แผ่นดินไหวและสึนามี
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ อยากจะขอกล่าวเรื่องพลังงาน เรื่องความสมดุลของพลังงาน เรื่องแผ่นดินไหว เรื่องสึนามิ(Tsunami)คลื่นยักษ์ที่เกิดขึ้น อยากจะบอกให้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้กระทำ และจะเกิดขึ้นอีก และจะหนักกว่านี้หลายเท่า และจะมีภัยธรรมชาติ และโรคร้าย อีกหลายอย่างที่ตามมา
ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 มีคนโทรมาบอกว่าเกิดแผนดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์ที่ภาคใต้ของประเทศไทยและมีคนตาย เนื่องด้วยข้าพเจ้าเคยบอกเพื่อนเมื่อหลายปีก่อนว่าพระอาจารย์บอกว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ขณะที่เพื่อนโทรมาบอกข้าพเจ้าคิดว่าเป็นแค่แผ่นดินไหวเล็กๆและก็น่าจะไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อกลับมาดูข่าวจาก TV. ที่บ้านก็รู้ว่ามันเกิดผลเสียหายมากมายเหลือเกิน อย่างเช่นยอดสรุปในวันนี้(31 ธค.47) พบศพผู้เสียชีวิตในประเทศไทยถึงสี่พันกว่าคน ผู้บาดเจ็บเก้าพันกว่ากัน และมีผู้สูญหายหกพันกว่าคน และยอดรวมของศพผู้เสียชีวิตในเอเซียมีมากถึงแสนกว่าศพ ซึ่งถือว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เคยบันไว้
แผ่นดินไหวเป็นต้นเหตุให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ
และแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
แผ่นดินไหวเกิดจากความไม่สมดุลของพลังงานที่แกนโลก
และความไม่สมดุลเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ความไม่สมดุลเกิดขึ้นจากมนุษย์กระทำขึ้นเอง ทำลายธรรมชาติทั้งบนพื้นดิน ในอากาศ ใต้ดิน สรุปมนุษย์ทำลายทุกอย่างที่เป็นความสมมุลของโลก
ธรรมชาติเก็บพลังงานไว้ในรูปของความเย็น เก็บเป็นก๊าซ เป็นน้ำมัน เป็นฐานหิน ฯลฯ เก็บไว้ใต้ดิน แต่ด้วยความอวดดีคิดว่าตนฉลาด มนุษย์ได้ขุดมันขึ้นมาจากใต้ดินแล้วนำมาใช้งานโดยเปลี่ยนให้มันกลายเป็นพลังงานความร้อน เอามาเผา ไม่ว่าจะเป็นผลิตไฟฟ้า เอามาเผาในเครื่องยนต์ของรถยนต์ ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ธรรมชาตินั้นเก็บไว้ในรูปของความเย็นแต่มนุษย์เปลี่ยนให้เป็นความร้อน มันก็เกิดปัญหาขึ้นนะซิ ทำความสมดุลของโลกเปลี่ยนไปทันที ชั้นโอโซนเสียไปจนไม่มีโอโซนที่ช่วยเป็นเกาะกั้นบังรังสีจากนอกโลก เราจึงเป็นโรคต่างๆมากขึ้น โลกร้อนเพราะปรากฏการเรือนกระจก สนามแม่เหล็กโลก แกนโลกขาดความสมดุล พลังงานในแกนโลกขาดความสมดุลเพราะมนุษย์ทำให้มันเป็นเช่นนั้น เมื่อส่วนใดของโลกขาดความสมดุลโลกก็จะปรับตัวของมันเองเพื่อให้เกิดความสมดุล อย่างเช่นแผ่นดินไหวเกินจากแกนโลกขาดความสมดุล เมื่อแกนโลกขาดความสมดุลทางพลังงานแกนโลกก็จะมีการเคลื่อนที่แบบไม่สมดุล และเพื่อให้ความสมดุล แกนโลกจะต้องมีพลังงานเท่าเดิมจึงจะสมมุล แกนโลกจึงส่งผลให้เปลือกโลกขยับตัวเพื่อดึงพลังงานจากเหนือพื้นดินลงสู่แกนโลก จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวและส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ซึนามิเกิดขึ้น
แผ่นดินไหวในธรรมชาติแบบเดิมๆนั้นมีอยู่แต่ก็ไม่หนักเท่าแผ่นดินไหวที่เกินจากการปรับตัวครั้งใหญ่ของแกนโลก
หากจะถามว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และผลจะเป็นอย่างไร?
ขอตอบว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีกและจะหนักขึ้น จะเกิดขึ้นอีกจนกว่าแกนโลกจะสมดุล
หากจะถามว่าแล้วเมื่อไรแกนโลกจะสมดุล ?
ก็ขอตอบว่าเมื่อเกินแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ?
และเมื่อไรจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น?
ท่านพระอาจารย์เคยกล่าวไว้เหมือนกัน แต่ถ้านับจากที่ท่านพระอาจารย์กล่าวไว้ก็นานแล้ว แต่ถ้านับจากวันนี้ก็จะประมาณได้ว่า โลกจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 18 ปี นับจากนี้(พ.ศ.2547) หมายความว่าเกิดได้ทุกเมื่อแต่ไม่เกินระยะเวลานี้
ภัยจากแผ่นดินไหวที่พระอาจารย์กล่าวไว้มีความเสียหายมากมายกว่านี้หลายเท่า ที่ได้พบเจอในครั้งนี้ถือว่าเป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น ของจริงมากกว่านี้ ในวันที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นนั้นเกินขึ้นเพียงวันเดียวและระยะเวลาเดียวกันพร้อมกันทั้งโลก ทุกพื้นที่ของโลกได้รับแผ่นดินไหวพร้อมๆกัน เป็นแผ่นดินไหวใหญ่เพียงครั้งเดียวพร้อมกันทั้งโลกพื้นดินขยับตัวเห็นอย่างชัดเช่น ภัยจากน้ำจะมากกว่านี้หลายเท่า จะมีทั้งลมทั้งน้ำ เสียงท้องฟ้าน่ากลัวมาก ผลของมั่นจะมากมายจนเราคิดไม่ถึง ไม่คิดว่ามันจะมากมายถึงขนาดนี้ ผู้รอดชีวิตบ้างคนจะคุมสติไม่อยู่เพราะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ระบบต่างๆที่อาศัยไฟฟ้าจะใช้การไม่ได้ เรียกว่าไม่มีไฟฟ้าจะดีซะกว่า ผู้คนไม่ทันได้หนี อยู่ตรงไหนก็ตายตรงนั้น
ธรรมชาติได้เตือนมนุษย์หลายครั้ง ด้วยภัยธรรมชาติและโรคร้ายต่างๆ แต่มนุษย์ไม่เคยสนใส่ใจ ในธรรมชาติความสมดุลของโลก ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ธรรมชาติก็จะเตือนมนุษย์อีก แต่ดูเหมือนมนุษย์ผู้ฉลาดไม่เคยเข้าใจบ้าน(โลก)ที่ตนเองอาศัยอยู่เลยว่าเป็นเช่นไร
มนุษย์รู้เรื่องเกี่ยวกับความสมดุลพลังงานของโลกน้อยมาก ครั้งต่อไปธรรมชาติปรับตัวอีก จะได้รู้กันว่าประเทศมหาอำนาจของโลกที่มากด้วยเทคโนโลยีที่อวดตนว่าฉลาดจะถูกธรรมชาติเล่นงานหนักจะรับมือไหวหรือไม่
ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงแผ่นดินไหว ไม่ได้กล่าวเพื่อให้ตกใจหรือหวาดกลัว แต่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าจะบอกเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้เร่งความเพียร เพราะคนเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ขอให้เร่งความเพียร ขอให้จริงใจในธรรม สำหรับผู้ที่ไม่สนใจธรรม ไม่เคยหวังมรรคผลนิพพานก็ขอให้เป็นคนดี เพราะผลดีจะทำให้เราไปดี ตัวข้าพเจ้ามีประสพการณ์ได้เดินทางไปหลายที่และก็ได้พบวิญญาณที่ประสพอุบัติเหตุตายข้างทางบ่อยอยู่เหมือนกัน พวกวิญญาณเหล่านั้นสมัยเป็นคนก็ไม่ได้สนใจในการปฏิบัติธรรม ไม่ได้สนใจทำบุญ เอาแต่ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป เมื่อตายจิตก็ติดอยู่ตรงนั้น จิตไม่มีสติ ไม่มีบุญ คือไม่มีกำลังที่จะไปไหนก็ติดอยู่ตรงนั้น ต้องรอขอส่วนบุญคนที่ผ่านไปมา เป็นวิญญาณไม่ได้ไปผุดไปเกิด เป็นผี เป็นวิญญาณคอยขอส่วนบุญและหลอกหลอดคนอยู่ข้างทาง ข้าพเจ้าอยากจะเตือนผู้คนว่า อย่าเอาแต่ทำงานหาเงินให้ หัดทำบุญ หัดฝึกจิต หัดฝึกสติซะบ้าง เพราะเงินทองนั้นช่วยอะไรเราไม่ได้ ให้มีเงินนับล้านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ หากไม่ทำบุญ ไม่มีสติตายก็ไปไหนไม่ได้ มีตัวอย่างพอจะเล่าให้ฟังได้หนึ่งตัวอย่าง เป็นคนที่ถือว่ามีฐานะและหน้าที่การงานดี ในช่วงนั้นประมาณปี 2545 หรือ 2546 จำได้ไม่แน่ชัด เวลาดึกประมาณตีหนึ่งตีสอง ข้าพเจ้าอยู่ในรถผ่านแยกบางนา รถลงจากทางด่วนตรงแยกบางนาเพื่อมุ่งไปชลบุรี ลงจากทางด่วนรถก็ติด ข้าพเจ้ามองไปเห็นไฟฉุกเฉินละเห็นรถหนึ่งคนประสพอุบัติเหตุหล่นจงมาจากทางด่วนที่วิ่งจากชลบุรีมากรุงเทพ เป็นทางด่วนที่อยู่สูงจากถนนข้างล้างมาก ข้าพเจ้าก็มองเข้าไปและได้คิดตำหนิเจ้าหน้าที่ทางด่วนอยู่ในใจว่า ข้างบนไม่ได้กันหรืออย่างไร จึงทำให้คนวิ่งตรงตกลงมา เพราะถ้ามีเครื่องหมายกั้น คนที่มาจากชลบุรีก็หน้าจะลงทางด่วนก่อนห้างเ็ซ็นทรันบางนา ข้าพเจ้าก็คิดแค่นี้และก็ไม่ได้สนใจอะไร พอรถไปได้ระยะหนึ่งซึ่งห่างจากจุดที่เกิดเหตุพอสมควรข้าพเจ้าก็ได้กลิ่นคาวเลือดอย่างมากจนแทบจะอาเจียน ก็คิดในใจว่าตอนอยู่ที่จุดเกิดอุบัติเหตุก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีกลิ่นอะไร พอผ่านมาไกลขนาดนี้ทำไมมีกลิ่น ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันแปลกๆ ก็เคยถามว่า "มีอะไร จะเอาอะไร" ก็ได้รับคำตอบว่า -ช่วยเ谮าด้วย เขาไปไหนไม่ได้ สอบถามก็ได้ความว่าเขาปล่อยวางไม่ได้ เขายังไม่อยากตาย เขายังไม่พร้อมจะตาย เขามีห่วงมาก ห่วงครอบครัวห่วงการงาน- ข้าพเจ้าก็ช่วยเขาไปเท่าที่ทำได้ และเขาก็จากไป ข้าพเจ้าอยู่บนรถก็ยังคิดว่าห่วงอะไรกันนักหนา ตัวเองยังเอาไม่รวด ยังจะห่วงคนอื่นอีก ไม่รู้เขาทำงานอะไรถึงได้บอกว่าห่วงงาน ข้าพเจ้าก็สงสัยอยู่เช่นนั้น อีกสองวันต่อมาก็มีคนโทรมาบอกว่ารู้แล้วคนที่ตายเป็นใคร เป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ...(ไม่น่าละบอกว่าห่วงงานมาก)
ที่นำมาเขียนให้อ่านไม่ได้มีความประสงค์ที่จะแสดงภูมิอะไร(ของอย่างนี้ทำได้ทุกคน) เพียงเพื่ออยากจะบอกว่าให้ทำบุญ ให้ฝึกจิตบ้าง จะได้เป็นแรงบุญให้ตัวเอง เมื่อวันที่ตนต้องตาย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นผีรอขอส่วนบุญอยู่ข้างถนน ตัวอย่างเศรษฐีที่ประสพอุบุติเหตุรถตกจากทางด่วน ถ้าวันนั้นข้าพเจ้าไม่ผ่านไป ก็คงต้องเป็นวิญญาณขอส่วนบุญจากคนอื่นต่อไป ข้าพเจ้าอุทิศส่วนบุญให้และก็สอนธรรมให้ จิตเข้าก็ดีขึ้นและจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เห็นบอกว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวก่อนแล้วถึงจะไปเกิด ข้าพเจ้าจำไม่ได้ชัดว่าเขาบอกว่าอย่างไรบ้าง ถ้าจำไม่ผิดเห็นบอกว่าชาติหน้าอยากจะปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าก็บอกว่าถ้าไปเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สามได้ก็ดี เพราะยุคนั้นศาสนาพุทธจะรุ่งเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง ศาสนาที่เป็นแต่ความเชื่อก็จะไม่รุ่งเรื่อง เพราะคนเริ่มมีปัญญาได้เห็นแล้วว่าคำสอน สอนแต่ให้เชื่อและให้ศรัทธามันไม่มีความเป็นจริงมันเป็นแต่ความศรัทธาที่เชื่อตามๆกันมาเท่านั้น
ข้าพเจ้าพึ่งเขียนการตอบปัญหาธรรมข้อที่ 40 (click here) ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 และก็ได้เขียนถึงแผ่นดินไหว และได้บอกว่าโลกจะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วโลก และผ่านมาเพียง 1 เดือนก็เกิดแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในเอเซีย(ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ) ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าเรามีเวลาไม่มากสำหรับทำความดี เพราะความตายอาจจะเกิดแก่เราก็ได้ทุกเมื่อ อย่าได้คิดว่าอยู่ห่างทะเลจะไม่เป็น ขอบอกว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นทุกที่และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถึงเรา อย่าได้นิ่งเฉยในการทำดี
พระพุทธเจ้าเตือนสติเราไว้ว่า
"วันเวลาผ่านไปแล้วเล่าๆ บัดนี้ท่านธรรมอะไรอยู่"
ขอธรรมจงมีแต่ท่าน
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ อยากจะขอกล่าวเรื่องพลังงาน เรื่องความสมดุลของพลังงาน เรื่องแผ่นดินไหว เรื่องสึนามิ(Tsunami)คลื่นยักษ์ที่เกิดขึ้น อยากจะบอกให้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้กระทำ และจะเกิดขึ้นอีก และจะหนักกว่านี้หลายเท่า และจะมีภัยธรรมชาติ และโรคร้าย อีกหลายอย่างที่ตามมา
ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 มีคนโทรมาบอกว่าเกิดแผนดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์ที่ภาคใต้ของประเทศไทยและมีคนตาย เนื่องด้วยข้าพเจ้าเคยบอกเพื่อนเมื่อหลายปีก่อนว่าพระอาจารย์บอกว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ขณะที่เพื่อนโทรมาบอกข้าพเจ้าคิดว่าเป็นแค่แผ่นดินไหวเล็กๆและก็น่าจะไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อกลับมาดูข่าวจาก TV. ที่บ้านก็รู้ว่ามันเกิดผลเสียหายมากมายเหลือเกิน อย่างเช่นยอดสรุปในวันนี้(31 ธค.47) พบศพผู้เสียชีวิตในประเทศไทยถึงสี่พันกว่าคน ผู้บาดเจ็บเก้าพันกว่ากัน และมีผู้สูญหายหกพันกว่าคน และยอดรวมของศพผู้เสียชีวิตในเอเซียมีมากถึงแสนกว่าศพ ซึ่งถือว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เคยบันไว้
แผ่นดินไหวเป็นต้นเหตุให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ
และแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
แผ่นดินไหวเกิดจากความไม่สมดุลของพลังงานที่แกนโลก
และความไม่สมดุลเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ความไม่สมดุลเกิดขึ้นจากมนุษย์กระทำขึ้นเอง ทำลายธรรมชาติทั้งบนพื้นดิน ในอากาศ ใต้ดิน สรุปมนุษย์ทำลายทุกอย่างที่เป็นความสมมุลของโลก
ธรรมชาติเก็บพลังงานไว้ในรูปของความเย็น เก็บเป็นก๊าซ เป็นน้ำมัน เป็นฐานหิน ฯลฯ เก็บไว้ใต้ดิน แต่ด้วยความอวดดีคิดว่าตนฉลาด มนุษย์ได้ขุดมันขึ้นมาจากใต้ดินแล้วนำมาใช้งานโดยเปลี่ยนให้มันกลายเป็นพลังงานความร้อน เอามาเผา ไม่ว่าจะเป็นผลิตไฟฟ้า เอามาเผาในเครื่องยนต์ของรถยนต์ ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ธรรมชาตินั้นเก็บไว้ในรูปของความเย็นแต่มนุษย์เปลี่ยนให้เป็นความร้อน มันก็เกิดปัญหาขึ้นนะซิ ทำความสมดุลของโลกเปลี่ยนไปทันที ชั้นโอโซนเสียไปจนไม่มีโอโซนที่ช่วยเป็นเกาะกั้นบังรังสีจากนอกโลก เราจึงเป็นโรคต่างๆมากขึ้น โลกร้อนเพราะปรากฏการเรือนกระจก สนามแม่เหล็กโลก แกนโลกขาดความสมดุล พลังงานในแกนโลกขาดความสมดุลเพราะมนุษย์ทำให้มันเป็นเช่นนั้น เมื่อส่วนใดของโลกขาดความสมดุลโลกก็จะปรับตัวของมันเองเพื่อให้เกิดความสมดุล อย่างเช่นแผ่นดินไหวเกินจากแกนโลกขาดความสมดุล เมื่อแกนโลกขาดความสมดุลทางพลังงานแกนโลกก็จะมีการเคลื่อนที่แบบไม่สมดุล และเพื่อให้ความสมดุล แกนโลกจะต้องมีพลังงานเท่าเดิมจึงจะสมมุล แกนโลกจึงส่งผลให้เปลือกโลกขยับตัวเพื่อดึงพลังงานจากเหนือพื้นดินลงสู่แกนโลก จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวและส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ซึนามิเกิดขึ้น
แผ่นดินไหวในธรรมชาติแบบเดิมๆนั้นมีอยู่แต่ก็ไม่หนักเท่าแผ่นดินไหวที่เกินจากการปรับตัวครั้งใหญ่ของแกนโลก
หากจะถามว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และผลจะเป็นอย่างไร?
ขอตอบว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีกและจะหนักขึ้น จะเกิดขึ้นอีกจนกว่าแกนโลกจะสมดุล
หากจะถามว่าแล้วเมื่อไรแกนโลกจะสมดุล ?
ก็ขอตอบว่าเมื่อเกินแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ?
และเมื่อไรจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น?
ท่านพระอาจารย์เคยกล่าวไว้เหมือนกัน แต่ถ้านับจากที่ท่านพระอาจารย์กล่าวไว้ก็นานแล้ว แต่ถ้านับจากวันนี้ก็จะประมาณได้ว่า โลกจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 18 ปี นับจากนี้(พ.ศ.2547) หมายความว่าเกิดได้ทุกเมื่อแต่ไม่เกินระยะเวลานี้
ภัยจากแผ่นดินไหวที่พระอาจารย์กล่าวไว้มีความเสียหายมากมายกว่านี้หลายเท่า ที่ได้พบเจอในครั้งนี้ถือว่าเป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น ของจริงมากกว่านี้ ในวันที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นนั้นเกินขึ้นเพียงวันเดียวและระยะเวลาเดียวกันพร้อมกันทั้งโลก ทุกพื้นที่ของโลกได้รับแผ่นดินไหวพร้อมๆกัน เป็นแผ่นดินไหวใหญ่เพียงครั้งเดียวพร้อมกันทั้งโลกพื้นดินขยับตัวเห็นอย่างชัดเช่น ภัยจากน้ำจะมากกว่านี้หลายเท่า จะมีทั้งลมทั้งน้ำ เสียงท้องฟ้าน่ากลัวมาก ผลของมั่นจะมากมายจนเราคิดไม่ถึง ไม่คิดว่ามันจะมากมายถึงขนาดนี้ ผู้รอดชีวิตบ้างคนจะคุมสติไม่อยู่เพราะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ระบบต่างๆที่อาศัยไฟฟ้าจะใช้การไม่ได้ เรียกว่าไม่มีไฟฟ้าจะดีซะกว่า ผู้คนไม่ทันได้หนี อยู่ตรงไหนก็ตายตรงนั้น
ธรรมชาติได้เตือนมนุษย์หลายครั้ง ด้วยภัยธรรมชาติและโรคร้ายต่างๆ แต่มนุษย์ไม่เคยสนใส่ใจ ในธรรมชาติความสมดุลของโลก ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ธรรมชาติก็จะเตือนมนุษย์อีก แต่ดูเหมือนมนุษย์ผู้ฉลาดไม่เคยเข้าใจบ้าน(โลก)ที่ตนเองอาศัยอยู่เลยว่าเป็นเช่นไร
มนุษย์รู้เรื่องเกี่ยวกับความสมดุลพลังงานของโลกน้อยมาก ครั้งต่อไปธรรมชาติปรับตัวอีก จะได้รู้กันว่าประเทศมหาอำนาจของโลกที่มากด้วยเทคโนโลยีที่อวดตนว่าฉลาดจะถูกธรรมชาติเล่นงานหนักจะรับมือไหวหรือไม่
ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงแผ่นดินไหว ไม่ได้กล่าวเพื่อให้ตกใจหรือหวาดกลัว แต่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าจะบอกเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้เร่งความเพียร เพราะคนเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ขอให้เร่งความเพียร ขอให้จริงใจในธรรม สำหรับผู้ที่ไม่สนใจธรรม ไม่เคยหวังมรรคผลนิพพานก็ขอให้เป็นคนดี เพราะผลดีจะทำให้เราไปดี ตัวข้าพเจ้ามีประสพการณ์ได้เดินทางไปหลายที่และก็ได้พบวิญญาณที่ประสพอุบัติเหตุตายข้างทางบ่อยอยู่เหมือนกัน พวกวิญญาณเหล่านั้นสมัยเป็นคนก็ไม่ได้สนใจในการปฏิบัติธรรม ไม่ได้สนใจทำบุญ เอาแต่ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป เมื่อตายจิตก็ติดอยู่ตรงนั้น จิตไม่มีสติ ไม่มีบุญ คือไม่มีกำลังที่จะไปไหนก็ติดอยู่ตรงนั้น ต้องรอขอส่วนบุญคนที่ผ่านไปมา เป็นวิญญาณไม่ได้ไปผุดไปเกิด เป็นผี เป็นวิญญาณคอยขอส่วนบุญและหลอกหลอดคนอยู่ข้างทาง ข้าพเจ้าอยากจะเตือนผู้คนว่า อย่าเอาแต่ทำงานหาเงินให้ หัดทำบุญ หัดฝึกจิต หัดฝึกสติซะบ้าง เพราะเงินทองนั้นช่วยอะไรเราไม่ได้ ให้มีเงินนับล้านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ หากไม่ทำบุญ ไม่มีสติตายก็ไปไหนไม่ได้ มีตัวอย่างพอจะเล่าให้ฟังได้หนึ่งตัวอย่าง เป็นคนที่ถือว่ามีฐานะและหน้าที่การงานดี ในช่วงนั้นประมาณปี 2545 หรือ 2546 จำได้ไม่แน่ชัด เวลาดึกประมาณตีหนึ่งตีสอง ข้าพเจ้าอยู่ในรถผ่านแยกบางนา รถลงจากทางด่วนตรงแยกบางนาเพื่อมุ่งไปชลบุรี ลงจากทางด่วนรถก็ติด ข้าพเจ้ามองไปเห็นไฟฉุกเฉินละเห็นรถหนึ่งคนประสพอุบัติเหตุหล่นจงมาจากทางด่วนที่วิ่งจากชลบุรีมากรุงเทพ เป็นทางด่วนที่อยู่สูงจากถนนข้างล้างมาก ข้าพเจ้าก็มองเข้าไปและได้คิดตำหนิเจ้าหน้าที่ทางด่วนอยู่ในใจว่า ข้างบนไม่ได้กันหรืออย่างไร จึงทำให้คนวิ่งตรงตกลงมา เพราะถ้ามีเครื่องหมายกั้น คนที่มาจากชลบุรีก็หน้าจะลงทางด่วนก่อนห้างเ็ซ็นทรันบางนา ข้าพเจ้าก็คิดแค่นี้และก็ไม่ได้สนใจอะไร พอรถไปได้ระยะหนึ่งซึ่งห่างจากจุดที่เกิดเหตุพอสมควรข้าพเจ้าก็ได้กลิ่นคาวเลือดอย่างมากจนแทบจะอาเจียน ก็คิดในใจว่าตอนอยู่ที่จุดเกิดอุบัติเหตุก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีกลิ่นอะไร พอผ่านมาไกลขนาดนี้ทำไมมีกลิ่น ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันแปลกๆ ก็เคยถามว่า "มีอะไร จะเอาอะไร" ก็ได้รับคำตอบว่า -ช่วยเ谮าด้วย เขาไปไหนไม่ได้ สอบถามก็ได้ความว่าเขาปล่อยวางไม่ได้ เขายังไม่อยากตาย เขายังไม่พร้อมจะตาย เขามีห่วงมาก ห่วงครอบครัวห่วงการงาน- ข้าพเจ้าก็ช่วยเขาไปเท่าที่ทำได้ และเขาก็จากไป ข้าพเจ้าอยู่บนรถก็ยังคิดว่าห่วงอะไรกันนักหนา ตัวเองยังเอาไม่รวด ยังจะห่วงคนอื่นอีก ไม่รู้เขาทำงานอะไรถึงได้บอกว่าห่วงงาน ข้าพเจ้าก็สงสัยอยู่เช่นนั้น อีกสองวันต่อมาก็มีคนโทรมาบอกว่ารู้แล้วคนที่ตายเป็นใคร เป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ...(ไม่น่าละบอกว่าห่วงงานมาก)
ที่นำมาเขียนให้อ่านไม่ได้มีความประสงค์ที่จะแสดงภูมิอะไร(ของอย่างนี้ทำได้ทุกคน) เพียงเพื่ออยากจะบอกว่าให้ทำบุญ ให้ฝึกจิตบ้าง จะได้เป็นแรงบุญให้ตัวเอง เมื่อวันที่ตนต้องตาย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นผีรอขอส่วนบุญอยู่ข้างถนน ตัวอย่างเศรษฐีที่ประสพอุบุติเหตุรถตกจากทางด่วน ถ้าวันนั้นข้าพเจ้าไม่ผ่านไป ก็คงต้องเป็นวิญญาณขอส่วนบุญจากคนอื่นต่อไป ข้าพเจ้าอุทิศส่วนบุญให้และก็สอนธรรมให้ จิตเข้าก็ดีขึ้นและจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เห็นบอกว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวก่อนแล้วถึงจะไปเกิด ข้าพเจ้าจำไม่ได้ชัดว่าเขาบอกว่าอย่างไรบ้าง ถ้าจำไม่ผิดเห็นบอกว่าชาติหน้าอยากจะปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าก็บอกว่าถ้าไปเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สามได้ก็ดี เพราะยุคนั้นศาสนาพุทธจะรุ่งเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง ศาสนาที่เป็นแต่ความเชื่อก็จะไม่รุ่งเรื่อง เพราะคนเริ่มมีปัญญาได้เห็นแล้วว่าคำสอน สอนแต่ให้เชื่อและให้ศรัทธามันไม่มีความเป็นจริงมันเป็นแต่ความศรัทธาที่เชื่อตามๆกันมาเท่านั้น
ข้าพเจ้าพึ่งเขียนการตอบปัญหาธรรมข้อที่ 40 (click here) ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 และก็ได้เขียนถึงแผ่นดินไหว และได้บอกว่าโลกจะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วโลก และผ่านมาเพียง 1 เดือนก็เกิดแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในเอเซีย(ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ) ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าเรามีเวลาไม่มากสำหรับทำความดี เพราะความตายอาจจะเกิดแก่เราก็ได้ทุกเมื่อ อย่าได้คิดว่าอยู่ห่างทะเลจะไม่เป็น ขอบอกว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นทุกที่และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถึงเรา อย่าได้นิ่งเฉยในการทำดี
พระพุทธเจ้าเตือนสติเราไว้ว่า
"วันเวลาผ่านไปแล้วเล่าๆ บัดนี้ท่านธรรมอะไรอยู่"
ขอธรรมจงมีแต่ท่าน