เกี่ยวกับรูปทรงพีระมิด |
Great Pyramid โครงสร้างและวัสดุ : Limestone Granite ความสูง : 149.5m (ความสูงในปัจจุบัน 137m.) ฐาน : 214.5m(เท่ากันทุกด้าน) มุมลาดเอียง : 51 องศา น้ำหนักรวม : 65 ล้านตัน (หินแต่ละก้อนประมาณ 2.5 ตัน ก้อนหนักที่สุดถึง 9 ตันติดตั้งด้วยพลังเส้นแสง) หลายปีมานี้ รูปทรงของตัวพีระมิดเองได้สร้างประสบการณ์ และความสนุกทางด้านพลังงาน ให้กับผู้สนใจและทดลองใช้มากมาย ทำให้กลายเป็นจุดสนใจต่อผู้คนต่างๆทั้งโลกที่จะค้นหาพลังที่แท้จริงของมัน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร? ฃึ่งส่วนมากได้นำไปทดลองใช้ในด้านต่างๆแล้วได้ผลดีมากมาย ตัวอย่างเช่น... ด้านอาหาร,การเกษตร และการเลี้ยงสัตว์ การนำพืช อาหารหรือสิ่งมีชีวิตที่เติบโตได้ ไปเลี้ยงดูในพีระมิด ผลที่ได้รับคือ : -อาหารยังคงสด ได้ยาวนานกว่าดิม 2-3 เท่า -อาหารเปลี่ยนรสชาติไป โดยรสในธรรมชาติจะถูกขยายให้แรงขึ้น ความเป็นกรดจะลดลง -กลิ่นอาหารที่ถูกปลอมปน จะจางหายไป -พีระมิดจะขจัดน้ำออก ทำให้แห้งแต่ไม่เน่าเสีย หยุดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ -การเลี้ยงกุ้งน้ำเค็ม ปกติมีอายุ 6-7 สัปดาห์ แต่ภายในพีระมิดอายุเกินไปถึง 3 เท่า -สัตว์ที่อาศัยอยู่ รอบๆบริเวณ นิสัยไปในทางบวก แมวกับหมาอาศัยอยู่ร่ามกันได้อย่างประหลาด สัตว์ภายในองค์พีระมิดได้รับพลังปราณ พลังมโนธาตุจากจักรวาล ทำให้จิตเกิดพลังเมตตาต่อกัน และตัดพลังเส้นแรงแม่เหล็กที่หนักจากกาแลกซี่ทางช้างเผือกส่งขึ้นสู่ยอดพีระมิดตามแนวเส้นแสงของพีระมิด และยานอวกาศของพวกดาวอังคารยังใช้เส้นแสงในพีระมิดเป็นเครื่องมือสำหรับขึ้นลงของยาน และใช้ในการเดินทางใกล้ๆ รวมทั้งใช้ในการสื่อสารอีกด้วย ด้านการแพทย์ -แผลที่เย็บหายไว และติดกันเร็วขึ้น2เท่า -ความดันโลหิตที่ผิดปกติ กลับมาสู่จุดสมดุลย์ได้ -คนที่เฉี่อยชา กลับดูกระฉับกระเฉงขึ้น -ผู้ที่มีอาการทางสมอง มีผลลัพธ์ไปในทาวบวกเร็วขึ้น การนั่งสมาธิกับพีระมิด -คลื่นสมองอัลฟาเพิ่มขึ้น -สงบนิ่ง ดิ่งลงลึกมากกว่าเดิม -เมื่อถ่ายภาพด้วยกล้องแสงออร่า แสงสว่างปรากฎเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลอื่นๆ ที่เกิดขึ้น.... -บางคนมีอาการปวดเสียวคล้ายหนามแทงบนผิว (เป็นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆที่ผิวหนัง) -บางคนมีอาการคลื่นไส้ เนื่องจากสารพิษในร่างการถูกขับออกมา -อุณหภูมิร่างายเพิ่มสูงขึ้น (เหมือนได้ออกกำลังกาย) -การบิดเบือนกาลเวลาให้ช้าลง (เข้าไปใช้ในช่วงสั้นๆแต่กลับรู้สึกว่าได้พักผ่อนเต็มที่) ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังของพีระมิด กล่าวไว้ว่า.... เหตุทีเป็นเช่นนั้นอาจเนื่องมาจาก รูปทรงของมันสามารถขยายคลื่นสัญญาณได้ โดยมีตัวเราเป็นผู้ส่งคลื่น คล้ายเครื่องรับและเครื่องส่ง โดยพีระมิดพยายามสร้างแรงสั่นสะเทือนเคลื่อนย้ายอะตอมที่เป็นส่วนเกินออกไป คงให้เหลือ ไว้เฉพาะอะตอมต้นกำเนิดเท่านั้น ธาตุของคลื่นผู้ส่ง และมุมเวกเตอร์ของพีระมิด สร้างรูปแบบของพลังงาน ให้เกิดความถี่สั่นสะเทือนและขยายให้แรงขึ้น ใหญ่ขึ้นได้ และจัดเรียงโมเลกุลใหม่ เช่นโมเลกุลของธาตุน้ำทรงแปดเหลี่ยม ให้เป็นแบบแถวเดี่ยวอีกครั้ง... ปฎิกริยาของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมของพีระมิด -หลับได้สนิทภายใต้โครงสร้างรูปพีระมิด -ให้ความรู้สึกทั่วไปเป็นบวก -เมื่อหันถูกทิศทาง ระบบเลือดจะไหลเวียนได้ดี ไม่อุดตัน (วางตามแนวแกนแม่เหล็กโลก) -ถ้ามีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน แสดงว่าร่างการจะขับสารพิษออกมาจากร่างกาย (ไม่ต้องกลัวครับ..) การสร้างพีระมิดด้วยตัวเอง (ลองทำกันดูครับ..แล้วมาเล่าผล หรือประสบการณ์ให้ฟังกันบ้างนะครับ..) ที่ผ่านมาได้มีการสร้างพีระมิดจำลองหลายแบบ หลายขนาด โดยหลักๆก็คือต้องมีโครงสร้างที่ถูกต้อง (สัดส่วนและมุมที่ถูกต้องก็คือ 52.606 องศา) จะมีผนังหรือไม่มีผน้งก็ได้ บางคนสร้างครอบเตียงนอน หรือ ทำพีระมิดเล็กๆด้วยกระดาษสีส้มหรือแดง วางเรียงใว้ใต้เตียงเป็นแถวๆแบบอนุกรม ก็ได้ ถ้ามีงบมากหน่อยก็สร้างเป็นบ้านเลยครับ.. ลืมบอกไปครับ..ถ้าวัดมุมไม่ถูก ก็ใช้สัดส่วนสามเหลี่ยมนี้ครับ สมมุติว่าฐาน 12 นิ้ว ส่วนมุมลาดเอียงทั้งสองด้าน= 11.5 นิ้ว ถ้าต้องการฐาน 24 นิ้ว เส้นลาดเอียงสองด้าน=23 นิ้ว วาดบนวัสดุที่ต้องการแล้วตัดมาประกอบกัน จะใกล้เคียงที่สุดครับ การจัดแนวพีระมิด ตามความเชื่อของคนในยุคโบราณ ที่ว่าสวรรค์และความอมตะ จะอยู่ทางทิศเหนือ จึงใช้ดาวทิศเหนือ (Polaris) เป็นตำแหน่งที่ด้านหนึ่งของพีระมิดจะต้องหันไปทางด้านนี้ ชึ่งกลายเป็นว่าพลังอำนาจแม่เหล็กโลกก็มีส่วนสำคัญไปด้วยในแนวเหนือ-ใต้นี้ จากการทดลองที่ผ่านมา วัสดุที่ทำจากทองแดงจะดีที่สุด และจุดที่อยู่ในตำแหน่งความสูง 1ใน3 จากพื้นจะให้พลังงานที่เข้มข้นที่สุด (King Chamber) "สี่เหลี่ยม" เมื่อเราเอามือดึงจุดตรงกลางขึ้น จะเป็นรูปทรง"สามเหลี่ยม" พีระมิดก็เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม 4 ด้านประกอบเข้าด้วยกัน มีมุมถึง 12มุม เลขฐาน 12 ถือเป็นเลขที่มีพลังสูงสุดในจักรวาล (ตรงนี้เป็นเหตุที่พวกชาตาน ใช้เลข 13 เพื่อให้ดูว่ามีพลังเหนือกว่าพระเจ้า) (ต่อไปนี้เป็นการเล่าเรื่องการใช้พีระมิดจากประสพการณ์ สืบเนื่องจากการใช้แถบพีระมิด และแกนพีระมิด ช่วยการฝึกวิปัสสนาสมาธิ ตามวิธีการของพระอาจารย์รัตน์ เมื่อได้ฝึกไประยะหนึ่ง จะปรากฏว่าเราทั้งตัวเข้าไปนั่งอยู่ในพีระมิดขนาดใหญ่ และใช้จิตสั่งให้มีขนาดต่างๆได้ตามต้องการ จึงนำไปทดลองใช้กับการขับรถทางไกล ให้รถยนตร์วิ่งอยู่พีระมิดขนาดใหญ่ ในบริเวณ King Chamberปรากฏว่าคันเร่งจะเบาขึ้นในขณะที่รถยังวิ่งได้เร็วเท่าเดิม คือใช้เชื้อเพลิงน้อยลงนั่นเอง พลังงานเส้นแรงแม่เหล็กที่คลุมผิวโลกอยู่ในขณะนี้ ได้ถูกพีระมิดตัดออกไป รถที่วิ่งอยู่จึงลดแรงปะทะของเส้นแรงแม่เหล็ก คงเหลือแต่อากาศที่มาปะทะรถ ทั้งนี้พีระมิดที่สั่งงานโดยจิตช่วยให้คันเร่งเบาขึ้น จึงสะดวกกับการใช้ในสถานที่ต่างๆ อีกหลายรูปแบบ นอกจากอาจต้องใช้พีระมิดตัวจริงในการป้องกันฝน ยังไม่ได้ทดลองใช้พีระมิดส่วนตัวว่า จะประยุกต์ใช้งานต่างๆได้อย่างไรอีกบ้าง คงต้องค่อยๆทดลองใช้ไปเรื่อยๆ ทราบว่าชาวดาวอังคาร มีความเชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จากพีระมิดมาก แม้การขึ้นลงจอดของยานอวกาศ UFO ข่าวอัฟเดทล่าสุดจากพระอาจารย์รัตน์ เมื่อ 29 มกราคม 2554 ได้รับรายงานจากลูกศิษย์ที่ทำงานในองค์การนาซ่า ได้นำเครื่องไล่อากาศเสีย หรือเครื่องเรียกฝนด้วยพีระมิดของพระอาจารย์ ที่สร้างมาแล้วร่วม 10 ปี ไปเดินเครื่องที่บริเวณรัฐฟลอริดา ปรากฏว่า พายุเฮอริเคน ที่เคยแวะมาเยี่ยมเยียนรัฐนี้เป็นประจำแทบทุกปี จางหายไปนับตั้งแต่เครื่องทำงาน เพื่อประกอบการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เพื่อจะได้นำลงในเจอร์นอลทางวิทยาศาสตร์ต่อไป ให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเห็นความสามารถของพระภิกษุไทย จะได้กระตุ้นให้มนุษย์ฉุกคิดถึงการฝึกจิตในสัมมาทิฐิใช้วิธีการของพระพุทธองค์มากขึ้น ส่วนอีกเครื่องนำไปใช้กับรัฐฯทางตอนเหนือที่มีหิมะตก ก็ปรากฏว่าสามารถลดจำนวนหิมะได้ประมาณ 3 เท่าตัว ในการสาธิตต่อผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่กรมอุตุที่สวนบูรณรักษ์ธรรม เมื่อปี 2552 นั้น เครื่องมือตรวจวัดความชื้นในอากาศของเจ้าหน้าที่กรมอุตุฯพบว่า ปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดเครื่อง จนเกิดเมฆฝนในบริเวณนั้นเข้ามารวมตัวมากขึ้น และมีฝนตกลงมาในบริเวณนั้น ในตอนนั้นพระอาจารย์ใช้อุปกรณ์เครื่องเล็กที่มีรัศมีทำการ 5.6 กิโลเมตร ต่างกับเครื่องเรียกฝนปัจจุบัน มีรัศมีทำการ 19 กม. ครอบคลุมพื้นที่ได้ประมาณ 70,000 ไร่ หรือประมาณ 1 อำเภอ จากผลรายงานการนำไปทดลองทำงานวิจัยในสหรัฐฯ พระอาจารย์เน้นว่า อันที่จริงเครื่องเรียกฝนหรือช่วยกรองอากาศเสียให้คืนดี เช่นที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ขอยืมพระอาจารย์นำไปช่วยขจัดควันพิษ ที่เกิดจากโรงงานประกอบวัตถุระเบิด ในมะนิลาเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อหลายปีก่อน ปรากฏว่าใช้เวลาไม่นาน ควันพิษได้ลดปริมาณลงไปประมาณ 90 % อากาศก็กลับมาสว่างใส ซึ่งก็เป็นปริมาณใกล้เคียงกับเจ้าของโรงพิมพ์เอกสารในเขตปริมณฑล กทม. ที่นนทบุรี ซึ่งโรงงานนี้มีพนักงานทำงานทั้งสิ้นประมาณ 1,000 คน ต่างทรมานมากด้วยอากาศภายในโรงงานเหม็นสารเคมีจากหมึกพิมพ์มาก พนักงานที่มาฝึกสมาธิและวิปัสสนากับพระอาจารย์ จึงได้นำเครื่องเล็กไปใช้ภายในห้องทำงานของตน ที่โรงงานนั้นก่อน เมื่อใช้ได้ผลดี เพื่อนๆต่างพอใจ จึงทราบไปถึงตัวเจ้าของโรงงาน เมื่อเห็นผลอย่างนั้น จึงมาสั่งเครื่องขนาดใหญ่ไปติดตั้งครอบคลุมทั้งโรงงาน ช่วยให้อากาศดีขึ้นประมาณ 90 % เช่นเดียวกัน ทำให้มองเห็นชัดเจนว่า เครื่องมือพิเศษที่พระอาจารย์รัตน์ ได้ประกอบขึ้นนี้ สามารถใช้เป็นศูนย์ป้องกันภัยพิบัติได้เลย ควบคุมทั้งฝน และลมพายุขนาดใหญ่ที่มีความเร็วสูง ให้ยุบตัวลงได้ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับพายุนาร์กีส ที่ชายแดนไทยภาคเหนือ เมื่อ ปี 2551 นั่นเอง ส่วนเครื่องมือของพระอาจารย์รัตน์ สามารถอ้างอิงผลงานได้จาก ภัยธรรมชาติได้ลดลงมากที่สหรัฐฯ ในรัฐฯที่ลูกศิษย์ของพระอาจารยย์กำลังนำไปทำการวิจัยอยู่นั่นเอง ส่วนเครื่องเรียกฝนขนาดรัศมีทำการ 19 กม. ขณะนี้พระอาจารย์ได้บริจาคเครื่องไปติดตั้งแล้วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือมากกว่า 50 จุด ที่ผู้ใช้ในบริเวณดังกล่าวมีน้ำฝนราคาถูกใช้เพียงพอกับอาชีพเกษตรกรรม แต่ทุกๆเครื่องไม่ควรเปิดทิ้งไว้ ให้เปิดใช้เครื่องเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้น้ำฝน เพื่อให้ดินมีความชื้นเพียง 20 % ก็จะเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการทำงานของจุลินทรีย์นับล้านๆชีวิตในดิน และรากของพืชดูดน้ำไปใช้ในการดำรงค์ชีวิต เมื่อพื้นที่มากกว่า 75 % ของพื้นที่ทำเกษตรกรรมทั่วประเทศ ที่ต้องพึ่งพาน้ำฝนเพียงอย่างเดียว หากมีน้ำจากฟ้าใช้เพียงพอตลอดทั้งปี ก็จะสามารถผลิตพืชผลต่างๆให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ยกเว้นแม้ฤดูหนาวที่พืชผลหบลายๆชนิดหยุดการเจริญเติบโต เรามีเทคโนโลยี่ก้าวหน้าช่วยได้ให้พืชเจริญเติบโตได้เป็นปรกติ และยิ่งกว่านั้นสามารถนำ ระบบเอ็นฟังก์ชั่น เข้าไปต่อยอด ทำเกษตรอินทรีย์ที่ประชากรทั่วโลกต้องการได้อีกด้วย และยังไม่เกี่ยวกับฤดูกาลแม้ในหน้าหนาว ก็สามารถทำการผลิตพืชผลที่ เอ็นฟังก์ชั่น จะเข้าไปปรับสมดุล และเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่พืชได้อีกด้วย และปัจจุบันทั่วโลกกำลังร้อนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ตราบใดที่ยังไม่ถึงจุดวิกฤต โดยมีตัวชี้วัดด้วยปริมาณ คาร์บอนไดออกไซด์ ปัจจุบันอยู่ที่ 395 พีพีเอ็มจุดวิกฤตอยู่ที่ 450 พีพีเอ็ม หากยังเป็นเช่นปัจจุบันก็คงอีกไม่นานแล้ว ทีนี้บริเวณที่ใช้เครื่องเรียกฝนพีระมิดของพระอาจารย์รัตน์ นั้น ความชื้นในอากาศจะมีมากขึ้น ช่วยลดปริมาณความร้อนในอากาศในบริเวณนั้นลง เช่นเดียวกับที่ในหลวงทรงรับสั่งหน่วยยทำฝนหลวง ทำฝนเทียมตลอดชายแดนไทยพม่า ในภาคเหนือล่วงหน้าก่อนพายุนาร์กีส เข้าพม่า 2-3 วัน ช่วยลดแรงลลมของพายุจากความเร็ว 240 กม./ชม. ลงกลายเป็นพายุดีเพรสชั่น เมื่อพายุเข้ามาเขตประเทศไทย ช่วยป้องกันประเทศอย่างมหาศาล ทั้งๆที่กรมอุตุ หลับไหล ไม่รู้ไม่เห็นใดๆทั้งสิ้น ในการเตรียมการป้องกันภัยจากธรรมชาติ นี่แหละที่เป็นการปิดทองหลังพระ ที่พระองค์ทรงตรัสบ่อยๆนั่นเอง แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดคนส่วนใหญ่จึงไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง ที่พระองค์ท่านได้ช่วยประเทศเอาไว้มากมาย จึงได้รู้ได้ทราบเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดเท่านั้น โดยหลักการเดียวกัน เมื่อเรามีเครื่องมือหนึ่งเดียวของโลก ที่ก้าวหน้าไฮเทคมาก และประหยัด ใช้เพิ่มความชื้นในอากาศ และเรียกฝนจากฟ้าลงมาใช้ อย่างประหยัด ไม่ต้องขุดบ่อกักเก็บ ไม่ต้องสร้างฝาย ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ต้องจ่ายใต้โต๊ะอีกมหาศาล ไม่ต้องติดตั้งระบบชลประทานให้แก่ไรน่า และทำได้รวดเร็วใช้งบประมาณต่ำ เพียงเครื่องละประมาณ 1 หมื่นบาทเท่านั้น ส่วนกระแสไฟฟ้าก็ไม่มาก ส่วนการสำรองไฟฟ้าในอนาคตก็ต้องจัดเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขนาดเล็กใช้ไบโอดีเซลจากน้ำมันธรรมชาติ เช่นจากเม็ดสะบู่ดำเป็นต้น และที่สำคัญมาก มีผลต่อการช่วยลดความอดอยากขาดแคลนอาหารในอนาคต ที่ปริมาณความร้อนที่เพิมขึ้นในโลก จะมีผลต่อการผสมพันธุ์ของพืชผักมาก ที่เราสามารถควบคุมอุณหภูมิในอากาศในบริเวณนั้นเอาไว้ ไม่ให้สูงเกินขีดที่ดอกไม้จะผสมเกษร ท่านคงทราบว่า ที่อุณหภูมิ 45 องศาเซ็นเซียสขึ้นไป เกษรจะแห้งไม่สามารถผสมเกษรได้ แล้วท่านจะมีข้าวรับประทานที่ไหน รวมถึงพืชผลอื่นๆเช่นเดียวกัน...ที่พระพุทธทำนายเอาไว้ว่า โลกมนุษย์จะประสบข้าวยากหมากแพงนั้น.... มันเนื่องมาจากโลกร้อนขึ้นด้วยน้ำมือของมนุษย์นี่เอง ที่พระพุทธองค์ท่านไม่ได้ลงรายละเอียดเท่านั้นในเวลานั้น) วิธีปักธูปบูชาพระ การจุดธูป 3ดอก เมื่อเราปักลงไปในกระถางทราย ตำแหน่งก็จะ เป็นสามเหลี่ยมเสมอ เป็นการสร้าง"สาม เหลี่ยมทางพลังงาน" เพื่อสื่อกับจิตระดับสูง เพื่อเหนี่ยวรั้งพลังงานด้านบวก เข้ามา ให้บริเวณนั้น"บริสุทธิ์" การ ที่เรานั่งสมาธิ หรือก้มลงกราบพระ พลังงานจะถูกถ่ายเทจากพระพุทธรูป มาที่ตัวเรา ยิ่งกราบด้วยศรัทธามากเท่าใด ก็จะอิ่มเอมเบิกบานมากขึ้นเท่านั้น เรียก ว่าเกิดการเหนี่ยวรั้งทางพลังงานที่เป็นด้านบวกครับ.. |