหรือราวๆนั้น
นับตั้งแต่ตอนที่เราเกิด เราประพฤติตัวอย่างไร เราค้นหาอย่างไร เราพูดอย่างไร
ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถที่จะชำระสะสางได้ ด้วยการมองดูชีวิตของตัวเราเองทุกๆ 5 ปี จนถึงบัดนี้
ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ทุกๆครั้งที่เราพบว่า เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นการทำร้ายคนอื่นหละก็
แล้วเราก็จะสามารถชำระสะสางมัน และทำให้มันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราค้นพบมัน
หัวใจของเราจะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วเราจะสามารถหายใจได้ลึกมากขึ้น
และทุกๆครั้งที่เรามีประสบการณ์นี้ความมืดมิดอันนี้ทั้งหมด ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาจากหัวใจของเรา
แล้วแสงสว่างสีทอง ก็จะเข้ามาสู่หัวใจของเราแทน ด้วยวิธีการนี้
เราจะสามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้พวกเรายังพอมีเวลาอยู่ จนกว่าจะถึงปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012
ในทางกายภาพแล้ว พวกเรายังสามารถชำระสะสางร่างกายเนื้อของเราได้ด้วย
โดยวิธีการแรกที่สุด พวกเราไม่ควรจะดื่ม "น้ำผลไม้กระป๋อง" หรือ "เบียร์กระป๋อง"
เพราะว่าอลูมิเนียม เป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อร่างกายของเรามากๆ และโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
เราจึงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้
ดังนั้น พวกเราแต่ละคนจึงสามารถที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วยวิธีการทำนองนี้
และการออกกำลังกายบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย และทุกๆวันเราก็สามารถที่จะ
สะท้อน (ไม่ชัวร์นะครับ ฟังไม่ค่อยออก - ผู้แปล) จิตวิญญาณของเราได้ด้วยอย่างที่มันเป็น
ในแก่นแท้ของพวกเราทุกๆคน พวกเราก็คือแสงสว่าง และ ความรัก
เพราะว่าพวกเราทุกคน มีส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างอยู่ในหัวใจของพวกเรา
ซึ่งก็คือสิ่งที่ลงมาเวียนว่ายตายเกิดนี้ โดยการมามีชีวิตภพชาติแล้ว ภพชาติเล่า
อยู่ในร่างกายเนื้อของเรา ที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณของเรา
จะเทียวเข้าเทียวออก ร่างกายโน้น ไปร่างกายนี้อยู่ตลอดเวลา
บนโลกใบนี้ ฉันระลึกชาติได้ว่า ฉันเคยเกิดมาหลายพันชาติแล้ว
นอกจากนี้ฉันยังเคยไปเกิดในส่วนต่างๆของโลกมาแล้วมากมายหลายแห่งอีกด้วย
การระลึกชาติของฉัน ทำให้ความทรงจำฉันกลับคืนมา และทำให้ฉัน
สามารถพูดภาษาที่ฉันยังไม่เคยเรียนมาเลยได้ด้วย
ดังนั้น ในทางกายภาพแล้ว ฉันมีประสบการณ์กับทฤษฎีการเวียนว่ายตายเกิดนั่นก็ถูกต้อง
แต่อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่ฟังการบรรยายครั้งนี้อยู่ ฉันคิดว่าผู้คนเหล่านี้น่าจะปลอดภัย
พวกเรามีการแบ่งแยกกันเหลือเกิน ตั้งแต่ปี 1913 เพราะว่าคนที่เชื่อในเรื่องแบบนี้
กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็จะแบ่งแยกห่างออกจากกันลึกลงไปเรื่อยๆ
ดังนั้น ผู้คนในส่วนที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ก็จะไม่เชื่อในเรื่องนี้
เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่มืดบอดด้านจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง
พวกเขาจะได้ไปเกิดในดาวดวงอื่น ที่เหมือนกับโลกใบนี้ ซึ่งที่นั่นก็จะมีความรุนแรง
และมีสงครามเหมือนกัน แต่จะเป็นดาวดวงอื่น
เอาหละคะ ตอนนี้พวกเราก็ได้เสร็จสิ้นการประชุมดีๆแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณมากคะ
.........................................
ถัาใครมีความสามารถในภาษาอังกฤษเหมือนภาษาของตน กรุณาถอดความอีกทีนะครับ แล้วอย่าลืมเอามาแชร์กันนะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kingkong1 : วันนี้ เมื่อ 07:03 PM เหตุผล: เพิ่มเติมข้อความ