วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer) ตอน 2



ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 2
ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย (Potentials)



ฉันกำลังจะพูดถึงข้ออุปมาข้อหนึ่งที่พวกเราเคยพูดถึงกันไปแล้วอยู่บ่อยๆ
แต่ครั้งนี้ที่เราจะพูดถึงมันอีกครั้งหนึ่ง ก็เพราะว่ามันมีความหมายพิเศษบางอย่างอยู่

สำหรับข้อความสื่อสารชุดนี้ ฉันมีชื่อตอนให้มันแล้ว แม้ว่าโดยปกติแล้ว
พวกเราจะไม่ตั้งชื่อตอนให้กับข้อความสื่อสารชุดใดเอาไว้ก่อน เพราะฉันจะปล่อยให้ผู้ร่วมงานของฉัน
(นาย Lee) ไปตั้งชื่อเอาเองภายหลัง แต่ครั้งนี้ฉันจะตั้งชื่อให้มันเองว่า
“คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ” (The Attributes of the Match Bearer)

ซึ่งในที่นี้ก็คือบรรดาผู้ที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉัน ณ.ที่นี้ และผู้ที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ในตอนนี้นั่นเอง
มันมีอยู่สองเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการมาที่โลกใบนี้ของพวกคุณ มันมีคำถามอยู่สองชุด
ที่พวกคุณกำลังแบกเอาไว้อยู่ ในขณะที่กำลังนั้งอยู่ที่นี่

คำถามชุดแรกก็คือคำถามเกี่ยวกับตัวคุณเอง อย่างที่มันควรจะเป็น พวกคุณมีคำถามว่า

“ฉันจะไปจากจุด A ไปถึงจุด B ได้อย่างไร
และฉันจะสามารถเก่งขึ้นในเรื่องที่ฉันมาที่นี่เพื่อมาทำมันได้อย่างไร?
และฉันจะมีชีวิตที่ยืนยาวได้อย่างไร?”


พวกคุณอาจจะถามว่า..

“ฉันจะสามารถกำจัดบทละครในชีวิตของฉันให้หมดไปได้อย่างไร?”
ฉันจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างไร?”


ส่วนคำถามชุดที่สองก็คือ..

“ฉันกำลังทำอะไรเพื่อโลกใบนี้อยู่หรือเปล่า?”

ซึ่งคำถามเหล่านี้ไม่ใช่อะไรที่จะมาเป็นคู่กันจริงๆ เพราะว่าคำถามชุดที่สอง
ต้องการพลังงานของฝูงชนที่เป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ ผู้ที่ต้องการจะรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตที่ยืนยาว
เพื่อทำภาระกิจของพวกเขาเองบนโลกใบนี้ได้

ถ้าคุณได้มีโอกาสสัมภาษณ์ใครสักคนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนี้
พวกเขาก็อาจจะมีคำตอบที่แตกต่างกันไป ว่างานที่พวกเขากำลังทำอยู่คืออะไร
แต่ว่าพวกเขาก็คงจะไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขาไม่ได้ถามคำถามชุดที่สองก่อนแล้ว
ดังนั้น พวกเรากำลังจะอธิบายแบบค่อนข้างกว้างๆทั่วๆไป แต่ก็จะค่อนข้างจำเพาะเจาะจงด้วย
จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย พวกเรากำลังจะบอกเหตุผลที่พวกคุณมาอยู่ที่นี่ให้พวกคุณฟัง
ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกคุณไม่ค่อยได้คิดถึงสักเท่าไหร่นัก ว่าตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้

เหตุผลที่พวกคุณมาที่นี่ก็เพื่อที่จะมา
“จุดประกายแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด”

พวกคุณไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อมาพยายามชักชวนให้คนอื่นๆเปลี่ยนมานับถือศาสนาที่พวกคุณนับถืออยู่
หรือเพื่อมาเปลี่ยนแปลงความเชื่อของมนุษย์โลกคนอื่นๆให้หันมาเชื่อตามความเชื่อของพวกคุณเอง

เพราะว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความเชื่อ
แต่ปัญหามันอยู่ที่ระดับความสั่นสะเทือนของโลกทั้งโลก
และมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ก็ด้วยจิตสำนักที่บริสุทธิ์เท่านั้น


มันไม่ได้เป็นแบบที่พวกคุณเชื่อ มันขึ้นอยู่กับการ “เป็น” ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับการ “กระทำ”
มันคือการเป็นแสงสว่าง เพราะว่าเมื่อพวกคุณเดินไปไหนต่อไหนพร้อมด้วยแสงสว่างที่พวกคุณมีแล้ว
พวกคุณก็จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นความมืดไปด้วย
พวกคุณอาจจะพูดว่า พวกคุณได้นำพาพลังงานใหม่มาแทนที่พลังงานเก่าก็ว่าได้
และนั่นแหละที่กำลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ
นั่นแหละคือวัตถุประสงค์ทั้งหมดทั้งมวลของพวกคุณ

ดังนั้น เดี๋ยวอีกสักครู่พวกเราจะมาลงในรายละเอียดเรื่องนี้กัน พวกเราจะเริ่มจากภาพรวมใหญ่ก่อน
แล้วค่อยลงไปหารายละเอียดปลีกย่อย และสิ่งแรกที่จะเริ่มก็คือข้ออุปมานี้ แม้ก่อนที่ฉันจะเริ่มสอนก็ตาม

อีกครั้งหนึ่ง ที่รักทั้งหลาย สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในห้องนี้
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ ฉันเห็นพวกคุณทุกคน

คุณสมบัติอย่างหนึ่งของพระเจ้าก็คือการไร้กาลเวลา ดังนั้น หากว่าคุณกำลังฟังอยู่ในตอนนี้
ในขณะที่กำลังบันทึกเสียงอยู่นี้ หรือว่ากำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ณ.ที่แห่งไหนก็ตาม
มันก็คือ “เดี๋ยวนี้” เช่นเดียวกัน

นั่นแหละคือแบบที่กาลเวลาปรากฎแก่ฉันหละ แต่สำหรับผู้ที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉันในขณะนี้แล้ว
กาลเวลามันไม่ได้เป็นแบบนั้นด้วย เพราะว่าจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย ที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉันในขณะนี้
พวกเขากำลังอยู่ในมิติที่ 3 และกำลังอยู่ในกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง

ดังนั้น มันจึงวิกฤติสำหรับพวกเขามาก ที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างถูกจำกัดขอบเขตการรับรู้แบบนี้

แต่ว่านั่นไม่ใช่สำหรับฉัน ดังนั้น ความเป็นไปได้อันหลากหลาย ที่หูของพวกคุณจะได้ยินข้อความนี้
จึงเป็นที่รับรู้ก่อนล่วงหน้าแล้วสำหรับฉัน ในฐานะที่เป็นอะไรบางอย่างที่พวกคุณอาจจะทำ

ฉันรู้ว่าพวกคุณอยู่ที่นี่ ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังฟังอยู่และกำลังอ่านอยู่
เรื่องนี้มันอาจจะยากที่พวกคุณจะเข้าใจได้ เพราะว่าพวกคุณอาจจะพูดว่า
“แม้แต่พระเจ้ายังไม่สามารถบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เลย
แล้วครายออน คุณจะรู้ก่อนล่วงหน้าได้อย่างไร ว่าฉันจะมาฟังหรือมาอ่านข้อความนี้?”

คำตอบมันง่ายนิดเดียวเอง เพราะว่าศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ (potential)
ของสิ่งที่พวกคุณจะกระทำมันเข้มข้นรุนแรงมากๆ
เพราะฉะนั้น ฉันจึงรู้ว่าพวกคุณจะต้องทำมันแน่ๆ

ฉันกำลังนั่งอยู่ต่อหน้ากลุ่มผู้ฟังที่มีอยู่ประมาณ 100 คน และฉันก็รู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า
พวกเขาแต่ละคน ได้ตัดสินใจว่าจะมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

ฉันรู้จากศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย (potentials) ของพวกเขา
ที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับการชุมนุมในครั้งนี้ และฉันก็รู้แม้กระทั่งว่า ใครบ้างที่เพิ่งมารู้เมื่อวานนี้เองด้วย

ฉันรู้มาก่อนแล้ว เพราะว่าพลังงานของศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย
มันอยู่ในควอนตั้มซุป (Quantum soup) ที่ฉันเคยกล่าวถึงไปแล้วบ่อยๆ

มันไม่ใช่อนาคต แต่มันคือ “ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย” (potentials)

และนี่แหละที่ทำให้พวกเราสามารถนำ “คณะผู้คอยให้ความช่วยเหลือพวกคุณ” (entourage)
มารอคอยพวกคุณที่นี่ก่อนล่วงหน้าได้ และมันยังทำให้พวกเราสามารถ
กำหนดหัวข้อของการสื่อสารในครั้งนี้ได้อีกด้วย พวกเรารอคอยให้พวกคุณมาถึง
แล้วมานั่งลงตรงหน้าพวกเรา ที่รักทั้งหลาย พวกเรารู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าจริงๆ ว่า
พวกเรากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร และพวกเรากำลังจะทำอะไร ดังนั้น ฉันจึงรู้จักพวกคุณ
และขอขอบคุณพวกคุณที่มาที่นี่ นี่คือช่วงเวลาของพวกคุณบนโลกใบนี้