ข้อมูลต่อไปนี้เหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม โดยใช้ ลูกแก้วจักพรรดิของหลวงปู่ เป็นตัวช่วย
|
เมื่อผู้เขียนได้รับมอบหมายจากหลวงปู่ ให้สร้างลูกแก้วสารพัดนึก โดยใช้ปูนซีเมนต์ขาวผสมผง ตอนแรกผู้เขียนจะทำ ๑๐๘ องค์ ท่านบอกว่าไม่พอ อีกหน่อยจะหายาก ลูกละพันยังหาไม่ได้ ท่านได้บอกเคล็ดลับของการเสกว่า ถ้าจะรู้ว่าใช้ได้หรือยังต้องดูในที่มืดๆ จะมีแสงสว่างนั้นแหละใช้ได้แล้ว นอกจากนี้ท่านยังให้เจาะเป็นช่องว่างตรงกลางไว้ ตอนแรกผู้เขียนจะขอท่านไม่ต้องเจาะ ท่านบอกไม่ได้เดี๋ยวจะเหมือนลูกกระสุน ซึ่งเด็กสมัยก่อนจะรู้ คือ นำดินเหนียวมาปั้นก้อนกลมๆ ไว้สำหรับใช้กับหนังสติกเพื่อยิงนก รูที่เจาะให้ว่างนั้นแทนอากาศธาตุ เวลานั่งภาวนาเกิดแสงสว่าง พวกแกก็ไปตามแสงสว่างนั้นแหละจะไปถึงวิมานแก้ว ที่อยู่ของพระพุทธเจ้า จะเห็นลูกแก้วลอยเต็มวิมาน ให้ขอท่านแล้วอธิษฐานกลืนไว้ตรงทรวงอก มีลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นนักปฏิบัติ ได้มาเจอกับผู้เขียนที่หน้ากุฏิหลวงปู่ ขณะนั้นท่านกำลังถวายข้าวพระอยู่ ลูกศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งเลยให้เขานั่งดูสักครู่เขาบอกว่าหลวงพ่อกำลังถวายของ พระพุทธเจ้า อยู่บนวิมานแก้ว มีพระมากมาย ผู้เขียนเลยบอกว่าถ้าเห็นพระแล้วทำอย่างไรต่อ เขาบอกไม่รู้ ลูกศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งเลยพูดว่าหลวงปู่บอกไว้ ถ้าเจอพระให้อธิษฐานเรียกพระเข้าตัว เขาก็ทำตาม และบอกว่าหลวงพ่อองค์นี้ไม่น่าจะธรรมดา เพราะตอนที่ท่านประสิทธิพระเครื่องให้เขาเห็นแต่งตัวแบบเทวดา พอลืมตามาเห็นท่านยิ้มๆ มาครั้งหลัง เขาบอกว่ามาพบ หลวงปู่ท่านเป่าหัวให้สว่างไป ๗ วัน คุยกันไปคุยกันมา ผู้เขียนเลยให้เขานั่งดูลูกแก้วมหาจักรพรรดิ (แก้วสารพัดนึก)เขานั่งสักครู่ แล้วบอกว่าตรงกลางลูกแก้วเห็นเป็นแสงสว่าง เลยให้เขาเดินจิตไปไหว้พระพุทธเจ้า จนไปถึงพระพุทธรูปองค์ที่ ๔ พอไปถึงองค์ที่ ๕ พออธิษฐานก็เห็นพระหน้าตัก ๒๐ วา ตามที่หลวงปู่บอกไว้ ลูกศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งให้เขาอธิษฐานเข้าไปในองค์พระ เขาเห็น พระศรีอาริย์ นั่งอยู่ตรงกลาง หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดอยู่ขวา หลวงปู่ดู่อยู่ซ้ายมือของพระศรีอาริย์ ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่บอกว่าขอให้อธิษฐานว่า หลวงปู่ทวดกับหลวงปู่ดู่ เป็นองค์เดียวกันหรือไม่ หรือท่านจะเป็น อัครสาวกเบื้องซ้ายขวา ของพระศรีอาริย์ในอนาคต อธิษฐานเสร็จเขาบอกว่า เห็นทั้งสามองค์ มารวมเป็นหลวงปู่ดู่ แสดงว่าทั้ง สามองค์เป็น องค์เดียวกัน ตั้งแต่นั้นมาเขามีความเคารพหลวงพ่อมาก เพราะจากประสบการณ์ที่ลูกแก้วมหาจักรพรรดิ์แสดงให้เขารู้เห็นด้วยตัวเอง มีลูกศิษย์ของท่านเป็นคริสต์ แต่ได้มาปฏิบัติ ขณะที่นั่งปฏิบัติที่กรุงเทพ หลวงปู่ทวดมาโปรดในนิมิต เมื่อหลวงปู่ยกมือขึ้นประทานพร เขาเห็นรูปผีเสื้อ ตรงกลางฝ่ามือ เขารีบขับรถจากกรุงเทพฯ มาหาหลวงปู่ที่วัด หลังจากกราบหลวงปู่แล้วเขาก็ขอดู เห็นเป็นรูปผีเสื้อจริง หลวงปู่ท่านบอกว่า “หลวงปู่ทวด ไม่ใช่ข้าแสดงท่านเป็นครูบาอาจารย์ ท่านจะทำอย่างไรก็ได้ เออ...โมทนาสาธุด้วย” หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า มีชาวบ้านแถบวัดสะแกเป็นผู้หญิง ปฏิบัติเก่ง อยากเห็นพระศรีอาริย์ มาก จึงขอหลวงปู่ทวด ช่วยพาไปวิมานพระศรีอาริย์ เมื่อไปถึง เขาบอกหลวงพ่อว่าเป็นเหมือนโรงลิเกประดับประดาอย่างสวยงามหลวงปู่ทวดบอกว่า แกรอประเดี๋ยว พระศรีอาริย์ ท่านจะออกมาจากฉากคอยดูให้ดี หลวงปู่ทวดหายไปสักครู่ ก็มีพระศรีอาริย์เดินออกมาจากฉาก พอพระศรีอาริย์หายไป เป็นหลวงปู่ทวดเดินมา เธอเลยถามหลวงปู่ว่าไหนล่ะพระศรีอาริย์ หลวงปู่บอกว่าแกก็ดูเองซิสลับกันไปมาเช่นนี้ จนปฏิบัติเสร็จเขาก็มาเล่าให้หลวงปู่ฟังท่านก็พูดกับผู้เขียนว่า “คนเราบางทีต้องอาศัยไหวพริบปฏิภาณ” แกเลยงงว่าใครคือพระศรีอาริย์ “แล้วแกล่ะว่าเป็นใคร” ท่านพูดแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี http://www.watthummuangna.com/ |