(พระพุทธเจ้าองค์แรกที่มาตรัสรู้บนโลก) โดย ลูกพระบรมธรรมบิดา ในเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2548 ผมสวดมนตร์ไหว้พระและอธิษฐานขอองค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา และองค์สมเด็จพระปฐม ว่า ถ้าพระองค์ทรงพระเมตตา ให้ลูกเขียนเรื่องพลังแสงทิพย์อริยธรรม ก็ขอโปรดเมตตาบอกลูกด้วยว่า จะให้ลูกเขียนอย่างไร ถ้าไม่ทรงอนุญาตลูกก็จะไม่เขียน สมเด็จองค์พระปฐม พระองค์ได้เมตตาอนุญาต และทรงตรัสว่า พลังแสงทิพย์อริยธรรมนั้น องค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา พระองค์ทรงได้ประทานส่งมายังโลกมนุษย์มานานแล้ว ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลแม้แต่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ทรงรับพลังแสงทิพย์นี้เหมือนกัน ความจริงแล้วพลังแสงทิพย์นี้ ท่านได้ส่งมายังโลกมนุษย์ตลอดเวลา จุดประสงค์ก็คือให้ทุกดวงจิตในโลกมนุษย์ ได้มีปัญญารู้ความเป็นจริง ของแหล่ง หรือที่มาดั้งเดิมของทุกดวงจิต ว่ามาจากไหน และควรที่จะไปที่ไหน พระอริยสงฆ์ที่เข้าพระนิพพานไปแล้ว ก็เคยรับพลังแสงทิพย์นี้ในอดีตทั้งนั้น ทุกดวงจิตในโลกมนุษย์ปัจจุบันนี้ ล้วนแล้วแต่เวียนว่ายตายเกิดมาไม่รู้จักกี่แสนชาติ เหมือนจิตถูกคุมขังในเรือนจำแห่งวัฏฏะทุกข์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะพ้นจากเรือนจำนี้ไปได้เมื่อใด ทุกดวงจิตล้วนแล้วแต่หลงกับความสุขในโลกมนุษย์ ที่แท้จริงแล้วเป็นความสุขที่ทุกดวงจิตสมมุติว่าเป็นความสุข หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ความสุขที่เกิดจากการสมมุติ สังเกตได้จากโลกปัจจุบัน เทคโนโลยี่ยิ่งมีความเจริญและถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทุกดวงจิตก็หลงกับตรงนี้มากขึ้น จนจิตมืดมิดสนิท มิอาจมองเห็นความสุขที่แท้จริงและไม่เข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร และทำอย่างไรจึงจะพบกับความสุขที่แท้จจริง เมื่อจิตมืดสนิทก็หลงอยู่ในความสุขแห่งสมมุติ หลงคิดว่าความสุขที่แท้จริงคือร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อยู่สบายมีกินมีใช้ ก็คือความสุข การอยู่เฉยๆ สบายๆ คือความสุข แท้ที่จริงหาได้เข้าใจไม่ว่าเป็นความสุขที่เกิดจากการสมมุติทั้งสิ้น ความสุขที่เกิดจากการสมมุตินั้น ล้วนอนิจจังไม่เที่ยง มีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เมื่อมีอนิจจังเกิดขึ้น ก็ย่อมเกิดทุกข์ตามมา ท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรเหลือ ความสุขจากสมมุติก็หายไป ไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ขันธ์ 5 ว่าเป็นของเราก็ไม่มีอะไรเหลือ มีแต่ดวงจิตที่หลงในสมมุติอย่างเต็มที่ จิตก็มืดสนิทบดบังปัญญาเดิมแท้ โดยไม่เหลือรูหรือช่องว่างให้เปล่งประกายออกมาได้เลย จิตจึงต้องท่องเที่ยวอยู่ในเรือนจำแห่งวัฏฏะทุกข์ โดยไม่มีวันจบสิ้นเป็นที่เวทนายิ่งนัก ไม่มีโอกาสที่จะพบกับความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ไม่มีสมมุติมาปรุงแต่ง ความสุขที่สะอาดจากกิเลสสังโยชนน์ 10 ตัณหา อวิชชา ปราศจากสมมุติโดยสิ้นเชิง ความสุขแบบนี้แหละเป็นความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขของพระอริยเจ้า เป็นความสุขแห่งนิพพาน เป็นบรมสุข เป็นความสุขนอกเรือนจำแห่งวัฏฏะทุกข์ องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษี บรมธรรมบิดา ท่านจึงทรงมีพระมหาเมตตาส่งพลังแสงทิพย์นิพพานมาให้ทุกดวงจิต เพื่อที่จะเปิดปัญญาแห่งจิตเดิมแท้ปัญญาแห่งจิตพุทธะ ซึ่งทุกดวงจิตมีอยู่แล้วแต่แรกเริ่มเดิมที แต่ถูกบดบังด้วยกิเลสตัณหาจนมืดสนิทไม่สว่างไสว ออกมา และใช้ปัญญาแห่งพุทธะอันเดิมแท้นั้น ให้ลูกๆทุกคนพิจารณาธรรมอันเป็นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพบกับธรรมะอันจริงแท้ จนจิต สว่างไสว ออกมาจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองที่มาบดบัง จิตจนมืดสนิท กลายเป็นจิตพุทธะโดยสมบูรณ์ เป็นพระอริยเจ้าอันไม่มีสมมุติใดๆหลงเหลืออยู่ กลับคืนสู่บ้านพระนิพพานไม่ต้องมาวนเวียนอยู่ในเรือนจำแห่งวัฏฏะทุกข์ โดยไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อทราบความเมตตาขององค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาแล้ว ก็จงรับพลังแสงทิพย์อริยธรรม เพื่อทุกดวงจิตจะได้กลับบ้านพระนิพพานกันง่ายขึ้น แล้วกำหนดจิตตั้งมั่น ขออาราธนาบารมีพระศาสดา โปรดเมตตายกจิตทิพย์กายทิพย์ของเจ้า เข้าไปอยู่ในกายทิพย์นิพพานขององค์พระบรมธรรมบิดา สวดมนตร์ภาวนาแผ่เมตตาฝากไปกับพลังแสงทิพย์นิพพานให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ได้โมทนาสาธุกับบุญบารมีของเจ้า ทำให้สัตว์นรกพ้นโทษพ้นทุกข์ หลายหมื่น วิญญาณผี ได้สัมผัสแสงฉัพพรรณรังสี ต่างปราบปลื้มยินดีได้รับผลบุญบารมีที่ทำไว้ตอนเป็นคน กายทิพย์เจ้าก็ใสสว่าง จิตแยกจากกายเต็มกำลัง เป็นมโนมยิทธิ ทำได้ง่ายตลอดเวลา ไม่ว่าหลับ หรือตื่น จิตเจ้าจะเป็นสุขสดชื่น คล้ายจิตพระอรหันต์ เพราะจิตเจ้าจะเบา ว่างจากขันธ์ 5 เป็นสังขารุเบกขาญาณ ท้ายที่สุดนี้สิ่งที่เขียนมาทั้งหมด มิได้เป็นความรู้ของผมเลย แต่เป็นความรู้ขององค์สมเด็จพระพุทธปฐมบรมศาสดา จากเบื้องบนพระนิพพานที่ท่านทรงเมตตาให้เขียนอย่างนี้ ผมเป็นเพียงผู้ถ่ายทอดเท่านั้นและต้องขอขอบพระคุณ คุณแม่เกษร ที่เป็นผู้เปิดเผยเรื่องพลังแสงทิพย์อริยธรรมนี้ ให้ลูกๆหลานๆได้รับ จนเกิดปัญญาขึ้นในวันนี้ ขอให้ทุกท่านลองพิจารณาดูนะครับ ถ้าหากว่าทุกๆดวงจิตในโลกมนุษย์ได้รับพลังแสงทิพย์อริยธรรม แล้วต่อไปโลกมนุษย์นี้ ก็คือนิพพานบนดินนั่นเองใช่ไหมครับ? พลังแสงทิพย์อริยธรรมนำทุกท่านเข้าพระนิพพานทันใจ |
โดย เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ |
พลังแสงทิพย์อริยธรรมคือแสงทิพย์นิพพานที่วิเศษล้ำเลิศประเสริฐยิ่ง ส่งมาจากองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา พระผู้เป็นใหญ่ของทุกๆศาสนา ผู้เป็นใหญ่สูงสุดเบื้องบนพระนิพพาน ผู้เป็นเจ้าแห่งมวลจักรวาลทั้ง 3 โลก มีพระมหาเมตตาทรงโปรดประทานส่องแสงทิพย์อริยทรัพย์ลงมา ให้แก่ชาวโลก และทั่วมหาอนันตจักรวาล ทั้งนรกโลก เทวโลก พรหมโลก เพื่อที่จะยกระดับจิตคนที่ดีมีบุญให้ได้อริยมรรค อริยผล ทั่วทั้งหมด ไม่มีการยกเว้นไม่ว่าจะเป็นชนชาติศาสนาใดขอให้มีจิตใจเมตตาปราณี มีศีล 5 ครบ เคารพองค์พระศาสดาของท่าน ตั้งจิตตั้งใจ อธิษฐานขอพลังแสงทิพย์นิพพานเข้าไปชำระล้างกิเลส อวิชชา ตัญหา อุปาทานในจิตใจ ท่านจะได้รับอริยฐานะทันที เป็นการปิดกั้นป้องกันประตูอบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เพราะเมื่อความตายใกล้เข้ามา ลืมนึกถึงคุณงามความดี มัวแต่ตกใจกลัวตาย พระเบื้องบนท่านจะมาปรากฏกายทิพย์ให้ผู้ที่ได้รับพลังแสงทิพย์เห็นด้วยตาเนื้อ คนใกล้ตายจะดีใจ จิตเป็นกุศลก็ไปสวรรค์ได้เป็นอย่างต่ำ ไปเป็นสุขชั้นพรหมเป็นอย่างกลาง จิตสะอาดเบิกบาน ไม่ติดใจในสมบัติของโลก สวรรค์ พรหมก็ไปเบื้องบนพระนิพพานได้แน่นอน แต่บุคคลได้รับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์ปิดกั้นประตูนรกแล้วรู้จักดีชั่วแล้ว ยังไม่เชื่อกฏของกรรมหรือกฏของธรรมชาติฝ่าฝืนกระทำความผิดศีล 5 ข้อ ก็จะได้รับการลงโทษเป็น 2 เท่า ตามบาปกรรมที่ทำไว้
|
ในสมัยพุทธกาล สาธุชนที่ได้เข้าเฝ้ารับฟังพระธรรม ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้เห็นแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการของพระองค์ท่านเพียงครั้งเดียว ทำให้มีความเลื่อมใสศรัทธา ปิติยินดีฟังพระธรรมเทศนา จิตได้เข้าถึงพระโสดาบันทันที ในสมัยปัจจุบันนี้ องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา ได้ทรงโปรดเมตตาประทานพลังแสงทิพย์อริยธรรม หรือแสงทิพย์นิพพาน ส่งตรงมาให้ดวงจิตทั้ง 3 โลกได้รับสัมผัส เปรียบประดุจดังแสงฉัพพรรณรังสีขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าในสมัยพุทธกาลนั่นเอง ซึ่งพระองค์มีพระวิสุทธิพุทธบัญชาให้คนที่มีขันธ์ 5 เป็นสื่อกลาง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเวียนว่ายตายเกิด ภัยในวัฏฏะสงสาร ความรู้ใหม่เป็นอาจินไตย ไม่สามารถคิดหรือจินตนาการเองได้ |
แรกเริ่มเดิมทียังไม่มีสุริยะจักรวาล มีแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่าของสุญญากาศ มีพลังจิตเป็นทิพย์มหัศจรรย์ขององค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาอยู่ในอวกาศ ซึ่งเป็นนิพพานอยู่ทั่วไป ไม่มีนรกโลก เปรต อสุรกาย สัตว์ คน ไม่มีสวรรค์ พรหม ไม่มีรูปลักษณ์ พลังจิตองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาซึ่งมีมาแต่กาลก่อน ไม่มีใครสร้างเป็นพลังจิตยิ่งใหญ่อยู่เหนือธรรมชาติ เหนือกฏของจักรวาลพระองค์ท่านเนรมิตรูปลักษณ์เป็นกายแก้ว กายทิพย์ กายนิพพานแล้วพระองค์ท่านก็เปล่งแสงทิพย์ในพระวรกายพระองค์ท่านกระจายเป็น พลังจิต เล็กๆได้ 9,600 ล้านล้านดวง คือ ดวงจิตนิพพานทั้งหมดที่อยู่ใน 3 พิภพนี้ องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาจึงโปรดเมตตาสร้างสุริยะจักรวาล มีดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ จำลองนิพพานมาไว้ในโลกชมภู (โลกเรานี้) โลกสูตู โลกจามร ให้เป็นสถานที่น่าอยู่สบาย กลายเป็นรูปธรรม วัตถุธรรม หรือโลกธรรม พระองค์ท่านวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาจึงตรัสสั่งพลังจิตเล็กๆของลูก ที่เป็นทิพย์นิพพานทั้งหลายว่า "ลูกจงไปเรียนรู้สภาวะของโลกจักรวาล พ่อสร้างไว้ให้เป็นรูปธรรม ไปช่วยกันสร้างสวรรค์ให้โลกเป็น นิพพานบนดิน ทำงานเรียนรู้โลกธาตุจบ จิตใจจะได้มั่นคงไม่สงสัยในพระนิพพาน และรูปธรรม นามธรรมอีกต่อไป หมดอายุขัยจิตใจลูกให้กลับคืนนิพพาน เป็นการจบหลักสูตรเรียนรู้ในรูปธรรม วัตถุธรรมครบหมดแล้ว ลูกไม่ต้องลงไปเรียนทำงานโลกธรรมอีก แต่อย่าได้ไปลุ่มหลงในสิ่งมายาสมมุติ มันจะทุกข์หนัก แล้วลูกจะหลงทางลืมหาทางกลับคืนสู่นิพพานไม่ได้" ลูกๆจิตนิพพานทั้งหลายต่างก็กระจายมาเที่ยวเล่นในโลก มีความเป็นทิพย์ สุขสบาย สมปรารถนาทุกอย่าง รุ่นแรกๆกลับคืนสู่นิพพานได้ไม่ยาก เพราะจิตสะอาด ไม่ติดใจในของสมมุติ ส่วนรุ่นหลังๆอยู่ไปอยู่มาเริ่มมีอวิชชา เกิดติดใจหลงไหล ในรูป รส กลิ่น เสียง ในโลก เกิดตัญหาอยากอยู่ในโลก ร่างกายทิพย์นิพพานกลับกลายเป็นร่างพรหม ไม่สว่างเท่าร่างทิพย์นิพพาน เมื่อมองร่างทิพย์ของกันและกัน เกิดมีความผูกพันธ์หลงรักกันมากขึ้น (ราคะตัญหา) จึงเริ่มเกิดมีเพศเป็นเทวบุตร และเทพธิดา จากนั้นมีจิตหยาบหนา มีความโลภในสมบัติของโลก มีความโกรธ ความหลงในตนและผู้อื่นร่างเทวดาจึงตกต่ำกลับกลายเป็นคนมีขันธ์ 5 เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาทคือสาเหตุของการเวียนว่ายตายเกิด มี กาย เวทนา มีสัญญา ความจำได้ หมายรู้ มีสังขาร ความคิดดีคิดชั่ว มีวิญญาณ คือมีระบบประสาท ความรู้สึกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย อารมณ์ดีๆ ร้ายๆ รักผิดเพศ ผิดลูกสามีภรรยา ดื่มสุรายาเมา ทำความเดือดร้อนยุ่งยากแก่ผู้คนรอบข้าง องค์พระบรมธรรมบิดาผู้ทรงควบคุมดูแลดวงจิต ของลูกๆทุกคนอยู่จึงต้องจัดการสร้างนรกขึ้นมาทำโทษกักขัง สอนสั่ง ผู้มีจิตชั่วช้า ไม่มีเมตตาต่อผู้อื่น เมื่อพ้นจากขุมนรก ได้พัฒนาจิตดีขึ้น เป็นคนมีศีล 5 ครบ เคารพพระศาสดา ไม่หลงในโลกียสมบัติ เทวสมบัติ กลับคืนสู่นิพพานตลอดกาลนานไม่ต้องกลับมาเรียนรู้ในโลกมายาสมมุตินี้อีก องค์พระบรมธรรมบิดาสร้างสวรรค์ 6 ชั้น ไว้แบ่งแยกดวงจิตของคนที่ตายไปแล้วตามความดีงาม รู้จักให้ทานมีศีล 5 ครบ เคารพพระศาสดา แต่ยังติดใจหลงไหลในสิ่งที่สวยสดงดงามในโลกองค์พระบรมธรรมบิดาสร้างพรหมขึ้นมา 16ชั้น แยกดวงจิตที่มีเมตตามีศีล 5 ครบ มีจิตเป็นสมาธิเป็นหนึ่งกับคุณงามความดี มีศีล ทาน ภาวนา แผ่เมตตา และท่านที่ก่อนตาย จิตไปติดในรูปฌาน คือรูป อรูปฌาน คือรส กลิ่นเสียงและสัมผัส องค์พระบรมธรรมบิดาทรงมีพระมหาเมตตา ส่งองค์พระศาสดาหลายศาสนา ให้มาสั่งสอน คน เทวดา พรหม ให้ทำคุณงามความดี กลับคืนสู่สวรรค์นิรันดร ทำความดีต่อไปพระนิพพาน เป็นการจบหลักสูตรเรียนรู้ รูปธรรมโลกธรรม เป็นนิพพานถาวรพระองค์ท่านดลจิตดลใจให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ วิชาการใหม่ๆ ค้นคว้าหายาใหม่ๆ วิธีการง่ายๆทันสมัยมารักษาโรค ส่งพระโพธิสัตว์เจ้ามาเกิด ส่งนักวิศวกรรมมาพัฒนาโลกเทคโนโลยีหาวิธีการสื่อสารให้ดีและง่ายขึ้น เพื่อปวงมนุษย์จะได้อยู่เป็นสุขสบาย จิตพุทธประภัสสรที่ไปลุ่มหลงอยู่ในกายคน สัตว์ ผี สัตว์นรกยังไม่ฉลาด ไม่สะอาดพอที่จะกลับคืนนิพพาน รอรวบรวมบุญบารมีทั้ง 10 ประการ มี ศีล ทาน เมตตา อธิษฐาน เนกขัมมะ การบวชจิตไม่มีกิเลสมารบกวนจิตใจ มีขันติ ความอดทน ไม่ติดใจในรูป รส กลิ่น เสียง วิริยะ ความเพียร พื่อพระนิพพานอย่างเดียว สัจจะ มีความจริงใจในศีล สมาธิ นิพพาน ปัญญาจิตให้รู้ว่าทั้ง 3 โลกเป็นรูปมายาของสมมุติกันขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น อุเบกขาบารมี มีจิตเฉยๆไม่ยินดียินร้ายกับความแปรปรวนยุ่งเหยิงเป็นทุกข์ และสูญสลายตายไปของร่างกายเพราะจิตใจไม่ได้ตายตามรูปวัตถุธรรม ที่เป็นของชั่วคราวทั้งสิ้น ท่านผู้ใดไม่เห็นดี คัดค้านว่าธรรมะอะไรจะง่ายเกินไป ก็ขอให้ปล่อยวางไม่สนใจเสีย อย่าเพิ่งเก็บไปวิพากษ์วิจารณ์ หรือตำหนิติเตียน เพราะดิฉันกลัวว่า ท่านจะทำความผิด ทำบาปใหญ่หลวง โดยไม่รู้ตัว เป็นการบังอาจ ไปปรามาสองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา พระองค์ท่านโปรดเมตตาอนุญาตให้ลูกทุกคน ทุกท่าน ทำงานฉุดช่วยสรรพจิตวิญญาณทั้ง 3 โลก แบบทางลัดทางง่ายมาก เพราะความเป็นเลิศมหัศจรรย์ของพลังแสงทิพย์นี้ เป็นบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่ ถ้าจะเอาแต่งานสอนพระกรรมฐาน ท่านตรัสว่าช้าไปไม่ทันกับเหตุการณ์ในยุควิกฤตกาลที่มีแต่ภัยอันตรายในเวลานี้ เพราะชาวโลกตกนรกกันถึง 90 % ถ้าท่านผู้อ่านเชื่อ มีจิตศรัทธาและเห็นดี รีบขอรับพลังแสงทิพย์นิพพานได้ง่ายๆ ด้วยการอธิษฐานจิตขอรับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์เอาเอง ท่านก็จะพ้นจากนรก พ้นบาปกรรม ไปสวรรค์ได้อย่างสบาย แต่ถ้าท่านปรามาสงานบุญกุศล สูงส่งวิเศษยิ่งนี้ ท่านจะได้รับบาปกรรมโดยที่ท่านไม่ทันรู้ตัว แทนที่จะได้ไปพักสวรรค์ พรหม หรือ นิพพานง่ายๆ กลับกลายไปเสวยความทุกข์ร้อนทรมานในนรกเป็นเวลานานแสนนาน แม้กระทั่งถึงองค์พระศรีอริยเมตไตรย มาตรัสรู้ ก็ยังไม่พ้นจากนรก เปรต อสุรกาย หรือ สัตว์เดรัจฉาน |
ในช่วงเวลาที่เกิดกลียุค วาตะภัย ไฟบรรลัยกันต์จากสารเคมี จากอาวุธนิวเคลียร์ที่ทดลองใช้ รวมกับมนุษย์สร้างอาวุธประหัตประหารกันเอง เกิดภัยธรรมชาติแปรปรวนทำให้ผู้คนล้มตายกันมากมาย ผู้ที่ได้รับแสงทิพย์นิพพานนับว่าเป็นผู้โชคดี มีบุญมหาศาล จะปลอดภัยจากอันตรายทุกชนิด ถ้าหมดอายุขัยก็มีสวรรค์เป็นที่ไป บุญใหญ่ในที่นี้ก็คือ บุญพลังแสงทิพย์จะปิดกั้นประตูนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานได้แน่นอน วิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีก้าวไกลอย่างไรก็ไปไม่ถึงสวรรค์ นิพพาน การแสวงหาจิตธรรมญาณเดิม คือจิตพุทธะประภัสสรเป็นจิตนิพพานมากาลก่อน เป็นของที่นำความสุขใจสุขกายในชาตินี้ ดีกว่ามีอำนาจวาสนา วิชา เงินทอง ความก้าวหน้าในโลกทั้งหมดทุกสิ่งเป็นของสมมุติแปรปรวนสูญสลายทั้งสิ้น จิตเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ตัวจริงของเรา กายเน่าเหม็นเป็นของปลอม การบรรลุมรรคผลไม่ใช่ของยาก การปฏิบัติก็ทำให้จิตใจให้ใสสะอาด ไม่หลงไหลในกายเรากายเขา จิตแรกเริ่ม เป็นจิตพุทธะประภัสสร เป็นจิตพระอริยเจ้ากันทุกคน จิตเดิมแท้ไม่ยึดเหนี่ยวไม่เกาะเกี่ยวในของสมมุติที่เป็นดิน น้ำ ลม ไฟ คือร่างกายของคนสัตว์ การบำเพ็ญธรรมจึงควรบำเพ็ญด้วย จิตใจ เอาจิตสำรวม กาย วาจา ใจ ให้งดงามมีเมตตา วางเฉย เบิกบาน จิตเป็นพุทธะ มาก่อนแล้วทุกคน จิตพุทธะก็มาจากแดนทิพย์นิพพานบ้านที่แท้จริง
100 คนที่ได้รับแสงทิพย์นิพพาน มี 5 % ที่บำเพ็ญธรรมเข้าถึงนิพพาน อีก 95% ตายแล้วไปพักอยู่สวรรค์ รอเวลาองค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยมาตรัสรู้ จึงลงมาเกิดรับฟังพระธรรมเทศนา บำเพ็ญต่อเข้าพระนิพพาน สมัยองค์สมเด็จพระพุทธทีปังกร ช่วยจิตคนเข้านิพพานได้ 200 ล้านดวง สมัยองค์พระศรีอาริยเมตไตรยช่วยจิตคนเข้านิพพานได้ 2 พัน 600 ล้านดวง
อริยสัจ 4 ประการ คือ ความจริงที่ยกระดับคนเป็นอริยบุคคลได้
- มองเห็นว่าร่างกายคน สัตว์ มีแต่ความแปรปรวนเป็นทุกข์
- เข้าใจสาเหตุแห่งทุกข์ว่าจิตใจไปหลงยึดติดร่างกายทำให้เกิดทุกข์ (สมุทัย)
- นิโรธ จะดับทุกข์ทางใจได้ก็ด้วยการสละละปล่อยวางร่างกายออกจากจิต ไม่หลงยึดติดกายอีกต่อไป
- มรรค หนทางเดินแห่งความสุขยอดเยี่ยมของจิต คือ นิพพาน เป็นธรรมญาณ อาศัยกายเนื้อชั่วคราว จิตธรรมญาณ มุ่งนิพพาน เป็นจุดหมายปลายทางของชีวิต
พลังแสงทิพย์อริยทรัพย์ คือ แสงทิพย์จากนิพพานที่พระผู้เป็นใหญ่องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา โปรดประทานอริยฐานะให้แก่ทุกๆคน จากปุถุชนเลื่อนขึ้น 1 ขั้นครั้งเดียวเป็นโสดาปฏิมรรค แล้วให้ปฏิบัติธรรมกันต่อไป ใครได้โสดาปฏิผลแล้ว พระองค์ท่านก็เลื่อนขั้นต่อขึ้นไปอีกขั้น คือ สกิทาคามีมรรค ทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติเพื่อเป็นพระอรหันต์เร็วไว และเพื่อนำจิตใจของปวงชนมนุษย์เข้ากระแสพระนิพพาน ผลบุญนั้นก็มี พลังทิพย์แผ่ถึงบรรพชน 7 ชั้น และลูกหลานอีก 9 ชั้น ได้บุญบารมี ให้บรรพบุรุษลูกๆหลานๆ 7-9 ชั้นได้ทุกๆชาติ ที่เคยร่วมเกิดด้วยกันมา ทั้งเป็นเทพ คน สัตว์ เวียนว่ายตายเกิดหลายๆแสนชาติมากันแล้วทั้งสิ้น
การบำเพ็ญธรรม คือ ทำจิตเราให้เข้าถึงจิตเดิมแท้ ทำจิตให้นิ่งเฉย เบิกบานเป็นธรรมญาณที่วิเศษ กายแท้ซ่อนเร้นอยู่ในกายเน่าเหม็นสมมุติ จิตเดิมแม้เป็นจิตสะอาดว่องไว มีเมตตา มีพลังอภิญญาสมาบัติ สภาวะธรรมชาติอันเดิมของจิต คือ วิมุตติจิต ให้หมั่นระลึกถึงพระนิพพานไว้ วิมุตติจิตอยู่เหนือธรรมชาติในโลกนี้ จิตจะมีพลังบริสุทธิ์เลิศล้ำ เมื่อหมั่นระลึกถึงองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา และองค์พระศาสดาสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นกรรมฐานที่ถึงพระนิพพานได้รวดเร็วเกินคาด พ้นทุกข์ได้ง่ายมากเพราะจิตเดิมสะอาด ฉลาดล้ำเลิศ ผู้รับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์คือผู้ได้รับอภิญญาใหญ่ง่ายๆ โดยไม่ต้องฝึกฝนให้ยาวและยาก (1)
การได้รับอริยทรัพย์หรือได้รับอริยฐานะทางธรรม ถือว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์แล้ว คือ บุญฤทธิ์เป็นอภิญญาใหญ่ทางจิตทางธรรม ดียิ่งกว่า อภิญญาทางกาย การบำเพ็ญธรรมก็เพื่อให้จิตถึงความหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด จิตมีอาสวักญาณ คือ จิตสดใสหลุดพ้นหนีภัยอันตรายจากวัฏฏะสงสาร จิตเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน มีพระนิพพานในชาตินี้ได้ง่ายๆ
ผู้ที่ฝึกมโนมยิทธิมีจิตเป็นทิพย์ สามารถสัมผัสในสิ่งที่ตามองไม่เห็น เช่น ผี สวรรค์ นิพพาน ได้แล้ว ท่านเรียกว่ามีอภิญญาเล็กเป็นโลกียอภิญญา หรืออภิญญาห้าในอภิญญาหก ขาดตกอริยญาณ หรืออาสวักญาณอย่างเดียว
ผู้ที่ได้รับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์ คือ ผู้ได้รับอภิญญาใหญ่เร็วไว โดยไม่ต้องฝึกฝนให้ยาวนาน ได้ง่ายๆจากองค์พระบรมธรรมบิดาจากองค์พระศาสดาทุกๆศาสนา ถือว่าท่านมีอาสวักญาณ เป็นโลกุตระอภิญญาเรียกว่า อภิญญาหกเป็นการตัดอบายภูมิทั้ง 4 ได้ ปฏิบัติจิตไม่หลงไหลติดใจใน 3 โลก จิตมีอิสระเสรีภาพ ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส ตัญหา อวิชชา อุปาทานและ บาปกรรมอีกต่อไป ก่อนตายพระเบื้องบนจะมารับจิตวิญญาณไปสวรรค์ นิพพานตามวาสนาบารมีหลังตายศพจะอ่อนนิ่มไม่แข็งทื่อ ใบหน้าผู้ตาย จะยิ้มสดชื่นเหมือนคนนอนหลับศพไม่เน่าเหม็นไม่ต้องแช่เย็น
เมื่อได้รับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์แล้ว จะฝึกมโนมยิทธิได้ง่ายมากด้วยตนเอง โดยการอธิษฐานขอบารมีพระศาสดาของท่าน แล้วจับความรู้สึกสัมผัสอันแรกว่าจิตเป็นแก้วใส มีประกายแสงสว่างไสวงดงาม ให้น้อมจิตนึกกราบเคารพอธิษฐานขอพระบารมีองค์พระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา โปรดเมตตาประทานวิสุทธิพุทธอนุญาต ให้ดวงจิตที่สะอาดสดใสของลูกเข้าไปอยู่ในท้อง ในพระวรกายพระบรมธรรมบิดาตามในภาพหน้าปก (หน้าแรก) หนังสือนี้ นึกคิดเอาว่า กายทิพย์เราเป็นจุดเล็กๆขอนั่งอยู่บนดอกบัวแก้วที่กายทิพย์เรานั่งไหว้พระสวดมนตร์ ภาวนา หมุนรอบๆเวียนขวาตามเข็มนาฬิกาเป็นทักษินาวัตร หมุนตลอดเวลา(ในความเร็วคลื่น alpha เร็วกว่าคลื่นแสงจากดวงอาทิตย์ 10 เท่า หรือเท่าๆกับคลื่น alpha ที่จักระทั้ง 12 จุดในร่างกายของเราใช้อยู่ ) จนกว่าร่างกายมนุษย์จะสิ้นสุดตายไป
ขอให้ดอกบัวแก้วหมุนเป็นการโมทนาสาธุ และเคารพรักบูชาแด่องค์พระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา อีกทั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ พระศาสดาทุกๆศาสนา พระธรรม พระอริยสงฆ์ คุณพ่อ คุณแม่ทุกๆชาติ หมุนเพื่อสลัดกิเลสตัญหา อวิชชา อุปาทาน ให้หมดสิ้นจากจิตใจ หมุนต่อไปเต็มกำลัง เพิ่มพลังบารมี 10 ทัศ เป็นการตัดกิเลส ตัณหา อวิชชา เครื่องร้อยรัดเราให้มาเวียนว่ายตายเกิด คือสังโยชน์ 10 ให้หมดไปโดยอัตโนมัติ หมุนแผ่เมตตาให้ปวงพี่ๆ น้องๆทั้งหมด ในสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก มีนรกโลก มนุษย์โลก เทวพรหมโลก แรงดอกบัวแก้วหมุนตลอดเวลาไม่ว่าหลับหรือตื่น เพื่อดึงดูดคนดีมีศีลธรรมเข้ามารับพลังแสงทิพย์นิพพาน หมุนไล่เสนียดจัญไร โรคภัยไข้เจ็บ กฏแห่งกรรม คนร้าย ให้ห่างไกลวงจรชีวิตของลูก เพื่อลูกจะได้มีปัญญาช่วยชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ตามความสามารถของลูกจะพึงทำได้
แนวทางปฏิบัติ 5 วิธี ที่จะช่วยสรรพสัตว์เข้าอริยมรรค พ้นอบายภูมิทั้ง 4
- กำหนดจิตนิ่งๆ นึกถึงภาพพระบรมธรรมบิดา ตามหน้าปกหนังสือ ขออัญเชิญพระองค์ท่านมาประทับอยู่ บนศรีษะเต็มหน้าเต็มตัว พร้อมกับภาวนาพระคาถา นะ โม พุท ธายะ หายใจเข้า-ออก ตามสบาย แล้วอธิษฐานขอพลังแสงทิพย์นิพพานใสสว่างยิ่งกว่า ดวงอาทิตย์ พุ่งเข้ามาในดวงจิตที่เป็นแก้วสดใส ให้มีประกายเพชรงดงาม จากนั้นอธิษฐานขอจิตเป็นดอกบัวแก้ว หมุนเวียนขวาด้วยความรักเคารพบูชาโมทนาบุญกุศล ขอหมุนเพื่อตัดร่างกายที่เป็นโทษทุกข์ออกจากจิตสะอาด เพื่อกำจัดกิเลส อุปาทานขันธ์ทั้ง 5 ให้หมดไปเร็วไว หมุนเพื่อแผ่เมตตาฝากไปกับแสงทิพย์ให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ได้โมทนาบุญหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เข้าพระนิพพานโดยฉับพลันทันใด
- อธิษฐานขอทุกท่าน เทพ พรหม คน ผี ได้เห็นโมทนาบุญ ที่เรามีองค์พระบรมธรรมบิดา พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับคลุมร่างกายเราตลอดเวลา บนศรีษะเต็มหน้าเต็มตัว ไม่ว่าหลับหรือตื่นเป็นสมาธิภาวนาจิตเป็นฌาน 4 ใช้งาน
- ขอแบ่งกายทิพย์อีก 1 องค์ จากเบื้องบนพระนิพพานมาตามพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์กับแสงฉัพพรรณรังสี หมุนกายทิพย์ จิตทิพย์อยู่เหนือโลกมนุษย์ ให้ทุกๆดวงจิต ผี คน เทวดา ได้รับทุกๆจุด เพื่อให้โลกอยู่เย็นเป็นสุขสบาย กลับกลายเป้นสวรรค์นิพพานบนดินดังเดิม ตามที่องค์สมเด็จพระบรมธรรมบิดา ทรงโปรดสร้างขึ้นมาไว้แต่แรกเริ่ม
- ท่านใดก็ตามที่ต้องการเพิ่มบุญบารมี ตัดสินใจไปช่วยงานพระศาสดาด้วยพลังแสงทิพย์นิพพานให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ได้รับต่อๆกันไป อย่าได้กังวลใจว่า ตัวเรามีวาสนาบารมีน้อย ไม่สามารถช่วยให้ผู้อื่นหรือสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ให้ได้รับพลังแสงทิพย์ของพระองค์ท่าน ได้เต็มกำลัง ขอให้ทุกท่านทุกคนมีความมั่นใจว่าพลังแสงทิพย์นิพพานเป็นแสงทิพย์แห่งธรรม เป็นงานของพระเบื้องบนตัวเราเป็นสื่อให้ผู้อื่นเท่านั้น ทุกท่านจะได้รับทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้น เพราะเป็นงานขององค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา โปรดมีพระมหาเมตตาให้ได้รับทั้งหมดทั้ง 3 โลก เพียงแต่ พระองค์ท่านต้องการให้มนุษย์ทุกๆคน ที่มีขันธ์ 5 เป็นสื่อกลางให้พี่น้องทั้ง 3 โลก ได้รับผลบุญบารมีของพลังแสงทิพย์อริยธรรม ขององค์พระบรมธรรมบิดาตลอดเวลาที่เราได้แผ่เมตตา (2)
- อธิษฐานขอให้ผู้ที่ได้เห็นวัตถุมงคลทุกชนิดทั้งพระพุทธรูป วัดวาอาราม พระเจดีย์ พระเครื่อง โบสถ์ มัสยิด ไม้กางเขน หนังสือธรรมะ พระคัมภีร์ อีกทั้งตั้งจิตอธิษฐานให้ แสงสว่างแสงไฟ แสงอาทิตย์ แสงไฟนรก แสงทิพย์จากเทพ พรหมโลกเบื้องบน ขอเปลี่ยนเป็นแสงทิพย์อริยธรรมทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้น เพราะเป็นงานขององค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา โปรดมีพระมหาเมตตาให้ได้รับทั้งหมดทั้ง 3 โลก ได้เห็นแสงสว่างทุกชนิด แล้วมีจิตนึกถึงบุญกุศลคุณงามความดี หรือนึกถึงคุณงามคงวามดีไม่ได้ก็ตาม อย่างเช่นสัตว์นรกที่อยู่ในขุมไฟ ก็ขอพลังแสงทิพย์นิพพานโปรดไปกระตุ้น ดลจิตดลใจให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย นึกถึงคุณงามความดีให้ได้ เพื่อจะได้รับบุญจากพลังแสงทิพย์นิพพาน จะได้พ้นโทษทุกข์จากบาปกรรมในนรกเร็วไว ไปสวรรค์นิพพานได้รวดเร็วทันใจ และผู้ที่มีจิตเป็นกุศลระลึกถึงองค์พระศาสดาของท่าน ก็ขอให้ได้รับพลังแสงทิพย์อริยธรรมนี้ทุกๆคน รวมทั้ง ผี เทวดา ในโลกนี้
แรงดัน เป็นอุบายให้วางจิตไว้ตรงกลางระหว่าง 2 ส่วน เช่น สมองกับใจ, ใจกับเวทนา, บาปกับบุญ, ขาวกับดำ ฯลฯ สะสมความเป็นกลางให้มากขึ้นๆๆ ความเป็นกลางอาจจะขยายใหญ่ขึ้นๆ จนระเบิด หรือขยายใหญ่ขึ้นจนสามารถทำลายได้ทั้งสองส่วน (พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสรู้ด้วยวิธีเดียวกันนี้ ท่านวางจิตไว้ระหว่างรูปกับอรูป) และด้วยเหตุผลเดียวกับการใช้แรงเฉื่อย หรือแรงเหวี่ยง ให้มากกว่าโลก 1 วินาที ก็นำมาฝึกปฏิบัติฯในเวลานี้ได้ยากเช่นกัน