ข่าวดีจากหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด จะขออนุญาตคัดลอกเฉพาะบางส่วนนำมาให้ลูกๆหลานๆของหลวงปู่ศึกษาพิจารณา เป็นบางช่วงของการสนทนาของหลวงปู่ทวดในแดนที่พักปัจจุบันของหลวงปู่ กับคุณไพศาล แสนไชย และเจ้าพญาพิงคราช ที่ได้มานำจิตวิญญาณ ของคุณไพศาล เดินทางไกลไปพบหลวงปู่ยังที่พักของท่าน
ต่อไปนี้เป็นคำสนทนา
"หลวงปู่ได้ธุดงค์มาจนถึงน้ำตกทรายขาว ก็ได้บำเพ็ญธรรมอยู่ที่นั้นระยะหนึ่ง น้ำตกนี้นะเย็นดีเหมือนอยู่สรวงสวรรค์"
|
"ผมยังไม่เคยไปน้ำตกทรายขาวเลยครับ" ไพศาลพูด "ไปเสียนะ" หลวงปู่ทวดตอบ "ครับ ถ้าผมว่างผมจะไป" "เสร็จจากนั้น หลวงปู่ก็ได้ธุดงค์มาเรื่อยๆ จนถึงวัดพระโคะ หลวงปู่มามองเห็นวัดนี้ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่โบราณ และกำลังทรุดโทรม จึงได้มาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ ขึ้นมาใหม่ เช่นสร้างพระวิหาร อุโบสถ ธรรมศาลา และได้บูรณะพระศรีรัตนธาตุ สูง 1 เส้น 5 วา" (ในสมัยโบราณ เครื่องทุ่นแรงก่อสร้างไม่สะดวกเหมือนปัจจุบัน พระศรีรัตนธาตุแห่งนี้จึงสูงเด่นมากทีเดียวในยุคนั้น)
เมื่อบูรณะเสร็จ หลวงปู่ได้นำเอาลูกแก้วที่เป็นของคู่บุญของท่าน ที่มีพญางู (เทวดาจำแลง) นำมาให้สมัยที่ยังเป็นทารก มาบรรจุไว้ที่ยอดพระเจดีย์ และหลวงปู่ก็ได้ตั้งชื่อพระเจดีย์นี้ใหม่ว่า "สุวรรณมาลิกะเจดีย์ ศรีรัตนมหาธาตุ" ซึ่งเรื่องนี้คนในเมืองมนุษย์ก็รู้เรื่องเช่นเดียวกัน
ระยะเวลาจากเมืองอโยธยา (อยุธยา) มาถึงวัดพระโคะ หลวงปู่ใช้เวลาธุดงค์มาเรื่อยๆ 3 เดือนกว่าๆหลวงปู่ได้พูดขึ้น
หลวงปู่ทวดได้พำนักและปฏิสังขรณ์วัดพระโคะจนเสร็จสมบูรณ์ดีแล้ว มีวันหนึ่งสามเณร "บุญรอด" มาหาหลวงปู่ ก็ได้สอบถามดูว่า มีธุระอะไร จึงได้รู้จากสามเณรว่า ได้นำดอกไม้มาดอกหนึ่ง ถามใครก็ไม่รู้จักดอกไม้นี้เลย หลวงปู่จึงได้ถามออกมาว่า "ดอกไม้อะไรที่ไหน" เณรจึงดึงดอกไม้นั้นออกจากผ้าที่ครองอยู่ หลวงปู่จึงได้รู้ว่า ดอกไม้นี้คือ ดอกมณฑาสวรรค์ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมากกว่าดอกไม้ทั้งหลายที่มีอยู่ในโลกมนุษย์
ดอกไม้นี้เมื่อสมัยมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ หลวงปู่ได้นั่งสมาธิเข้าฌานสมาบัติจนถึงที่สุด จึงได้ไปพบเห็นดอกมณฑาสวรรค์ "ไพศาลเห็นต้นและดอกมันไหม" หลวงปู่ถามขึ้น ไม่เคยเห็นครับ "ผมตอบ"
"ไม่เห็นอย่างไร ก่อนที่จะมาถึงที่นี้ ต้นไม้ที่อยู่หัวถนน 2 ต้นนั้นอย่างไร "หลวงปู่บอก ผมจึงตอบว่า "อ๋อ ครับ ผมเห็นแต่ก็ลืมไป" "หลวงปู่ทวดหัวเราะขึ้น ส่วนสามเณรน้อยคือ เณรบุญรอดเมื่อรู้ว่า หลวงปู่รู้จักดอกไม้อันนี้ จึงได้ก้มลงกราบหลวงปู่ทวด ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา เพราะว่าเณรน้อยบุญรอด เข้าใจว่าผู้ได้รู้จักดอกไม้นี้ ผู้นั้นคือพระ....เออ หลวงปู่ตอบไม่ได้ รู้สึกไม่ดีต่อหลวงปู่เอง เพราะหลวงปู่อยู่ในเพศอย่างนี้ ให้ท่านพญาพิงคราชช่วยตอบให้ที ให้หลานไพศาลรู้หน่อยเถอะ"
พญาพิงคราชจึงได้ตอบแทนหลวงปู่ทวดขึ้นว่า "ผู้ใดรู้จักดอกมณฑาสวรรค์นี้ ผู้นั้นคือ "พระศรีอริยะเมตตรัย" ผู้จะได้มาโปรดโลกมนุษย์ในภายภาคหน้า ต่อจากศาสนาพระพุทธเจ้าโคตะมะ ซึ่งความเข้าใจของเณรบุญรอดองค์นี้ถูกต้อง
ด้วยเหตุนี้เองหลวงปู่กลัวเรื่องดอกมณฑาสวรรค์ จะแพร่ออกไปเพราะเมื่อแพร่ออกไปชาวบ้านชาวเมืองได้รู้จะต้องมารบกวนถามจากหลวงปู่ และสามเณรบุญรอดนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงได้พาเณรบุญรอดเข้ากุฏิ และได้เข้าฌานสมาบัติ
ตอนที่เข้าสมาบัตินั้นหลวงปู่เข้าได้คนเดียว เณรทำไม่ได้ หลวงปู่ต้องบอกวิธีลัด จึงทำให้หายตัวออกไปจากกุฏินั้นได้ แล้วได้ไปปรากฏตัวใหม่ (กายใหม่) ที่มีคนเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแล้ว ได้ทำการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ณ ที่นั้นๆด้วย
หลวงปู่ได้เผยแพร่ธรรมะ จนถึงเมืองไทรบุรี จึงได้สร้างและบูรณะวัดขึ้นมาวัดหนึ่งชื่อ "วัดโกระไหน" เมื่อสร้างเสร็จ หลวงปู่ก็ได้บำเพ็ญสมณธรรมอยู่ ณ ที่นี้จนสิ้นอายุขัยเมื่อเดือน 5 ขึ้น 15 ค่ำ ปี พ.ศ. 2215 อายุได้ 90 ปีเต็ม อ่านบทสนทนาทั้งหมดในคราวนั้นได้ที่ http://www.thai2handlh.com/UserFiles/File/Nimit_Paisarn.pdf
นี่เป็นบทสนทนาของหลวงปู่ทวด คุณไพศาล แสนไชย ทูตสวรรค์จากเมืองมนุษย์ และพญาพิงคราช ถึงเบื้องหลังการอวตาลของพระศรีอริยะเมตตรัย มาช่วยสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ ในระยะสั้นๆ บรรดาลูกๆหลานๆของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดก็ดี หรือพระศรีอริยะเมตตรัย ก็ดี สามารถน้อมจิตอัญเชิญพระองค์ท่าน ให้มาสถิตย์อยู่ที่หน้าฝากระหว่างคิ้วทั้ง 2 ข้างของเรา ด้วย นะโมตัสสะ... 3 จบ แล้วต่อด้วย อิติ อิติ นะโมโพธิสัตว์โต อาคันติมายะ อิติภควา 3 วาระ พร้อมใช้จินตนาการให้เห็นชัดเจน
แล้วจึงขอบารมีของหลวงปู่ เปล่งแสงแห่งบุญบารมี สว่างดุจแสงพระอาทิตย์ยามเที่ยงวันออกไปรอบตัวเรา ไปทั่วทั้ง 3 โลก (พร้อมกับใช้จินตนาการของเราตามไป ให้เห็นแสงสว่างชัดเจนแผ่กว้างออกไปไม่มีที่สิ้นสุด) พร้อมกับคำภาวนาว่า
นะโมฯ 3 จบ ต่อด้วย..
อิติ อิติ อิติ โพธิสัตว์
อิติ ติอิ อิติ ติอิ อิติ ติอิ นะโมโพธิสัตว์โต อาคันติมายะ อิติภควา
นะเปิด โมเปิด พุทเปิด ธาเปิด ยะเปิด
เปิดโลกด้วยนะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ.
.. 3 ครั้ง
ด้วยพลังบุญและเมตตาบารมีของหลวงปู่ทวด หรือนัยหนึ่งพระศรีอริยะเมตตรัย พระบรมโพธิสัตว์วิริยะบารมีเต็ม 16 อสงไขย กำไรแสนมหากัปล์ ร่วมกับพระเมตตาบารมี และบุญกุศลของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ ในภัทรกัปล์ นี้ ปกแผ่ไปกับพระฉัพพรรณรังษี ของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ ไปถึงยังเทพเจ้า และสรรพวิญญาณทั้งหลายทุกท่าน ที่เฝ้ากองบุญของข้าพเจ้านาย... อยู่ทั่วทิศทั้ง 6 รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทั้งหมด จงได้โมทนาบุญกุศล และได้รับพลังเมตตาบารมี ของพระและของตัวข้าพเจ้า เพื่อความสุขโดยทั่วกัน
และข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ต่อเจ้ากรรมนายเวรและพ่อเกิดแม่เกิด และญาติทั้งมวล ที่ได้เคยล่วงเกินต่อกันมา จะโดยเจตนาหรือไม่ได้เจตนาก็ดี ขอให้ทุกๆดวงจิต จงมีความสุขในคติภพใหม่โดยทั่วกัน ขอให้บุญกุศลของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ที่ถูกเปิดออกแล้ว ด้วย นะโมพุทธายะ จงเปลี่ยนเป็นแก้วแหวนเงินทอง ธุรกิจหน้าที่การงาน นับแต่นี้เป็นต้นไป ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปจนสิ้นอายุขัย (พร้อมกับจินตนาการความสำเร็จต่างๆให้จิตของเราได้เห็นอย่างชัดเจน ด้วยใจสบายๆ)
สำหรับท่านที่มีศรัทธาและเข้าใจ ในการเปิดบุญเก่าของเรา นำมาให้ผลในปัจจุบันที่เป็นรูปธรรมต่างๆที่กล่าวแล้ว ให้ทำใจสบายๆ ไม่ต้องไปกังวล ถึงว่าจะได้เมื่อไรอย่างไร เป็นหน้าที่ของจิตใต้สำนึก และพลังบุญบารมีของเราที่เป็นอิสระแล้วจากการปิดกั้นของเจ้ากรรมนายเวรได้ถูกเปิดออกแล้ว ด้วยพลังเมตตาบารมีและพลังบุญกุศลของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์และบุญเก่าของเราจะมาให้ผลเอง ซึ่งเราไม่ต้องไปทราบรายละเอียด โดยเราก็ทำหน้าที่ของเราไปตามปกติ แล้วตัวท่านก็จะทราบเอง